ตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีแรก “ผิดคาด” กำลังซื้อหด หลายค่ายปรับแผน หวังเงินรัฐบาล ช่วยดันเศรษฐกิจ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีแรกผิดจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้พอสมควร โดยหากย้อนไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ผู้ประกอบการทุกค่ายต่างมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น และส่งผลบวกให้กับกำลังซื้อภายในประเทศ แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรังมานานบวกกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง เป็นผลให้เศรษฐกิจครึ่งปีแรกและกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว
ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายค่าย ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แม้ว่าจะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ไม่ถึงเป้าที่วางไว้ หลายค่ายต้องปรับแผน ลดเป้า สลับโครงการที่มั่นใจว่าจะขายได้มาเปิดตัวก่อน
ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ศุภาลัย ที่ปรับแผนนำโครงการที่อยู่บนทำเลในเมือง หรือใกล้เมืองที่มีความมั่นใจว่าจะมียอดขายที่ดีมาเปิดตัวก่อน หลังจากยอดขายรวม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงต้นเดือน พ.ค. ที่ทำได้ 5,500 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ 5% เช่นเดียวกับบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่เตรียมเลื่อนเปิด 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดได้ดีหรือไม่ ซึ่งการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ คาดว่าจะมีผลให้ยอดขายปีนี้ต่ำกว่าเป้าหมาย 10%
ด้านบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือคิวเฮ้าส์ หนึ่งในรายใหญ่ ที่ตัดสินใจปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้ลงเหลือ 10% หรือมีมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 20% หรือ 2.4 หมื่นล้านบาท หลังจากเห็นสัญญาณเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่คาด นี่เป็นเพียงหนังตัวอย่างของผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ยังไม่นับรายกลางและรายเล็กหลายรายที่เจ็บหนักกับภาวะตลาดในครึ่งปีแรก
ขณะที่บริษัท พฤกษา บริษัท เอพี และบริษัท แสนสิริ 3 ค่ายใหญ่ที่แม้จะมีความเคลื่อนไหวยอดขายตามเป้า และหลายโครงการใหม่ที่เปิดตัว ก็มียอดขายที่หวือหวา แต่ก็เหนื่อยไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นพฤกษา ที่ต้องขนโครงการที่ยังขายล็อตสุดท้ายกว่า 20 โครงการมาจัดโปรโมชั่นหั่นราคา 5% เพื่อกระตุ้นยอดขาย เอพี ต้องเลือกคอนโดมิเนียมทำเลฮอตๆ ที่ประเมินแล้วว่า จะขายได้แน่นอนมาเร่งเปิดตัวโค้งท้ายของครึ่งปีแรก
ส่วนแสนสิริที่เร่งเข็น 2 โครงการทำเลดี ทั้งเดอะโมนูเมนต์ สนามเป้า และ เดอะ ไลน์ หมอชิต-จตุจักร มาเปิดตัว พร้อมกับอัดโปรโมทอย่างหนักทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับทำเลทั้งสองโครงการ เพื่อดึงดูดทั้งกลุ่มผู้ซื้ออยู่จริงและซื้อลงทุนรวมถึงอาศัยเครือข่ายที่แข็งแกร่งของกลุ่มบีทีเอสในการนำโครงการเดอะ ไลน์ ไปเปิดตลาดที่ฮ่องกงและสิงคโปร์
ไม่เพียงแต่โครงการใหม่ของกลุ่มแสนสิริเท่านั้นที่นำไปโรดโชว์ขายในต่างประเทศ แต่โครงการหรูที่เสนอขายตั้งแต่ 2 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไปที่ผู้ประกอบการหลายรายแห่เปิดตัวในครึ่งปีแรก ก็นำไปโรดโชว์ในต่างประเทศเช่นกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ปรับขึ้นเร็วมากไม่สอดคล้องกับกำลังซื้อในประเทศที่แผ่วลง และกลุ่มคนมีกำลังซื้อยังไม่เร่งตัดสินใจเพราะยังไม่มั่นใจกับสภาวะเศรษฐกิจ จึงต้องพึ่งกำลังซื้อบางส่วนจากผู้ซื้อชาวต่างชาติที่มองไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ยังน่าลงทุน
จากบรรยากาศในช่วงครึ่งปีแรกที่แม้จะยังไม่ดีนักแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงมอบภาพครึ่งปีหลังเป็นบวก โดยล้วนกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า รอความหวังการเร่งเครื่องโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ หากรัฐสามารถเปิดประมูลโครงการเครือข่ายคมนาคมขนาดใหญ่หลายโครงการที่ประกาศไว้แล้วได้ รวมถึงเร่งเบิกจ่ายเม็ดเงินจริงเข้าสู่ระบบจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจหมุนรอบใหม่ได้อีกครั้ง
แต่ถ้าครึ่งปีหลังโครงการก่อสร้างใหม่ๆ ยังไม่เกิด และการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐไม่ได้ตามเป้าหมาย ผู้ประกอบการต่างประเมินว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังอาจจะยังไม่ฟื้นตัว และอาจจะเห็นแสงสว่างที่ปลายทางอีกครั้งไตรมาสแรกของปี 2559 เพราะหนี้ครัวเรือนยังเป็นอุปสรรคหลักที่เชื่อว่ายังเรื้อรังต่อเนื่องอีก จนกว่ากลุ่มคนชนชั้นกลาง-ล่างที่มีหนี้สูง จะลดสัดส่วนหนี้สินของตัวเองลงได้ จะเป็นกลุ่มที่กลับมาจับจ่ายอีกครั้ง
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในครึ่งปีหลัง เลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นตลาดระดับกลาง เพราะโครงการหรูบนทำเลไพรม์ๆ หลายโครงการเปิดตัวไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้น จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของผู้ประกอบการที่เตรียมเปิดศึกตลาดนี้รอบใหม่ โดยส่วนใหญ่ประเมินว่า แม้ตลาดระดับกลางจะยังเผชิญหน้ากับปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่เป็นฐานตลาดใหญ่ที่ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง จะสามารถประคับประคองยอดขายได้
ประเมินจากสัญญาณเศรษฐกิจแล้ว ปีนี้อาจไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ภาพรวมตลาดจะยังคงขยายตัวจากปีที่แล้ว 5-10% เพราะปัญหาทางการเมืองในปีที่แล้วทำให้ฐานยอดขายไม่ได้สูงมาก แต่หากเทียบกับปี 2556 แล้ว ตลาดอสังหาฯ ปี 2558 ถือว่ายังไม่ดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โพสต์ทูเดย์