EP.789 รีวิว ทาวน์โฮม พาทิโอ บางนา-วงแหวน Patio Bangna-Wongwaen

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะขอพาไปชม โครงการ Patio บางนา – วงแหวน ทาวน์โฮมหรูรุ่นขายดีจาก พฤกษา เรียลเอสเตท บนทำเลใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อสู่ถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนศรีรัช และมอเตอร์เวย์ ทั้งยังอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้างสรรพสินค้า และนิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นแหล่งทำงานมากมาย

พาทิโอ บางนา-วงแหวน เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่โครงการขนาด 39 ไร่ จำนวนบ้านทั้งโครงการ 372 ยูนิต ออกแบบภายใต้แนวคิด “The Combination of Generation” ที่ออกแบบมาสำหรับทุก Generation ให้สามารถใช้ชีวิตภายใต้สังคมคุณภาพ กับบ้านที่ออกแบบให้ตอบสนองทุก Life style ทั้งกับครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้น ครอบครัวขนาดใหญ่ และครอบครัวสมัยใหม่ที่เริ่มต้นธุรกิจ มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 178 ตรม. คาดว่าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไตรมาส 4/2560

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มากกว่า 1 ไร่ พร้อมสนามเด็กเล่น และสวนพักผ่อนของผู้ใหญ่ สระว่ายน้ำระบบเกลือ และคลับเฮาส์ อีกทั้งอุ่นใจด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ซอย 01 กาญจนาภิเษก 39 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พิกัด Google : 13.680931, 100.715722

โครงการ Patio บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่ใกล้ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่มีเส้นทางคมนาคมสะดวกสบาย ใกล้ถนนบางนา-ตราด เข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมืองและแหล่งที่ทำงานต่างๆได้ง่าย ใกล้ทั้งทางด่วน และถนนมอเตอร์เวย์

map ของโครงการด้านบนจะเป็นเส้นทางจากโครงการไปยังถนนสายสำคัญต่างๆ ทั้งเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกวิ่งไปมอเตอร์เวย์, ถนนกิ่งแก้วที่วิงไปสนามบินสุวรรณภูมิ,ถนนบางนา-ตราด ที่มีห้างใหญ่ๆของย่านบางนาอย่าง Mega Bangna, Ikea และนิคมอุตสาหกรรมมากมาย

ผู้คนที่อยู่อาศัยในโซนนี้ ส่วนมากจะเป็นคนที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรม เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ทำเลโซนนี้เต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรร, อาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านนั่งชิล มีหอพัก, อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า และคอนโดใหม่เกิดขึ้นมากมาย ออกไปรอบนอกก็มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, หน่วยงานราชการ, สถานศึกษา, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงร้านค้า และตลาดสด จัดว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ทีเดียว

สำหรับคนใช้รถ โครงการ Patio บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 39 เชื่อมระหว่างวงแหวนกาญจนาภิเษกและถนนกิ่งแก้ว(ซ.กิ่งแก้ว 25/1) ซึ่งเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่นๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนบางนา-ตราด, มอเตอร์เวย์, ถนนกิ่งแก้ว, ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนนบางพลี-ลาดกระบัง และถนนย่อยๆต่างๆอีกมากมาย

โครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่บางนา-ตราดประมาณ 6.2 กม.โดยถนนบางนา-ตราด ถือได้ว่าเป็นถนนเส้นหลักสายสำคัญของคนโซนสมุทรปราการเลยก็ว่าได้ เป็นถนนใหญ่ มีช่องจราจร 8-10 เลน ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวก คล่องตัว

สำหรับคนที่ทำงานในเมือง ก็มีทางด่วนให้เลือกหลากหลาย จะใช้ทางด่วนบูรพาวิถี มุ่งหน้าสู่โซนสุขุมวิท-สาทร-สีลม ก็สะดวก หรือจะใช้มอเตอร์เวย์ เชื่อมสู่ทางด่วนพระราม 9 มุ่งหน้าเข้าโซน New CBD ก็ได้เช่นเดียวกัน สุดท้ายจะใช้เส้นถนนวงแหวนตะวันตก เชื่อมสู่โซนพระราม 2 หรือจะออกไปยังรามคำแหง อันนี้ก็เลือกใช้กันได้ตามเส้นทางที่ต้องการเดินทาง หากต้องการออกเมืองไปชลบุรี ก็มอเตอร์เวย์เลยค่ะ ถ้ารถไม่ติดชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว

โครงการ Patio บางนา-วงแหวน อยู่ห่างจากมอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่) ประมาณ 8.3 กิโลเมตร หรือระยะขับรถแค่ประมาณ 16 นาทีเท่านั้น พอขึ้นมอเตอร์เวย์แล้วเชื่อมต่อไปทางด่วนศรีรัชวิ่งไปทางด่วนด่านพระราม 9 ได้ในเวลาประมาณ 24 นาทีเท่านั้น

แยกและถนนใกล้เคียง

• แยกบางพลี-คลองขุด 6.2 กม.
• แยกหนองบอน, ประเวศ 9.4 กม.
• มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ – ชลบุรีสายใหม่ 8.3 กม.
• ถนนบางนา – ตราด 6.2 กม.
• ถนนอ่อนนุช 6.5 กม.
• ถนนลาดกระบัง 6.9 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ 9.4 กม.

สำหรับคนไม่ใช้รถ โครงการ Patio บางนา-วงแหวน ตั้งอยู่ใกล้ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก รอบๆเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ พวกโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นส่วนใหญ่ จะออกไปไหนก็ต้องใช้แท็กซี่หรือเรียกวินมอเตอร์ไซค์เป็นหลัก

ตัวโครงการอยู่ห่างจากแอร์พอร์ตลิงก์สถานีบ้านทับช้างประมาณ 8.3 กม. เป็นระยะที่คนไม่ใช้รถสามารถนั่งรถไปต่อได้ในเวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งใช้นั่งเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 อโศก หรือ บางกะปิ ได้ง่าย

ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองสร้างเสร็จ ก็จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ของผู้อยู่อาศัยย่านบางนาได้ดีขึ้น โดยสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีศรีเอี่ยม ที่ถึงจะไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินถึง แต่ต่อรถไปได้ไม่ไกลมาก ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกและทางเลือกในการเข้าเมืองให้เราได้ดีนะคะ และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะไปเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่ สถานีสำโรง

สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการ Patio บางนา-วงแหวน มีที่ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 39 เชื่อมต่อระหว่างวงแหวนกาญจนาภิเษกและถนนกิ่งแก้ว รอบๆโครงการเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก แต่พอออกมาที่ถนนบางนา-ตราดถือว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 กม. เท่านั้น

โดยที่ถนนใหญ่ บางนา-ตราด มีไฮเปอร์มาร์เก็ตอยู่หลายแห่ง ทั้งเทสโก้ โลตัส บางพลี, เทสโก้ โลตัส บางนา-ตราด, บิ๊กซี บางพลี, มาร์เก็ต วิลล่า ส่วนศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และแหล่งขายวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้าน ก็มีทั้ง เมกา บางนา, อิเกีย บางนา, คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์, โฮมโปร @ มาร์เก็ต วิลล่า, ไทยวัสดุ บางนา และบุญถาวร บางนา

นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษา อย่าง ม.รามคำแหง 2, ม.อัสสัมชัญ, ม.หัวเฉียว, ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ ในส่วนของโรงพยาบาล ใกล้กับ รพ. บางบ่อ, รพ.บางนา 2, รพ.รวมชัยประชารักษ์, รพ.จุฬารัตน์ 5 ถ้าห่างออกไปหน่อยก็จะมี รพ.เซ็นทรัลปาร์ค และรพ.บางพลี ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้โครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• เทสโก้ โลตัส บางนา-ตราด 6.6 กม
• สวนหลวง ร.9 8.3 กม.
• แมคโคร บางพลี 9.3 กม.
• SB Design Square 11.2 กม.
• โฮมโปร @ มาร์เก็ต วิลล่า 11.1 กม.
• ไทวัสดุ บางนา 12.2 กม.
• เมกา บางนา 12.9 กม.
• Paradise Park 11.3 กม.
• Seacon Square, ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ 13.4 กม.
• อีเกีย บางนา 14 กม.
• คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ 22.1 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.จุฬารัตน์ 950 ม.
• รพ.เซ็นทรัลปาร์ค 12.4 กม.
• รพ.บางพลี 12.3 กม.
• รพ.บางนา 1 14.6 กม.
• รพ.บางนา 2 19.3 กม.

สถานศึกษา

• ม.ราม 2 5.2 กม.
• ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 14.8 กม.
• ร.ร.สารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ 15.6 กม.
• วิทยาลัยเกริก 16.5 กม.
• ABAC บางนา 16.7 กม.
• วิทยาลัยเซาธ์อีสท์ บางกอก (บางพลี) 18.8 กม.
• ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ 26.2 กม.

สถานที่ราชการ และหน่วยงานอื่น ๆ

• ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 15.3 กม.
• นิคมบางพลี 25.3 กม.
• สนง.ที่ดินอำเภอบางพลี 23.3 กม.

การเดินทาง

วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจากถนนบางนา-ตราด → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก → ตรงมาประมาณ 4.2 กม.เพื่อกลับรถใต้สะพาน → ตรงมาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกาญจนาภิเษก 39 → ตรงมาตามทาง จะเจอทางเข้าโครงการ Patio บางนา-วงแหวน อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

เริ่มเดินทางกันบนถนนบางนา-ตราด ซ้ายมือจะเห็น SB Design Square

ซักพักเราจะเจอ เทสโก้ โลตัส บางนา-ตราด ที่ฝั่งซ้ายมือ ก่อนถึงทางทางเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก โลตัสนี้เป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด คือประมาณ 6.6 กม.

ฝั่งเยื้องๆตรงข้ามโลตัสจะเป็นห้างใหญ่ของคนย่านนี้อย่าง เมกะบางนา และ อิเกีย บางนา ที่อยู่ห่างจากโครงการรวมระยะวนรถแล้วประมาณ 12.9 กม. ค่ะ เมกะบางนาจะอยู่ตรงสี่แยกที่ถนนบางนา-ตราด ตัดกับวงแหวนกาญจนาภิเษกพอดี พอเราเห็นเมกะบางนา เราตรงไปและเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกได้เลย

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกตรงมาประมาณ 4.2 กม.เพื่อกลับรถใต้สะพานแล้วตรงมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกาญจนาภิเษก 39 ตรงมาตามทางจะเจอทางเข้าโครงการ Patio บางนา-วงแหวน อยู่ทางขวามือ

เราชิดซ้ายตรงไปทางถนนอ่อนนุช โดยเลี้ยวซ้ายไปตามทาง

ขับตรงมาเรื่อยๆบนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก

ตรงมากลับรถใต้สะพาน

เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถใต้สะพาน

กลับรถแล้วตรงมาหน่อย จะเจอซอยกาญจนาภิเษก 39 เราก็เลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ

จุดสังเกตนอกจากป้ายซอยกาญจนาภิเษก 39 แล้ว จะมีป้ายโครงการ Patio บางนา-วงแหวน ขนาดใหญ่ติดอยู่ที่หน้าปากซอยด้วย

ที่ปากซอยกาญจนาภิเษกจะมี 7-11 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือด้วย อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 2 กม.

ตรงไปตามทางค่ะ ถนนในช่วงต้นซอยจะเป็นถนนสี่เลน รถสวนเข้าออกได้ และพอจอดรถลงไปซื้อของกินข้างทางได้อย่างที่เห็น

ตรงเข้ามาตามทางเรื่อยๆถนนจะเปลี่ยนเป็นแบบ 2 เลนแบบนี้

เข้าซอยกาญจนาภิเษก 39 มาประมาณ 2 กม. จะเจอทางเข้าโครงการ Patio บางนา-วงแหวน อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ รอบๆโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

รอบโครงการ

โครงการ Patio บางนา-วงแหวน ที่เรามาสำรวจกันวันนี้ เป็นส่วนของ Phase 1 หรือพื้นที่ในเส้นประสีเหลืองในแผนที่นะคะ รอบๆที่ดินโครงการ ทิศตะวันตกจะเป็นหมู่บ้านของทาวน์โฮม 4 ชั้น(หรืออาคารพาณิชย์) ทิศตะวันออกเป็นที่ดินบุคคลอื่นที่ตอนนี้ถมทรายไว้เรียบร้อยแล้ว ต้องรอดูว่าอนาคตจะเป็นอะไรนะคะ ทิศใต้จะมีสะพานข้ามคลองไปพื้นที่โครงการ Phase 2 ด้านใน ซึ่งใช้ถนนทางเข้าออก, ซุ้มโครงการ และพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน

ส่วนทางเข้าออกโครงการอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ ห่างจากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกประมาณ 2 กม. ตรงข้ามและด้านข้างซุ้มโครงการจะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น รอบๆโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกันค่ะ

ซุ้มทางเข้าโครงการ Patio บางนา-วงแหวน จะอยู่ติดถนนซ.กาญจนาภิเษก 39 แบบนี้ วิ่งไปทางทิศตะวันตกไปวงแหวนกาญจนาภิเษก ตะวันออกไปถนนกิ่งแก้ว

จากซุ้มโครงการมองไปทางฝั่งทิศตะวันตก

ติดที่ดินโครงการทางฝั่งทิศตะวันตกจะเป็นถนนและอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น สร้างใหม่ ในอนาคตจะเป็นอะไรต้องมารอดูกันนะคะ อาจเป็นอาคารสำนักงาน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการอย่างเช่น 7-11 หรือร้านอาหารก็ได้

ฝั่งตรงข้ามซุ้มโครงการทางทิศเหนือ ก็เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น หน้าตาแบบเดียวกันเลย ก็มารอดูกันนะคะว่าในอนาคตจะมีร้านอะไรมาเปิดบ้าง

ถัดจากอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เยื้องๆตรงข้ามโครงการมีอู่ซ่อมรถอยู่

มองไปทางทิศตะวันออกของโครงการ

ทิศตะวันออกเป็นที่ดินบุคคลอื่นที่ตอนนี้ถมทรายไว้เรียบร้อยแล้ว ต้องรอดูว่าอนาคตจะสร้างเป็นอะไรนะคะ เข้าไปดูภายในตัวโครงการกันต่อเลยค่ะ

ตัวโครงการ

ซุ้มทางเข้าโครงการ Patio บางนา-วงแหวน เป็นซุ้มขนาดใหญ่ติดถนนซอยกาญจนาภิเษก 39 ซึ่งวันที่ไปถ่ายทำโครงการมี Air Tube สีส้มเด่นเห็นชัดแต่ไกลหน้าซุ้มโครงการ เพื่อต้อนรับผู้สนใจให้เข้ามาสอบถามข้อมูลและชมบ้านตัวอย่างภายในโครงการได้

เอาภาพจำลองซุ้มโครงการมาให้ดูกันค่ะ ตัวซุ้มมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเล็กใหญ่ซ้อนกัน แยกทางเข้าฝั่งซ้าย ทางออกฝั่งขวามือ มีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลางของ สองฝั่งของซุ้มทางเข้ามียกพื้นเป็นทางเดินเท้า และมีสวนหย่อมตกแต่งหน้าโครงการ และมีเกาะที่ปูสนามหญ้าและปลูกรั้วพุ่มไม้มาเพื่อมุมมองที่ดูร่มรื่นขึ้น

เพื่อความเป็นระเบียบในการรักษาความปลอดภัย ฝั่งขาเข้าและขาออก จะแบ่งย่อยอีกฝั่งละสองช่อง โดยลูกบ้านสแกน Access Card เข้าไปได้เลยช่องนึง และอีกช่องสำหรับผู้มาติดต่อที่ต้องแลกบัตรกับรปภ.ก่อน โดยที่ซุ้มรปภ.ตรงกลางจะมีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับและส่องป้ายทะเบียนอยู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้คนในโครงการอีกขั้น

พื้นซุ้มโครงการจะเป็นคอนกรีตสแตมป์

มีรั้วเลื่อนระบบไฟฟ้ากั้นอีกชั้น เป็นแบบ Double Gate เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น และมีประตูเล็กด้านข้างซุ้มทั้งสองฝั่งสำหรับคนเดินเข้าออกด้วย

ถนนหลักหน้าซุ้มโครงการกว้าง 16 เมตร ถนนรอง 12 เมตร และถนนในซอย 8 เมตร

เข้ามาฝั่งซ้ายมือจะเห็นรั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร และปลูกต้นไม้ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่มตามแนวรั้ว และปูสนามหญ้ามาให้ร่มรื่น

ฝั่งขวามือติดซุ้มโครงการเป็นพื้นที่ขายในอนาคตของโครงการ ปัจจุบันจัดเป็นสวนสาธารณะ

ภายในปูสนามหญ้า ปลูกไม้ยืนต้น และทำทางเดินเท้ามาให้เรียบร้อย

ถัดจากสวนเข้ามาจะเป็นอาคารสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างของโครงการ

หน้าตาบ้านเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นสไตล์โมเดิร์น สำนักงานขายจะอยู่ติดกันกับบ้านตัวอย่างและบ้านเปล่าเลย ไม่ต้องเดินไกล วันที่ไปถ่ายทำยังมีการเก็บหน้างานส่วนรอบๆสำนักงานขายอยู่ แต่ภายในพร้อมให้เยี่ยมชมได้แล้วค่ะ

เข้าไปดูภายในสำนักงานขายกันเลยค่ะ สำนักงานขายโครงการเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น

เข้าไปดูด้านในก็จะมีที่นั่งรับรองลูกค้าและเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการอยู่ค่ะ

ส่วนที่นั่งรับรองลูกค้าภายในสำนักงานขาย จัดมาให้หลายชุดทีเดียว

:: HOUSE TYPE ::

แบบบ้านในโครงการมีให้เลือก 2 แบบนะคะ เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น หน้าตาไม่แตกต่างและมีหน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. เท่ากัน แต่แตกต่างที่การจัดฟังก์ชั่นภายใน ดังนี้

• แบบบ้าน City Space Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
• ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร
• 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 Family Room
• ที่จอดรถ 2 คัน แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น

ผังบ้านแบบ City Space Deluxe : ที่จอดรถ 2 คัน แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน รองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในบ้านอย่างลงตัว ชั้นสองมีห้องนอน 2 ห้อง ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง สองชั้นแรกนี้จะเหมือนๆกันกับแบบบ้านอีกแบบค่ะ แต่ส่วนที่ต่างจากอีกแบบคือแบบนี้จะมี Penthouse ชั้น 3 พื้นที่กว้างยกชั้น เหมาะใช้เป็นห้องส่วนตัวของพ่อและแม่ มีที่นั่งดูทีวีส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าที่เต็มที่ขึ้น ใครมีลูกก็มีพื้นที่สำหรับห้องเด็กหรือวันที่ลูกขึ้นมาวิ่งเล่นได้

• แบบบ้าน City Space ขนาดพื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
• ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร
• 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 Family Room
• ที่จอดรถ 2 คัน แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น

ผังบ้านแบบ City Space : มีที่จอดรถ 2 คัน แยกพื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารอย่างเป็นสัดส่วน รองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในบ้านอย่างลงตัว ชั้นสองมีห้องนอน และ Family Space ชั้น 2 ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของครอบครัวเป็นหลัก เพื่อให้ทุกคนได้มาใช้งานร่วมกันได้ง่าย ชั้น 3 จะมีห้องนอน 2 ห้อง ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง

บ้านตัวอย่าง

บ้านตัวอย่างในโครงการ Patio บางนา-วงแหวน มีให้ชมกันครบทั้งสองแบบเลยค่ะ หน้าตาบ้านและวัสดุที่ใช้จะเหมือนๆกัน ต่างกันที่การจัดผังของชั้น 2 และ 3 บางส่วนอย่างที่ได้อธิบายในผังด้านบนนั่นเอง โดยแบบที่เราจะพาไปชมคือแบบ City Space Deluxe เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2คัน

หน้าตาภายนอกของบ้านค่ะ ใช้สีขาวเป็นสีพื้น และตัดสีทาขอบด้วยสีน้ำตาลอ่อน, สีเทาและระแนงเหล็กสีเทา ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติมากขึ้น จะเห็นว่าชายคาด้านบนหรือใต้หลังคามีช่องระบายอากาศลดความร้อนให้ชั้น 3 โดยตัวช่องเป็นแบบกันแมลง

มาดูผังบ้านกันต่อค่ะ ที่ดินแปลงมาตรฐาน 20 ตร.วา ตัวอาคารหน้ากว้าง 5 เมตร ความลึกตัวบ้านประมาณ 8 เมตร

ชั้น 1 จอดรถได้ 2 คัน เข้ามาในบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่น ต่อด้วยส่วนรับประทานอาหาร มีมุมครัวด้านในบ้าน ใกล้ประตูเปิดออกไปลานหลังบ้าน ที่สามารถต่อเติมเป็นครัวเพิ่มได้อีก สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร หรืออยากได้ห้องซักรีดเพิ่มนะคะ ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ติดประตูห้องเก็บของใต้บันได เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room

ชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก 2 ห้องส่วนด้านหน้าบ้านที่ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลางที่โถงบันได

ชั้น 3 เป็น Master Bedroom ทั้งชั้นค่ะ จะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีประตูเปิดไปห้องน้ำในตัว พร้อมพื้นที่นั่งเล่น Walk in closet และมีระเบียงในตัว

หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คันค่ะ ช่วงที่ไปถ่ายจะยังมีเฉพาะบ้านตัวอย่าง แต่ลานจอดรถของจริงจะเป็นพื้นคอนกรีตฉาบเรียบ พร้อมไฟดาวน์ไลท์ ลานจอดรถจะมีหลังคามาให้พอบังรถได้ครึ่งคันส่วนด้านหน้า และมีกันสาดยื่นมาช่วยกันแดดกันฝนให้อีกซึ่งนอกจากจะทำให้กันแดดกันฝนรถได้เต็มคันแล้ว ยังเป็นแบบโปร่งแสง ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ลานจอดรถด้วยอีกทาง

ประตูทางเข้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง มีเฉลียงหน้าบ้านขนาด 5 x 1 ม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. เป็นขนาดที่พอวางม้าหรือนั่งชั้นวางรองเท้า เอาไว้นั่งใส่รองเท้าหน้าบ้านได้อย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างนะคะ เฉลียงนี่ในบ้านของจริงยังช่วยเป็นกันชนเวลาเราถอยรถเข้าออกลานจอดรถได้ด้วย กันเราถอยรถไปชนตัวบ้านนั่นเอง

มือจับประตูทางเข้าบ้านด้านหน้าจะมีรูกุญแจมาให้ ด้านในเป็นมือจับหูช้าง พร้อมตัวบิดล็อกด้านใน และตัวล็อกแบบก้นหอยอีกชั้น เพื่อความปลอดภัยอีกขั้น แบบสมมติต่อให้คนนอกไขกุญแจได้ แต่เราหลับอยู่ด้านในแล้วล็อกก้นหอยไว้ด้วยก็จะเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอีกขั้นค่ะ

เดินเข้าบ้านมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหาร ฝั่งขวาจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องครัวค่ะ พื้นชั้น 1 เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 ซม. ฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.6 ม. ระยะดูทีวีจะอยู่ที่เกือบ 3 เมตร ทำให้วางทีวีขนาด 70″ ได้สบายๆค่ะ

ภาพจากบ้านเปล่ามุมเดียวกันค่ะ (ผังบ้านเปล่าจะกลับด้านกันอยู่นะ) ผนังเป็นแบบฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ มีบัวเชิงผนังสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ได้ตามที่เห็น ช่องแสงหลักคือประตูด้านหน้าบ้าน และประตูด้านหลังบ้าน

ส่วนห้องรับแขกวางชุดโซฟารับแขกขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมอาร์มแชร์โต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งาน โดยในบ้านตัวอย่างจะเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมที่มีหน้าต่างด้านข้าง (หรือด้านหลังโซฟาอย่างในภาพ)ให้ แต่หากเป็นบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างนะคะ

มองไปทางชั้นวางทีวี บ้านตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดียและกรุผนังเป็นผิวลายไม้ซึ่งช่วยเปลี่ยนบรรยากาศได้ดี ขวามือเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ซ้ายมือเป็นห้องเก็บของ

ภาพจากบ้านเปล่ามองไปทางส่วนชั้นวางทีวีค่ะ จะเห็นว่าของจริงประตูห้องเก็บของใต้บันไดจะเป็นประตูเล็กแบบนี้นะคะ อาจต้องก้มเวลาเข้าไปหยิบของหรือเก็บของ แต่ข้อดีคือสามารถทำชั้นลอยเก็บของหรือวางทีวีได้กว้างนั่นเอง

ถัดมาจะเป็นส่วนห้องรับประทานอาหาร อยู่ติดกับประตูบานเลื่อนเปิดออกไปลานข้างบ้าน(สำหรับบ้านมุม)และหลังบ้านได้ และมีครัวปิดพร้อมประตูบานเลื่อนมาให้ด้านข้าง

ติดกับครัวจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง เราเข้าไปดูห้องน้ำชั้นล่างกันต่อค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างพื้นจะลดระดับลงไปจากห้องนั่งเล่นประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. สุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler ห้องน้ำเป็นห้องแบบ Powder Room นะคะ คือไม่มีส่วนอาบน้ำ แต่จะมีอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มาให้ พร้อมกระจกเงาได้ตามที่เห็น

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดพัดลมดูดอากาศมาให้ เนื่องจากไม่มีหน้าต่างในห้องน้ำ จึงมีพัดลมช่วยระบายอากาศนั่นเอง

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้ดูค่ะ อ่างมีขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่ค่อยมีที่วางของรอบอ่างเท่าไหร่ แนะนำให้ต่อเคาเตอร์อ่างเพิ่มเพื่อเพิ่มพื้นที่วางของนะคะ เพราะมีระยะพื้นที่รอบอ่างพอ สามารถต่อเคาน์เตอร์เพิ่มได้

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler มีสายฉีดชำระและที่วางทิชชู่สแตนเลสเข้าชุดกันมาให้

ส่วนรับประทานอาหาร วางโต๊ะอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ซึ่งเหลือระยะเดินรอบๆสบายๆนะคะ

มาดูส่วนครัวกันต่อค่ะ จะเห็นว่าได้ครัวปิด กั้นห้องประตูบานเลื่อนแบบสองบานมาให้เรียบร้อย ซึ่งอันนี้ดีค่ะ ทำให้เราไม่ต้องกั้นห้องเอง และมีครัวปิดที่เวลาทำอาหารเวลามีกลิ่นหรือควัน ก็ไม่เข้าสู่ห้องนั่งเล่นหรือส่วนอื่นๆของบ้าน ใครไม่ค่อยทำอาหาร ปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อย่างห้องเล่นเกมส์หรือห้องเลี้ยงเด็กก็ได้เช่นกัน

ส่วนครัวบ้านตัวอย่างวางเคาน์เตอร์มาให้ดูระยะใช้งานนะคะ วางมาเป็นรูปตัว L ให้เราดูระยะเวลาประกอบอาหาร ล้างจาน ด้านบนติดชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่วางของ พร้อมเครื่องดูดควันเหนือเตาไฟและ Back Splash ที่ผนังหลังเตาเพื่อช่วยกันเปื้อน และเว้นที่ไว้ให้วางตู้เย็นได้แบบกำลังพอดี

ภาพจากบ้านเปล่ามุมครัวจะมาเป็นโล่งๆแบบนี้นะคะ แต่จะมีเจาะช่องเตรียมงานระบบท่อประปาสำหรับอ่างล้างจานในครัวมาให้เรียบร้อย และมีหน้าต่างบานเปิดในครัวมาให้เปิดระบายอากาศเวลาทำอาหารได้

ส่วนห้องรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกลานหลังบ้านอยู่ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน มีตัวล็อกก้นหอยให้เป็นล็อกสองชั้นเหมือนประตูและหน้าต่างทุกบานในบ้านค่ะ เราออกไปดูหลังบ้านกันต่อเลย

ลานหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตลดระดับต่ำกว่าพื้นบ้านประมาณ 10 cm. แท้งค์น้ำขนาด 1000 ลิตร ของจริงได้ตามนี้ มีการต่อท่องานระบบไว้ให้ และติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้เรียบร้อย ข้อดีของลานหลังบ้านคือมีการก่อกำแพงสูงลาดเอียงลงมา เป็นโครงสร้างที่เตรียมไว้ให้ต่อเติมหลังบ้านโดยการเพิ่มหลังคากันแดดกันฝนได้ง่าย

ส่วนเหนือประตูติดไฟสำหรับตอนกลางคืนมาให้เรียบร้อย จะเห็นว่าข้างบ้านมีทำกันสาดส่วนลานหลังบ้านเพื่อกันแดดกันฝน เพิ่มพื้นที่ใช้งานส่วนครัวได้อีกนะคะ บางคนอาจก่อเคาน์เตอร์ครัวหลังบ้านเลย เวลาผัดๆทอดๆก็เต็มที่ไปเลย หรือบางคนอาจใช้วางเครื่องซักผ้านอกบ้านก็ได้

ภาพลานหลังบ้านในบ้านตัวอย่างค่ะ ต่อเติมมาให้ดูเป็นไอเดีย เพิ่มพื้นที่ใช้งานในบ้านได้ดีนะคะ กลายเป็นครัวแบบ Pantry พร้อมโต๊ะนั่งรับประทานอาหารเช้า สังเกตว่าเพดานมีทำ Sky Light ดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้ในตอนกลางวัน ทำให้ห้องสว่างอย่างที่เห็น

กลับเข้ามาในบ้านเราขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อนะคะ บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ติดประตูทางเข้าหน้าบ้านเลย โดยเป็นบันไดไม้สำเร็จสีอ่อน ลูกตั้งเป็นไม้สีเดียวกันตีปิดทึบ

ข้อดีคือชานพักบันไดเป็นแบบเต็มขั้นไม่มีปาดขั้นสามเหลี่ยมนะคะ

ขึ้นมาชั้น 2 ที่โถงบันไดจะเป็นทางเชื่อมระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง มีห้องน้ำคั่นตรงกลาง และบันไดทางขึ้นไปชั้น 3

บ้านตัวอย่างตกแต่งผนังที่โถงทางเดินชั้น 2 มาให้ดูเป็นไอเดีย

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่ามีมุมให้วางโต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางของตกแต่ง หรือตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมที่โถงทางเดินได้ พื้นชั้น 2 และชั้น 3 เป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนได้ตามนี้ เราไปดูห้องนอนติดบันไดทางขึ้นชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ

ห้องนอนใหญ่นี้อยู่ส่วนด้านหน้าบ้าน บ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูระยะ มีพื้นที่ข้างเตียงเดินรอบๆได้สบายๆ

ข้างเตียงกว้างขวาง บ้านตัวอย่างทำ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ก็จะเห็นว่ายังเหลือระยะข้างเตียงแบบไม่อึดอัด

จะเห็นว่าปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเฟือ พอวางเสื่อเล่นโยคะปลายเตียง หรือวาง Bed Bench ปลายเตียงได้

ภาพผนังส่วนหน้าบ้านของห้องนอนใหญ่จากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นช่องเจาะของประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไประเบียงและหน้าต่างได้ชัดเจนขึ้น

ประตูเปิดออกไประเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกรอบอลูมเนียมสีขาว ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง แบบ 3 ตอน ข้อดีของประตูแบบ 3 ตอนคือสามารถมีช่องเปิดที่กว้างกว่า 2 ตอนนั่นเอง

ส่วนพื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาลอ่อน ขนาด 30 x 30 cm. มีราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำมาให้ สามารถใช้วางกระถางต้นไม้ริมหน้าต่างได้ หลักๆใช้วางแอร์คอมเพรสเซอร์และเป็นช่องเปิดรับลมให้ห้องนอนอีกทางด้วย

มองไปทางฝั่งปลายเตียงในบ้านตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงานโต๊ะใหญ่มาให้ดูเป็นไอเดีย

ออกมาจะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง เราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลย

พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 cm. วัสดุสุขภัณฑ์จะคล้ายๆกัน คือเป็นกระเบื้องผิวด้าน 60×60 เซนติเมตร สุชภัณฑ์ Kohler ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกมาให้พร้อมฉากกั้นกระจกเทมเปอร์เข้ามุม

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานห้องน้ำเหนือโถสุขภัณฑ์ติดพัดลมดูดอากาศมาให้เพื่อช่วยระบายอากาศ มีหน้าต่างบานกระทุ้งอีกบาน

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาของจริงได้ตามนี้ค่ะ

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ไม่มีที่วางของรอบๆมากนัก สามารถทำเคาน์เตอร์ไว้วางของเพิ่มได้นะคะ เพราะมีระยะพอ

สุขภัณฑ์ของ Kohler รุ่นเดียวกันกับชั้นล่างค่ะ

ฉากกั้นส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำเป็นประตูแบบบานเลื่อนเข้ามุม เปิดปิดจากตรงกลางแบบนี้

ที่ผนังหลังฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย และมีที่วางสบู่เล็กๆมาให้ เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวให้ดู จะเห็นว่ามีขนาดใหญ่เหมาะมือดี และสามารถปรับระดับหยดน้ำได้

และจากที่โถงบันไดชั้น 2 จะมีห้องนอนอีกห้อง ซึ่งอันนี้บ้านตัวอย่างจัดเป็น Family Room หรือ Multi Purpose Area ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องนั่งเล่นชั้น 2 มาให้ดูเป็นไอเดีย โดยจะอยู่ติดกับบันไดทางลงไปชั้น 2 ค่ะ

Family Area หรือ ห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นสองนี้เป็นพื้นที่สำคัญที่คนในครอบครัวจะได้มาใช้ร่วมกันก่อนนอน หรือพักผ่อนร่วมกันนะคะ เพราะมีความเป็นส่วนตัวกว่าชั้นล่าง ในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาดใหญ่กว่าเตียงนอนมาให้ดูระยะใช้งาน ว่าต่อให้จัดเป็นห้องนอนวางเตียงคิงส์ไซส์ 6 ฟุต ก็ยังเหลือระยะใช้งานสบายๆค่ะ พร้อมวางโต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งาน และทำ Built in ชั้นวางของด้านข้างมาให้ดูเป็นไอเดีย

มองไปทางชั้นวางทีวี ถือเป็นห้องพักผ่อนที่ไม่ได้มาเล่นๆเลย คือขนาดนี่ใหญ่กว่าห้องนั่งเล่นชั้นล่างอีกค่ะ ทำชั้นวางทีวีได้กว้างเต็มที่ ใครชอบดูหนังจอใหญ่ๆนี่สบายๆเลยค่ะ ชอบที่

ด้านข้างติดหน้าต่างในบ้านตัวอย่าง Built in เป็นชั้นยาวๆต่อเนื่องไปที่ชั้นวางทีวี คือใช้เป็นโต๊ะแบบนั่งกับพื้นให้เด็กๆทำการบ้าน อ่านหนังสือ ติวสอบ ก็ได้ ใช้วางของก็ดี

เราขึ้นไปดูชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ

ขึ้นมาห้องนอนใหญ่ชั้น 3 เลยค่ะ จะมีราวกันตกส่วนโถงบันไดเป็นเหล็กสีขาว มือจับเป็นลายไม้สีเดียวกับพื้น ผนังด้านหลังโถงบันไดติดงานศิลปะมาให้ดูเป็นไอเดีย

ภาพจากบ้านเปล่า ส่วนราวกันตกชั้น 3 ค่ะ ด้านบนเพดานของโถงบันไดจะเห็นว่ามีช่องแสงธรรมชาติให้ความสว่างกับโถงบันไดได้ดี

มองกลับไปที่บันไดทางลงไปชั้น 2 จะเห็นว่าชานพักเป็นแบบสี่เหลี่ยมเต็มขั้น ไม่มีปาดสามเหลี่ยมมาให้เดินลำบาก อันนี้ดีค่ะ แต่ไม่มีราวจับทั้งสองฝั่งนะ

เรามาดูห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อนะคะ ก็เป็นห้องนอนใหญ่ที่ได้พื้นที่ชั้น 3 ทั้งชั้นเลย มีห้องน้ำในตัว Walk in closet และระเบียง เข้าห้องนอนมาหันไปทางด้านหน้าจะเป็นส่วนของเตียงนอน

ห้องนอนใหญ่วางเตียงนอนคิงส์ไซส์ได้สบายๆค่ะ บ้านตัวอย่างวางเตียงคิงส์ไซส์ 6 ฟุต พร้อม Bed Bench ปลายเตียงมาให้ดูระยะใช้งานสบายๆ

สองฝั่งข้างเตียงมีระยะประมาณ 50 cm. วางโต๊ะข้างมาให้ดูระยะใช้งาน

ภาพนี้มองไปทางฝั่งปลายเตียง ในบ้านตัวอย่างทำBuilt in ชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงานมาให้เห็นระยะใช้งานค่ะ จะเห็นว่ากว้างขวาง ใช้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เยอะเลย

ส่วนห้องนั่งเล่นในห้องนอน พอวางชั้นวางทีวีไปแล้วจะเหลือระยะเดินสบายๆ ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.8 เมตร วางทีวีจอใหญ่ขนาด 60 – 70 นิ้วได้สบายๆ

ถัดมาจะเป็นส่วน Walk in closet บ้านตัวอย่างทำฉากกั้นพร้อม Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นไอเดีย

ส่วนบ้านเปล่าจะเป็นมุมเข้าไปแบบนี้นะคะ และจะมีประตูห้องน้ำอยู่ด้านข้าง

เพดานชั้น 3 สูง 2.55 m. ทำให้เวลาบิลท์อินชั้นวางของก็ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้เยอะดี บ้านตัวอย่างทำBuilt in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูระยะใช้งาน

เราเข้าไปดูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ประตูห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างส่วน Walk in closet เลยแบบนี้

พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นโถงบันไดประมาณ 5 cm. วัสดุสุขภัณฑ์จะคล้ายๆกัน พื้นใช้กระเบื้องเซรามิกผิวด้าน 60×60 เซนติเมตร สุชภัณฑ์ Kohler ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกมาให้พร้อมฉากกั้นกระจกเทมเปอร์

อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาของจริงได้ตามนี้ค่ะ คือเป็นชุดอ่างล้างมือและมีที่วางของข้างล่างให้ด้วยพร้อมบานปิด

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างเป็นอ่างไฟเบอร์หล่อ มีที่วางของด้านข้างได้มากพอสมควร

สุขภัณฑ์ของ Kohler รุ่นเดียวกันกับชั้นล่างค่ะ

ฉากกั้นส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำเป็นประตูแบบบานเลื่อน มีช่องแสงเหนือส่วนอาบน้ำเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศได้

สังเกตที่ผนังหลังฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย และที่มุมทำที่วางของมาให้ ชุดฝักบัวเป็นของ Englefield ที่มี Rain Shower ติดตั้งมาให้ด้านบนด้วย เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวให้ดู จะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ และมีที่หมุนปรับขนาดหยดน้ำได้

ราคา (เม.ย.60)

• แบบ City Space แปลง 46 ที่ดิน 20.0 ตารางวา ราคา 3.89 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.39 ล้านบาท
• แบบ City Space Deluxe แปลง 42 ที่ดิน 20.0 ตารางวา ราคา 3.99 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.49 ล้านบาท

• เงินจอง – บาท
• เงินทำสัญญา 40,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.วา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Patio บางนา-วงแหวน มีที่ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 39 เชื่อมต่อระหว่างวงแหวนกาญจนาภิเษกและถนนกิ่งแก้ว รอบๆโครงการเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก แต่พอออกมาที่ถนนบางนา-ตราดถือว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 กม. เท่านั้น

โดยที่ถนนใหญ่ บางนา-ตราด มีไฮเปอร์มาร์เก็ตอยู่หลายแห่ง ทั้งเทสโก้ โลตัส บางพลี, เทสโก้ โลตัส บางนา-ตราด, บิ๊กซี บางพลี, มาร์เก็ต วิลล่า ส่วนศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และแหล่งขายวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้าน ก็มีทั้ง เมกา บางนา, อิเกีย บางนา, คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์, โฮมโปร @ มาร์เก็ต วิลล่า, ไทยวัสดุ บางนา และบุญถาวร บางนา

นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษา อย่าง ม.รามคำแหง 2, ม.อัสสัมชัญ, ม.หัวเฉียว, ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ ในส่วนของโรงพยาบาล ใกล้กับ รพ. บางบ่อ, รพ.บางนา 2, รพ.รวมชัยประชารักษ์, รพ.จุฬารัตน์ 5 ถ้าห่างออกไปหน่อยก็จะมี รพ.เซ็นทรัลปาร์ค และรพ.บางพลี

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : โครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 39 เชื่อมระหว่างวงแหวนกาญจนาภิเษกและถนนกิ่งแก้ว(ซ.กิ่งแก้ว 25/1) ซึ่งเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่นๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนบางนา-ตราด, มอเตอร์เวย์, ถนนกิ่งแก้ว, ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนนบางพลี-ลาดกระบัง และถนนย่อยๆต่างๆอีกมากมาย โดยโครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่บางนา-ตราดประมาณ 6.2 กม.

สำหรับคนที่ทำงานในเมือง ก็มีทางด่วนให้เลือกหลากหลาย จะใช้ทางด่วนบูรพาวิถี มุ่งหน้าสู่โซนสุขุมวิท-สาทร-สีลม ก็สะดวก หรือจะใช้มอเตอร์เวย์ เชื่อมสู่ทางด่วนพระราม 9 มุ่งหน้าเข้าโซน New CBD ก็ได้เช่นเดียวกัน สุดท้ายจะใช้เส้นถนนวงแหวนตะวันตก เชื่อมสู่โซนพระราม 2 หรือจะออกไปยังรามคำแหง อันนี้ก็เลือกใช้กันได้ตามเส้นทางที่ต้องการเดินทาง หากต้องการออกเมืองไปชลบุรี ก็มอเตอร์เวย์เลยค่ะ ถ้ารถไม่ติดชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว

โครงการอยู่ห่างจากมอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่) ประมาณ 8.3 กิโลเมตร หรือระยะขับรถแค่ประมาณ 16 นาทีเท่านั้น พอขึ้นมอเตอร์เวย์แล้วเชื่อมต่อไปทางด่วนศรีรัชวิ่งไปทางด่วนด่านพระราม 9 ได้ในเวลาประมาณ 24 นาทีเท่านั้น

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สำหรับคนไม่ใช้รถ รอบๆเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบพวกโครงการหมู่บ้านจัดสรรเป็นส่วนใหญ่ จะออกไปไหนก็ต้องใช้แท็กซี่หรือเรียกวินมอเตอร์ไซค์เป็นหลัก

ตัวโครงการอยู่ห่างจากแอร์พอร์ตลิงก์สถานีบ้านทับช้างประมาณ 8.3 กม. เป็นระยะที่คนไม่ใช้รถสามารถนั่งรถไปต่อได้ในเวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งใช้นั่งเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 อโศก หรือ บางกะปิ ได้ง่าย

ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองสร้างเสร็จ ก็จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ของผู้อยู่อาศัยย่านบางนาได้ดีขึ้น โดยสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีศรีเอี่ยม ที่ถึงจะไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินถึง แต่ต่อรถไปได้ไม่ไกลมาก ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกและทางเลือกในการเข้าเมืองให้เราได้ดีนะคะ และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะไปเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่ สถานีสำโรง

♦ บ้านและวัสดุ : หน้าตาโดยรวมของทาวน์โฮมเน้นโทนสีอ่อนขาวเทาครีม สไตล์โมเดิร์นโดยรวมแล้วจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาให้ครบทั้งห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ ที่ชั้น 2 จัดมาให้เป็นโถงอเนกประสงค์และห้องนอนใหญ่ ที่มีระยะพอสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์ และยังมีที่ทางให้ขยับได้ เป็นระยะใช้งานสบายๆ ไม่อึดอัด

วัสดุได้ของคุณภาพดีโดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีและ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง, เพดานชั้นล่างสูง 2.6 เมตร ชั้นบนสูง 2.5 เมตร ซึ่งถือว่าให้มาสูงพอสมควร มีผลดีคือทำให้บ้านโปร่ง และมีพื้นที่เก็บของแนวตั้งได้เยอะ

ลานจอดรถเป็นลานคอนกรีต, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler ห้องน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น อลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ เรื่องการระบายอากาศก็เตรียมมาให้โอเค คือห้องน้ำทุกห้องถ้าไม่มีหน้าต่าง จะมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้เรียบร้อย

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะมาให้ แต่อันนี้ต้องรอดูกันอีกทีนะคะ ว่าหน้าตาจะเป็นยังไง ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ มีทางเท้าสองฝั่งข้างทาง

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย : เข้า-ออกโครงการด้วย รั้วไม้กระดก + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับ แยกช่องลูกบ้านและคนนอกอีกชั้นเพื่อให้ตรวจสอบคนเข้าออกได้ง่ายขึ้น พร้อมรั้วเลื่อนไฟฟ้ากั้นอีกชั้นแบบ Double Gate รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม. และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Website : http://patio.pruksa.com/

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.794 รีวิว คอนโด เดอะ ซี้ด มิงเกิ้ล สาทร-สวนพลู The Seed Mingle Sathorn-Suanplu

สวัสดีผู้อ่านชาวโฮมน่าอยู่ทุกท่านครับ รีวิวฉบับนี้จะพาทุกท่านไปยังโครงการ The Seed Mingle สาทร-สวนพลู จากพฤกษา เรียลเอสเตท คอนโดมิเนียมสไตล์ Modern Minimalist ออกแบบโดยผสมผสานระหว่างธรรมชาติเข้ากับชีวิตใจกลางเมืองธุรกิจย่านสาทร ภายในซอยสวนพลู 8 ได้อย่างลงตัว

เดอะ ซี้ด มิงเกิ้ล เป็นคอนโด High-Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร แยกอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการประมาณ 3 ไร่ จำนวนห้องพักอาศัย 531 ยูนิต ห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่แบบ Studio, 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 25 – 72 ตร.ม. ตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่เมื่อปี 2556 ปัจจุบันโครงการ Soldout ไปแล้ว แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในการซื้อขายรูปแบบ Resale หรือปล่อยเช่า เนื่องจากอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูง ใกล้แหล่งงานย่านธุรกิจและมีความอุดมสมบูรณ์

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ โถงล็อบบี้, สระว่ายน้ำแยกสระผู้ใหญ่และสระเด็กพร้อมสไลเดอร์, ห้องฟิตเนส, ห้องสตีม, ห้องเกม, สวนหย่อม และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ที่จอดรถแยกอาคารสูง 8 ชั้นจอดได้ 40% ไม่รวมซ้อนคัน ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท (เม.ย. 60)

::: ที่ตั้งโครงการ :::

สวนพลู ซอย 8 ถนนสาทร 3 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

พิกัด : 13.719890, 100.539623

แผนที่จากทางโครงการ

The Seed Mingle สาทร-สวนพลู ตั้งอยู่ภายในถนนสวนพลู หรือสาทร 3 โคยตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยย่อยสวนพลู 8 อีกทีแต่เข้าไปไม่ลึกประมาณ 100 เมตร ทำเลดังกล่าวเป็นทำเลย่านธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยโครงสร้างส่วนใหญ่ที่ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, สถานฑูต, โรงเรียน, โรงพยาบาล และโรงแรม ส่วนที่พักอาศัยจะเป็นรูปแบบของชุมชนดั้งเดิมที่มักจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์อยู่ตามซอยต่างๆอย่างเช่น ซอยสวนพลู, ซอยเซนต์หลุยส์ และซอยคอนแวนต์เป็นต้น ด้วยความที่เป็นย่านธุรกิจความต้องการที่พักอาศัยในย่านนี้จึงค่อนข้างสูง แต่ด้วยทำเลที่มีมูลค่าที่ดินสูงมาก ที่พักในรูปแบบคอนโดจึงเป็นทางเลือกที่ดูจะเหมาะสมที่สุด

เรื่องของการเดินทาง ถนนสาทรถือเป็นทางเข้าออกหลักเพราะระยะจากโครงการไปถนนสาทรเพียงแค่ 700 เมตร แต่นั่นไม่ใช่ทางเข้าออกเดียวที่มี ข้อดีของซอยสวนพลูคือการใช้งานเป็นทางลัดไปยังถนนต่างๆได้มากมายทั้ง ถนนนราธิวาสฯ, ถนนพระราม 4, ถนนพระราม 3 และถนนจันทน์ ทำให้เรื่องของการเดินทางมีทางเลือกที่หลากหลายตามจุดมุ่งหมาย นอกจากนั้นยังมีทางด่วนเป็นตัวเสริมการเดินทางที่เลือกใช้ได้ทั้งเส้นทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนศรีรัชทำให้เดินทางได้สะดวกมากขึ้นไปอีกขั้น

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ บนถนนสาทรมีโรงเรียนและโรงพยาบาลชื่อดังอยู่หลายแห่ง อย่างเช่นโรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และโรงเรียนอัสสัมชัญ ส่วนโรงพยาบาลก็มีโรงพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์, โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน และโรงพยาบาล BNH เป็นต้น แต่ถ้าเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตจะไปอยู่ทางฝั่งของถนนนราธิวาสและพระราม 3 ที่มีให้เลือกเป็น แม็คโคร, โลตัส และเซ็นทรัลพระราม 3

มาดูภาพมุมสูงบริเวณโครงการกันบ้าง ตัวอาคาร The Seed Mingle ตั้งอยู่ในซอยย่อยสวนพลู 8 ห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 100 เมตร พื้นที่ดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์สูงมากจนเรียกว่าเป็นอีกจุดแข็งของโครงการเลยก็ว่าได้ เริ่มจากตรงข้ามโครงการมีร้านสะดวกซื้อให้เลือกใช้ทั้ง 7-11 และ Family Mart ภายในซอยสวนพลู 8 เองมีร้านข้าว ร้านก๋วยเตี๋ยวให้เลือกอย่างหลากหลายยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ร้านสเต๊ก และร้านส้มตำ เป็นต้น เนื่องจากภายในสวนพลูเองก็ถือว่าเป็นแหล่งสำนักงานที่มีพนักงานออฟฟิศจำนวนมาก ทำให้มีความคึกคักตลอดทั้งเช้าไปจนถึงช่วงค่ำ

เส้นทางลัดไปยังถนนสำคัญต่างๆจากตัวโครงการ

• ไปถนนสาทร ผ่านทางซอยสวนพลู ระยะทาง 700 เมตร
• ไปถนนนราธิวาสฯ ผ่านทางถนนนางลิ้นจี่ ระยะทาง 1.1 กม.
• ไปถนนพระรามที่ 4 ผ่านซอยงามดูพลี ระยะทาง 2 กม.

เรื่องทางด่วนผมจะขออธิบายในส่วนของทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือถ้าจะเรียกให้คุ้นเคยคือทางด่วนด่านพระราม 4 เพราะสำหรับทางด่วนศรีรัชนั้นจุดขึ้นลงไกลกว่ากันพอสมควร และทางด่วนทั้งสองเส้นสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ จุดขึ้นลงจะอยู่บนถนนพระราม 4 ใกล้กับ MRT คลองเตย

ระยะทางจากโครงการไปถึงด่านเก็บเงินโดยใช้เส้นทางถนนสาทรอยู่ที่ 2.9 กม. แต่ในส่วนของขากลับเข้าโครงการแนะนำให้ใช้เป็นซอยงามดูพลีจะสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องไปเสี่ยงรถติดบนถนนสาทร สาเหตุที่ตอนขาไปขึ้นทางด่วนผมไม่แนะนำซอยงามดูพลีเนื่องจากว่าระยะทางไกลกว่าและต้องหาจุดกลับรถอีกด้วยจึงไม่สะดวกเหมือนตอนขากลับเข้าโครงการครับ

การใช้งานรถไฟฟ้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเดินทางของคนเมือง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ย่านธุรกิจที่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น ทางออกจึงมีทางเดียวคือการเลือกใช้บริการคมนาคมสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า สำหรับรถไฟฟ้ามีให้เลือกใช้ 2 เส้นคือ รถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT

• รถไฟฟ้า BTS มีให้เลือกได้ 2 สถานีทั้งสถานีช่องนนทรี และสถานีศาลาแดง ระยะทางการไปใช้งานพอๆกันราว 1.5 กม. แต่หากถามความเห็นผมขอแนะนำเป็นสถานีศาลาแดง เนื่องจากส่วนใหญ่การไปใช้งานรถไฟฟ้าคนมักนิยมเป็นรถมอไซค์รับจ้าง หากนั่งซ้อนไปที่แยกใหญ่สาทร-นราธิวาส จะมีเรื่องของมลพิษ ปริมาณรถ รอไฟแดงนาน และที่สำคัญคือความปลอดภัย การไปใช้งานสถานีศาลาแดงโดยผ่านซอยคอนแวนต์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
• รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลุมพินี ทางลงสถานีตั้งอยู่บริเวณแยกวิทยุระยะทางห่างจากโครงการประมาณ 2.0 กม. เรียกใช้บริการพี่วินเพื่อเข้าถึงในราคา 20 บาท

::: การเดินทาง :::

เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังตัวโครงการ The Seed Mingle สาทร-สวนพลู ผมเริ่มต้นจากบริเวณแยกวิทยุ หรือแยกจุดตัดระหว่างถนนพระราม 4 และถนนสาทร มุ่งหน้าไปทางฝั่งสะพานตากสิน จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสวนพลู ขับลึกเข้าไปในซอยประมาณ 600 เมตร จึงเลี้ยวเข้าซอยสวนพลู 8 ทางด้านซ้ายมือ ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจากปากซอยสวนพลู 8 อีกประมาณ 120 เมตร

สรุปการเดินทาง : แยกวิทยุ > ถนนสาทร > ถนนสวนพลู > ซอยสวนพลู 8 > The Seed Mingle สาทร – สวนพลู

เริ่มต้นผมอยู่บนถนนพระราม 4 บริเวณแยกวิทยุ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทร

ขับไปตามถนนสาทรอีกประมาณ 1 กม.

เห็นปั๊มเชลล์ทางด้านซ้าย ให้ชิดซ้ายได้เลยครับ

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสวนพลู จุดสังเกตุคือ จะมีป้ายบอก ทางลัดถนนจันทน์ – นางลิ้นจี่ และปั๊มเชลล์ ตรงทางเข้าซอยสวนพลู

ผ่านธนาคารกรุงศรี และซอยพระพินิจ

ผ่านโครงการ ศุภาลัย เอลีท สาทร – สวนพลู

ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอธนาคารกรุงเทพ สาขาสวนพลู และตึกสำนักงาน G.P. House

ขับมาจากปากซอยสวนพลู ประมาณ 600 เมตร ซอยสวนพลู 8 จะอยู่ทางด้านซ้ายมือตรงข้ามกับตลาดสวนพลู

เข้าไปด้านในซอยสวนพลู 8 อีกประมาณ 120 เมตร ก็จะถึงทางเข้าโครงการ The Seed Mingle สาทร – สวนพลู อยู่ทางด้านซ้ายมือครับผม

::: บริเวณโครงการ :::

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

• Makro สาทร : 2.3 กม.
• Central Plaza พระราม 3 : 4.4 กม.
• The UP พระราม 3 : 4.9 กม.
• Tesco Lotus พระราม 3 : 3.2 กม.
• Robinson บางรัก : 3.2 กม.
• Chatrium Riverside Hotel : 4.1 กม.

• โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ : 950 เมตร
• โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน : 2.3 กม.
• โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ (ACC) : 2.1 กม.
• โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก : 3.3 กม.

• โรงพยาบาล BNH : 850 เมตร
• โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ : 1.8 กม.
• โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน : 2.0 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนสาทร : 700 เมตร
• ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (แยกสาทร-นราธิวาสฯ) : 1.4 กม.
• ถนนพระราม 4 (แยกวิทยุ) : 1.9 กม.
• ถนนสีลม (แยกศาลาแดง) : 2.8 กม.
• ถนนจันทน์ (แยกเย็นอากาศ) : 1.4 กม.
• ถนนเจริญกรุง (แยกบางรัก) : 3.4 กม.
• ถนนเจริญกรุง (แยกตรอกจันทน์ ) : 4.1 กม.

ขณะนี้ผมยืนอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ The Seed Mingle แต่ว่าเราจะยังไม่เข้าไปด้านใน โดยผมขอพาทุกท่านไปเดินดูบรรยากาศภายในซอยสวนพลู 8 กันก่อน

กลับหลังหันจากหน้าทางเข้า ฝั่งตรงข้ามตรงกับ Family Mart พอดี

มองเข้าไปทางด้านในซอยสวนพลู 8

ถัดเข้ามาเพียงนิดเดียวมี 7-11 อยู่เยื้องๆกับโครงการ

เดินออกไปทางฝั่งปากซอยสวนพลู 8 เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีของทานเพียบ โดยเพียงแค่ช่วงระยะ 100 เมตรจากโครงการถึงปากซอยก็มีร้านค้าเกือบ 10 ร้านด้วยกัน

มีร้านขายของอยู่ทั้งสองฝั่งก็จริง แต่ขนาดซอยยังคงพอให้รถสามารถวิ่งสวนกันได้อยู่

ร้านผลไม้หลากหลายราคาย่อมเยา

อาหารตามสั่ง

ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ไก่ตุ๋น

ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว

ร้านอาหารตามสั่งและไอติมกะทิ

ร้านสเต๊ก ลุงจอห์น

สลัดโรล น้ำผลไม้ปั่น น้ำส้มคั้น สายสุขภาพก็มา

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เจ้าเก่ารสชาติเด็ด และร้านลาบส้มตำ 2 ร้านนี้ ช่วงพักกลางวันคนจะเยอะมากจนต้องรอคิวโต๊ะเลยทีเดียว

ปากซอยสวนพลู 8

มองไปฝั่งตรงข้ามซอยสวนพลู 8 ยังคงมีร้านอาหารอีกหลายร้าน และเป็นทางเข้าตลาดสวนพลู ที่ด้านในมีทั้งอารสดอาหารแห้ง และร้านอาหารอีกเพียบ เนื่องจากทำเลดังกล่าวมีทั้งสำนักงาน ออฟฟิศ และนักศึกษามหาลัยเทคนิคกรุงเทพ จึงค่อนข้างที่จะคึกคักตลอดทั้งวัน

ริมถนนยังมีร้านเด็ดอีกเพียง อย่างเช่นร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 15 บาท และยังมีเมนูเบอร์เกอร์อีกด้วย

ข้าวขาหมูสวนพลู

นอกจากช่วงกลางวันแล้ว พอตกกลางคืนช่วงหัวค่ำบริเวณริมถนนสวนพลูช่วงปากซอยสวนพลู 8 นี้ ก็จะมีร้านอาหารที่เปิดช่วงเย็นเป็นต้นไปอีกหลายร้านเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นทำเลนี้เรื่องความอุดมสมบูรณ์ผมให้ 5 ดาวเลยครับ

กลับเข้าไปในซอยเพื่อกลับโครงการชมส่วนต่อไปกันครับ

กลับมาถึงด้านหน้าโครงการที่บริเวณลานน้ำพุ

ทางเข้าออกโครงการจะมีสองช่องทาง แยกกันระหว่างรถขาเข้าขาออก

รูปแบบทางเดินรถจะเดินทางเดียวคือขาเข้าให้ตรงไปผ่าน Drop Off ขึ้นลานอาคารจอดรถ 8 ชั้น ส่วนขาออกจะออกมาจากทางด้านซ้ายที่วนมาจากด้านหลังอาคาร

The Seed Mingle

บริเวณด้านหน้าจุด Drop Off หรือทางเข้า Lobby โครงการจัดพื้นที่ Court เป็นขนาดใหญ่

ที่สวนแห่งนี้มีต้นไม้ ที่ดูจากขนาดอันใหญ่โตน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี โดยทางโครงการออกแบบโดยนำต้นไม้ดังกล่าวมาผสานกับคอนเซปต์ Harmonize Natural Environment ได้อย่างลงตัวใจกลางเมืองอย่างสาทร

แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาแก่ลูกบ้านในโครงการ และยังช่วยฟอกอากาศให้สดชื่นอีกด้วย

ริมสวนมีเก้าอี้นั่งชมธรรมชาติ หรือจะใช้เป็น Meeting Point แทนการใช้ Lobby แบบเดิมๆ

เก้าอี้หวายทรงรังนก ทำให้มุมนี้น่าหยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาอ่าน

อาคารทางด้านขวาเป็นอาคารจอดรถ และชั้นบนสุดคือชั้น 8 เป็นที่ตั้งของ Facilities โครงการ

ทางเข้าล็อบบี้ประตูทรงสูง บานกระจกเต็มผนังสร้างความโปร่งให้แสงธรรมชาติเดินทางสะดวก

ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ส่วนของ Facilities หลักหรือชั้น 8 ของอาคารจอดรถนั่นเอง การใช้งานทุกครั้งต้องแสดงคีย์การ์ด โดยปกติจะมีแม่บ้านคอยดูแลอำนวยความสะดวก

ส่วนแรกผมเข้ามายังห้อง Fitness

อุปกรณ์ภายในห้องฟิตเนสมีให้พอสมควร เริ่มจากลู่วิ่งไฟฟ้า 4 เครื่อง

เครื่องเดินวงรี 3 เครื่อง

ชุดยกดัมเบล

จักรยานเอนปั่น 2 ตัว

ชุดแมชชีนสร้างกล้ามเนื้อ

จักรยานนั่งปั่น 2 ตัว

ห้องทางด้านในเป็น Game Room ต้องผ่านทางห้องฟิตเนสนี้ไป

ตรงกลางห้องเป็นเคาน์เตอร์บาร์ ตอนกลางคืนเปิดไฟน่าจะสวย รอบห้องใช้เป็นหน้าต่างกระจกดูโปร่งสบาย

โต๊ะพูล

มุมนั่งเล่นริมหน้าต่าง

โต๊ะโกล หรือโต๊ะจำลองเตะฟุตบอล

โต๊ะ Hockey

ระหว่างทางเดินระหว่างห้องเกมและห้องฟิตเนส ด้านนอกมีลานหญ้าเทียมกว้าง ใช้เป็นลานกิจกรรม

ฝั่งนี้เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แต่ว่าทางขึ้นจะอยู่อีกด้านนึงครับ

จากลานนี้ลองดูสระว่ายน้ำมุมต่างๆ ทิวทัศน์บรรยากาศดีทีเดียวครับ

บันไดทางขึ้นสระว่ายน้ำ

จากบันไดมองย้อนกลับไปทางสวนที่เราเพิ่งไปดูกันมาเมื่อสักครู่

จากบันไดมองไปทางซ้ายเป็นโซนสไลเดอร์

เก้าอี้อาบแดดริมสระว่ายน้ำปรับระดับได้

บันไดทางขึ้นลงสระ

ฝักบัวอาบน้ำล้างตัว

แผ่นผนังสีดำใช้งานเป็นตัวแบ่งโซนที่ด้านในจะมีสไลเดอร์และสนามเด็กเล่น

บันไดทางขึ้นสไลเดอร์

ทางลงสไลเดอร์ ความยาวประมาณ 5-6 เมตร

ด้านข้างเป็นสระเด็ก

สนามเด็กเล่น

มุมนี้จะเห็นตัวอาคาร The Seed Mingle ได้ชัดเจนที่สุด

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ที่ด้านในของห้อง Fitness

มีล็อคเกอร์ ขอกุญแจเพื่อใช้งานได้ที่แม่บ้าน

จริงๆมีห้องสตีม แต่ว่าพอดีไม่สามารถเปิดไฟด้านในได้จึงเก็บภาพปุ่มกดมาให้ดูแทนว่ามีจริงๆนะ

ห้องอาบน้ำ

::: แปลนอาคาร :::

Master Plan

2nd Floor

3rd – 7th Floor

8th Facility Floor

9th – 12th Floor

12Ath – 16th Floor

17th – 21st Floor

22nd – 25th Floor

26th – 31st Floor

::: แปลนห้อง :::

Studio Type

1 Bedroom Type

2 Bedrooms Type

::: ห้องตัวอย่าง :::

หลักจากไปเยี่ยมชมดูสิ่งอำนวยความสะดวกกันแล้ว ต่อไปถึงคิวของห้องตัวอย่างโดยตอนนี้ผมมาอยู่ที่บริเวณหน้าทางเข้าโถงลิฟต์ ใช้คีย์การ์ดเพื่อผ่านเข้าออก

โถงลิฟต์

ในส่วนของลิฟต์ไม่มีการล็อคชั้น ไม่ต้องแตะคีย์การ์ด

เริ่มกันจากแบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 40 ตร.ม. แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน เปิดประตูเข้ามาเจอเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งเป็นครัวเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นแบบเปิดโล่ง ด้านนอกเป็นระเบียง ซึ่งระเบียงจะเป็นแนวยาวเชื่อมต่อไปยังห้องนอน ห้องนอนแยกส่วนให้ความเป็นส่วนตัวและห้องน้ำอยู่ด้านในห้องนอน มีพื้นที่ walk-in closet หน้าห้องน้ำให้ด้วย

เปิดประตูห้องดูภาพรวมๆ ต้องอธิบายก่อนว่าตอนที่โครงการเปิดขายนั้นขายเป็นรูปแบบของ Fully Fitted ให้ชุดครัวและแอร์ แต่ปัจจุบันขายหมดแล้วเหลือแต่ห้องที่เป็น resale เฟอร์นิเจอร์ในแต่ละจุดเป็นเพียงแนวทางการตกแต่งของทางเจ้าของร่วม แต่ให้เข้าใจตรงกันว่าทางโครงการ ให้เพียงชุดครัวและแอร์เท่านั้น

เปิดเข้ามาเจอกับห้องครัวก่อนเลย มองเห็นพื้นลามิเนต 8 มม. เพดานสูง 2.6 เมตร ผนังปกติให้เป็นทาสีขาวฉาบเรียบ

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ทางโครงการให้มา มีให้ครบชุดทั้งซิงค์ ฮอบ และฮูด ท๊อปครัวหินแกรนิต

ตู้เก็บของด้านบน มีช่องวางไมโครเวฟ อาจสูงไปหน่อยสำหรับคนตัวเล็ก

ฮอบ ฮูด ของ FRANKE ด้านหลังเตาปูกระเบื้องกันเปื้อน

ด้านสันของเคาน์เตอร์รูปตัว L ใช้งานเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง

ตรงข้ามห้องครัว วางเป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของได้ขนาดใหญ่ เก็บของได้มาก

ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่นริมระเบียง

วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งแล้วยังเหลือที่ด้านข้างสำหรับโต๊ะวางของตัวเล็กๆ

ฝั่งชั้นวางทีวี ห้องนี้ใช้เป็นฟังก์ชั่นแบบ 2 in 1 คือเป็นโต๊ะวางทีวี และโต๊ะทำงาน

ระเบียงด้านนอก ประตูบานเลื่อนวัสดุอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง

พื้นที่ระเบียงความยาวเท่ากับห้องนั่งเล่นประมาณ 3 เมตร และกว้างประมาณ 1 เมตร

คอมแอร์ 2 ตัวแขวนเป่าลมออกด้านนอก มีระแนงบังสายตา

มองย้อนกลับเข้าไปในห้อง

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อครับ

ห้องนอนพื้นที่กว้างขวาง สามารถเลือกใช้เตียงคิงไซส์ 6 ฟุตได้สบาย

ด้านข้างเตียงใช้งานเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ราวๆ 60 ซม. ติดตั้งเป็นแท่นชั้นวางทีวีตัวเล็กๆ เข้ามุมแล้วยังเหลือทางพอให้เดินเข้าออกได้

ทางเดินข้างเตียงฝั่งระเบียง เว้นทางเดินไว้ประมาณ 50 ซม.

ประตูระเบียงกรอบอลูมิเนียมสีดำ

ระเบียงกว้าง 30 ซม.

ใช้งานแค่ยืนตากลมชมวิว

มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นวิวสระว่ายน้ำ

กลับเข้ามาด้านในห้องนอนเพื่อไปดูห้องน้ำกันต่อ

ห้องน้ำติดกระจกฝ้าเข้ามุมบานใหญ่เป็นตัวให้แสงผ่านเข้าไปด้านในห้องน้ำได้

walk-in closet หน้าห้องน้ำ

ประตูห้องน้ำบานเลื่อน

บานเลื่อนดังกล่าวมีราวแขวนอยู่ด้านบน

ภาพรวมห้องน้ำแยกฟังก์ชั่นส่วนแห้ง-เปียก

สุขภัณฑ์ของ Mogen มีสายชำระและที่แขวนทิชชู่พร้อมใช้

ด้านข้างติดชั้นวางของ

อ่างล้างหน้า Mogen แบบวางบนเคาน์เตอร์และมีช่องเก็บของด้านล่าง

ส่วนเปียกอาบน้ำ ก่อธรณีสูงราวๆ 7-8 ซม. ฝักบัวของ Cotto

ต่อไปเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ต้องขออภัยที่ผมไม่สามารถหาแบบแปลนของห้องดังกล่าวมาให้ชมได้ แต่ Layout ไม่ได้ซับซ้อน เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปดูกันน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากครับ

ห้องเมื่อสักครู่นี้ลืมบอกไปว่า วัสดุประเป็นประตูลามิเนตสำเร็จรูป มือจับก้านโยก ไม่มีระบบ Digital Door Lock

วัสดุพื้นฐานเหมือนกัน พื้นห้องลามิเนต 8 มม. เพดานสูง 2.6 เมตร ผนังจริงทาสีขาวฉาบเรียบ

มองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้อง เห็นเคาน์เตอร์ครัวอยู่ด้านข้าง

ด้านหลังประตูวางตู้เก็บรองเท้าได้

ครัวให้ครบชุดเป็นแบบครัวเปิด

ใช้งานส่วนนี้เป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง

ฮอบ ฮูด ของ Franke ผนังด้านหลังปูกระเบื้องกันเปื้อน

ด้านล่างมีช่องสำหรับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

ห้องนั่งเล่นติดระเบียงด้านนอก

ขนาดของโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งแต่เป็น 2 ที่นั่งแบบกว้าง

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ระบะดูทีวีราวๆ 3 เมตร

ประตูระเบียงบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูระเบียงวางบนธรณีกันน้ำสาด

ระเบียงกว้าง 1 เมตร

ระเบียงด้านนี้เปิดเชื่อมต่อไปยังระเบียงของห้องนอนรอง

กลับมาที่บริเวณประตูหน้าห้อง ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำและห้องนอนรอง

เข้าไปดูห้องน้ำก่อนครับ

ห้องน้ำแยกฟังก์ชั่นส่วนแห้ง-เปียก

อ่างล้างหน้าแบบมีตู้เก็บของด้านล่าง

อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ Mogen

สุขภัณฑ์ Mogen เช่นกัน

ห้องอาบน้ำไม่ได้ติดฉากมาให้ อาจจะใช้เป็นม่านอาบน้ำแบบนี้ก็ได้ กันน้ำกระเด็นได้มีประสิทธิภาพเช่นกัน

ห้องน้ำห้องนี้อันที่จริงสามารถเข้าออกได้จากสองทาง แต่ว่าทางห้องนี้ปิดตายด้านนึงคือทางฝั่งห้องนอนรอง

เข้าไปดูห้องนอนรองกันต่อเลยครับ

ห้องนอนรองแต่สามารถวางเตียงใหญ่ได้ถึงควีนไซส์ 5 ฟุต

ด้านนอกเป็นระเบียงที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงห้องนั่งเล่นเมื่อสักครู่นี้ได้

มองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้องนอนรอง ด้านข้างเห็นเป็นตู้เสื้อผ้าที่ปิดตายทางเข้าห้องน้ำ

ไฟภายในห้องให้เป็นดาวน์ไลท์ทั้งหมด

ข้ามฝั่งไปดูห้องนอนหลักกันต่อครับ

ห้องนอนหลักวางเฟอร์นิเจอร์เพียงเตียงนอนและโต๊ะอเนกประสงค์

ผนังด้านปลายเตียงใช้งานเป็นจุดวางไซด์บอร์ด ที่หลังจากวางแล้วจะยังคงเหลือทางเดินให้ผ่านเข้าออกระเบียงได้

ทางเดินฝั่งระเบียงกว้างราว 40 ซม.

ระเบียงกว้าง 30 ซม.

มองย้อนกลับไปยังด้านในห้องนอนหลัก

ห้องนอนหลักมีห้องน้ำในตัว

walk-in closet หน้าห้องน้ำ

ประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อน

ภาพรวมภายในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ของ Mogen

อ่างล้างหน้า Mogen

ห้องน้ำสว่างมากขึ้นด้วยกระจกฝ้าเข้ามุม

Bathtub ของ Mogen

ติดตั้งฝักบัวให้ด้วยของ Cotto

::: ราคา ::: (เม.ย. 2560)

แบบห้อง Studio ขนาด 25 – 32 ตร.ม. : เริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท

แบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 – 52 ตร.ม. : เริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาท

แบบห้อง 2 Bedrooms ขนาด 64 – 72 ตร.ม. : เริ่มต้นประมาณ 6.8 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตารางเมตร/เดือน

*** ราคาดังกล่าวเป็นราคา Resale ***

::: บทสรุปโครงการ :::

– ทำเลโครงการ The Seed Mingle สาทร-สวนพลู ตั้งอยู่ภายในถนนสวนพลู ที่มีทางเข้าออกหลักอยู่ทางถนนสาทรใต้ ตัวโครงการเองไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนสวนพลูทีเดียว แต่จะต้องเข้าซอยย่อยที่สวนพลู 8 ไปอีกประมาณ 100 เมตร รวมระยะทางจากโครงการถึงถนนสาทรคือ 700 เมตร พูดถึงทำเลสาทรทุกท่านคงทราบดีถึงความสำคัญของทำเลดังกล่าว ในฐานะที่เป็นแหล่งธุรกิจที่มีทั้งบริษัทสัญชาติไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานฑูตหลายประเทศ นอกจากนั้นยังมีทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาลชั้นนำอีกมากมาย เพราะฉะนั้นเรื่องของมูลค่าที่ดินจัดว่าเป็นทำเลที่มีมูลค่าสูงมากแห่งหนึ่งในเมือง

เรื่องความอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องมองไปไหนไกล เพราะภายในซอยสวนพลู 8 เองมีร้านอาหารอยู่หลากหลาย แค่เพียงในซอยก็มีให้เห็นเกือบสิบร้าน ยังไม่รวมกับริมถนนสวนพลูในระยะที่เดินเท้าถึงได้ มีความคึกคักให้เห็นตลอดทั้งเช้า กลางวัน เย็น ไปจนถึงค่ำ สาเหตุที่ทำให้ทำเลนี้คึกคักเนื่องจากมีพนักงานออฟฟิศจำนวนมาก และยังใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพที่มีนักศึกษาพักหอพักอยู่ทำเลดังกล่าวเป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ส่วนฝั่งตรงข้ามซอย 8 มีตลาดสวนพลู เรียกว่าครบทั้งอาหารพร้อมทานและวัตถุดิบในการประกอบอาหาร

– การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ซอยสวนพลู มีข้อดีคือสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นสำคัญๆ ได้หลายเส้น แน่นอนว่าเส้นทางหลักคือถนนสาทร เพราะตำแหน่งที่ตั้งโครงการใกล้ฝั่งสาทรที่สุดเพียง 700 เมตร นอกจากนั้นถนนที่น่าสนใจก็มีถนนนราธิวาสฯ , พระราม 3 และ พระราม 4 ทำให้ตัวเลือกในการเดินทางมีหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากถนนสาทรเท่านั้นเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าบางเวลาสาทรรถติดหนักเอาเรื่องเลยล่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีตัวช่วยอย่างทางด่วนพระราม 4 ที่จุดขึ้นลงทางด่วนก็ไม่ได้ไกลโครงการนักประมาณ 3 กม. เท่านั้นเอง

– การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ซอยสวนพลูเป็นซอยที่มีระบบขนส่งสาธารณะเพียบพร้อมดีทีเดียว โดยมีทั้งรถเมล์และรถประจำทางวิ่งผ่านให้บริการ แต่สำหรับคนที่ไม่นิยมรถสาธารณะอาจจะถือว่าเป็นดาบสองคมได้เนื่องจากซอยสวนพลูเป็นถนนแค่ 2 เลนวิ่งสวนกัน เวลารถประจำทางจอดรับส่งผู้โดยสารทำให้การจราจรติดชะงักอยู่บ่อยครั้ง ในส่วนของรถไฟฟ้านั้นจะมีให้เลือกใช้ 2 สายด้วยกันคือ BTS สถานีศาลาแดง (ระยะ 1.5 กม.) และ MRT สถานีลุมพินี (ระยะ 2.0 กม.) โดยคนแถวนี้นิยมใช้รถมอไซค์รับจ้างเป็นหลักในการเข้าถึงรถไฟฟ้า เพราะสามารถหลีกเลี่ยงรถติดได้ดีที่สุด

– การออกแบบโครงการและวัสดุ The Seed Mingle เป็นโครงการ High-Rise สูง 31 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัยไม่มากไม่น้อยที่ 531 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 3 ไร่ ห้องพักอาศัยมีให้เลือกทั้งแบบ Studio, 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ตั้งแต่ขนาด 25 ตร.ม. ไปจนถึง 72 ตร.ม. คอนเซปต์โครงการออกแบบโดยเน้นเรื่องของการผสมผสานทำเลธุรกิจที่มีหน้าตาอาคารทันสมัย เข้ากับธรรมชาติใจกลางเมืองได้อย่างลงตัว

รูปแบบ Layout ของห้องพักอาศัย ทางโครงการเน้นเรื่องของความโปร่งสบายโดยสังเกตได้จากระเบียงที่มีทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น เพื่อให้ประตูระเบียงทำหน้าที่เหมือนเป็นหน้าต่างบานใหญ่ในการรับแสงธรรมชาติ อีกจุดที่เห็นชุดคือห้องน้ำจะใช้ผนังส่วนนึงเป็นกระจกฝ้าก็เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าถึงได้นั่นเอง นอกนั้นเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานก็ดูเหมาะสมลงตัวดีตามมาตรฐานนิยม พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนเพียงพอต่อการใช้งานจริง

วัสดุที่ทางโครงการให้มาจัดว่าอยู่ในเกรดทั่วไป เริ่มจากพื้นลามิเนต 8 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด ผนังฉาบเรียบทาสีขาว กรอบประตูหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ ชุดครัวมีให้ครบทั้ง ซิงค์, เตาไฟฟ้า และฮูดดูดควัน ของยี่ห้อ Franke ทั้งเซต ภายในห้องน้ำอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และอ่างอาบน้ำให้ของ Mogen ส่วนฝักบัวเป็น Cotto น่าเสียดายที่ไม่มีฉากอาบน้ำหรือ Shower Box ให้ แต่จะได้เป็นกระจกฝ้าสไตล์ Sexy Bath แทน

– สิ่งอำนวยความสะดวก ทางโครงการแยกอาคาร Facilities ให้ต่างหาก 1 อาคาร เป็นอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น โดยจอดรถที่ชั้น 1-7 จอดได้ 40% ไม่รวมซ้อนคัน ส่วนที่ชั้น 8 เป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย ห้องฟิตเนส, ห้องสตีม, ห้องเกม, สนามเด็กเล่น และสระว่ายน้ำรูปแบบ free form ขนาดกว่า 300 ตร.ม. ชั้นล่างมีสวนหย่อมที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาพร้อมเก้าอี้นั่งเล่นตามจุดต่างๆ ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว แยกลิฟต์ขนของต่างหาก 1 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัยมี รปภ. และ CCTV 24 ชม.

::: คะแนน :::

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel. : 1739

Website : http://stylishresidences.pruksa.com/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

ทาวน์โฮม บ้านพฤกษา กาญจนาฯ-กันตนา Baan Pruksa Kanjanapisek-kantana

บ้านพฤกษา กาญจนาฯ-กันตนา ทาวน์โฮมซีรี่ย์ใหม่ ความลงตัว แตกต่าง อย่างมีสไตล์  ตอบทุกโจทย์อย่างคุ้มค่า ด้วยฟังก์ชันการใช้งาน เดินทางสะดวก เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ, เซ็นทรัล เวสต์เกต  รองรับการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์ เริ่ม 1.69 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยกันตนา ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

:: HOUSE TYPE ::

• แบบบ้าน Cedar
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 17.8 ตร.วา.
• พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 98 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Website : http://www.pruksa.com/

พฤกษา จับมือพันธมิตรชั้นนำก่อสร้างคอนโด “The Tree สุขุมวิท 71-เอกมัย” มั่นใจส่งมอบตรงเวลาพร้อมคุณภาพ

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารจากบริษัทพันธมิตรงานก่อสร้าง งานระบบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดครัวระดับชั้นนำ

ได้แก่ ไอ-แลนดาร์ช, เอบิวด์ แมเนจเมนท์, ไพลอน, กรณิศ ก่อสร้าง, สยามไดกิ้นเซลส์, แฟรงเก้ (ประเทศไทย),ฟูจิเทค (ไทยแลนด์), และ บิวเทค

ร่วมพัฒนาโครงการ “เดอะทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย”  คอนโดมิเนียมสูง 33 ชั้น ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพการก่อสร้างและการตกแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญในทุกขั้นตอน

โดยเริ่มงานก่อสร้างแล้วบางส่วน คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าภายในปี 2562 ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับมอบห้องชุดที่มีคุณภาพและตรงตามเวลา

“เดอะทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย”  ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ธรรมชาติจรดฟ้า จุดเด่นอยู่ที่ทำเลใกล้ใจกลางเมือง ใกล้แอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีรามคำแหงเพียง 300 เมตร

และมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ให้มากมาย ราคาเริ่มต้นเพียง 1.9 ล้านบาท*

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.1739 หรือ thetreecondo.pruksa.com

EP.805 รีวิว ทาวน์โฮม พรีเว่ ฟิเดลิโอ รัชดา – รามอินทรา Privet Fidelio Ratchada – Ramintra

สวัสดีค่าท่านผู้อ่านชาว Homenayoo ที่น่ารักทุกคน วันนี้เรามีโครงการทาวน์โฮมมาฝากกันนั่นก็คือ โครงการ Privet Fidelio รัชดา – รามอินทรา จาก พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นโมเดิร์นทาวน์โฮมสไตล์ Loft ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมือง ลงตัวทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์สอดรับกับรูปแบบชีวิตที่ใช้งานได้ทั้งบ้านและโฮมออฟฟิศอย่างลงตัว บนถนนรัชดา – รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จ.กรุงเทพฯ อยู่ใกล้ Fashion Island, The Promanade และ The Junction ในระยะเพียง 700 เมตรเท่านั้น

พรีเว่ ฟิเดลิโอ รัชดา – รามอินทรา มีเนื้อที่โครงการ 6 ไร่ จำนวน 79 ยูนิต เป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น กับฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์และ 2 ที่จอดรถในร่ม พิเศษด้วย Walk – in closet และ Pocket Garden ภายในห้องนอนใหญ่ พร้อม Balcony เปิดรับมุมมองได้กว้างทุกชั้น และ Multi – purpose area ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของคุณ ขนาดเริ่มต้นที่ 17 ตร.วา ซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จพร้อมอยู่ทุกยูนิตแล้วค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีสวนสาธารณะขนาดย่อมๆ เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาท

โดยรายละเอียดที่เราจะพาท่านไปชมก็จะมีทำเลที่ตั้งโครงการ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูลโครงการ และบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึก เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนรัชดา – รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.

พิกัด : 13.821536, 100.663074

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง โครงการ พรีเว่ ฟิเดลิโอ รัชดา – รามอินทรา ตั้งอยู่ในโซนชานเมืองบนถนนรัชดา – รามอินทรา โดยถนนเส้นนี้จะตัดจากถนนเกษตร – นวมินทร์เชื่อมไปยังถนนรามอินทราช่วงกม.8 ระหว่างแยก รพ.นพรัตน์ กับช่วงที่เส้นรามอินทราตัดกับวงแหวนกาญจนาภิเษก ในโซนนี้เป็นโซนของแหล่งที่พักอาศัย และอาคารในแนวราบพวกโครงการบ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ

การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับย่านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การเดินทางเลยค่ะ เพราะอยู่ในทำเลที่ถือว่าสะดวกสบายมาก ดังที่กล่าวไปแล้วว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนรัชดา – รามอินทรา เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนเกษตร – นวมินทร์ และถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ใช้เดินทางเข้าเมือง และทั้ง 2 เส้นนี้จะตัดกับถนนนวมินทร์ ที่สามารถใช้วิ่งลงไปเชื่อมกับถนนลาดพร้าวย่านบางกะปิเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองได้อีก 1 เส้นทาง ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เป็นทางด่วนเส้นที่วิ่งเข้าเมืองได้สะดวกที่สุด แต่รถก็อาจจะเยอะหน่อย และตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก เป็นเส้นที่มีความคล่องตัวและสะดวกสำหรับท่านที่ปกติต้องเดินทางไปแถวบางนา – บางปะอิน

นอกจากนี้ จากทำเลในย่านนี้ยังสามารถเดินทางไปยังโซนนอกเมืองฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือและบริเวณใกล้เคียงอย่าง มีนบุรี, รามอินทรา, หลักสี่, เกษตร – นวมินทร์, ประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน) ได้สะดวกด้วยนะ เป็นโซนที่น่าจะได้ไปบ่อยเพราะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์รองรับอยู่เยอะเลย

ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ใกล้กับจุดขึ้น – ลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ในระยะ 8.7 กม. สามารถใช้วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองและไปทางพระราม 9 หรือบางนาได้สะดวก โดยวิ่งจากถนนรัชดา – รามอินทราไปยังถนนเกษตร – นวมินทร์ เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมแล้ววิ่งขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ได้เลยค่ะ

และตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก โดยวิ่งจากถนนรัชดา – รามอินทราไปเข้าถนนรามอินทราเพื่อวิ่งขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ในระยะ 4.1 กม. จะไปแถวบางนาหรือบางปะอินก็สะดวกนะ

ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบของตัวโครงการส่วนมากจะเป็นอาคารที่พักอาศัยในแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม Low rise มีความเงียบสงบ ซึ่งย่านนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ง่ายๆแบบการอยู่ในเมือง แต่ชอบความเงียบสงบไม่หนาแน่นอึกทึก ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรเลยค่ะ

ไปทางรามอินทราที่โดดเด่นเลยก็จะเป็นห้าง Fashion Island และข้างๆกัน The Promanade ซึ่งภายในก็จะมีทั้ง Shopping center, ห้าง Big C, ร้านอาหาร, โรงเรียนติวเตอร์, คลีนิกเสริมความงาม และ อื่นๆอย่างครบวงจร กลับมาอีกด้านบนถนนเกษตร – นวมินทร์ที่มีทั้ง Community mall, ตลาดนัดหัวมุม ตลาดนัดกลางคืนกับสินค้าในราคาย่อมเยา, ร้านอาหาร และร้านนั่งชิว มา Hangout กับเพื่อนๆได้ในยามค่ำคืน และถ้าไปทางเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, ห้างใหม่อย่างเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์ รวมถึงร้านอาหารดีๆให้เลือกกันได้อีกเพียบ

นอกจากนี้ไม่ไกลจากตัวโครงการก็จะมี Tesco Lotus, Big C Market, Chocolate Ville, Max Value, โรงพยาบาล, สนามกอล์ฟ และสวนสยาม ตรงข้ามกับตัวโครงการเองก็จะมี The Junction เป็น Community mall ที่รวมร้านอาหารและร้านค้ามาไว้ด้วยกัน

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางจากบริเวณทำเลโครงการจะพึ่งรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักค่ะ เพราะบนเส้นรัชดา – รามอินทรายังมีรถประจำทางผ่านไม่เยอะมากนัก ต้องเพิ่งรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ที่มีผ่านไปมาอยู่บ้าง แต่ภายในปี 2563 คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรีก็จะสร้างเสร็จได้เปิดใช้งาน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานีวงแหวนตะวันออก ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น และเป็นที่รู้ๆกันดีว่าเมื่อรถไฟฟ้าเข้าถึงเมื่อไหร่ ก็จะนำความเจริญและความอุดมสมบูรณ์มาสู่พื้นที่นั้นๆด้วย

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ พรีเว่ ฟิเดลิโอ รัชดา – รามอินทรา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ > ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > ถนนเกษตร – นวมินทร์ > ถนนรัชดา – รามอินทรา > โครงการ พรีเว่ ฟิเดลิโอ รัชดา – รามอินทรา

เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์มุ่งหน้าไปทางรามอินทรา สังเกตป้ายรามอินทรา (มีนบุรี) เอาไว้นะคะ ให้ชิดซ้ายเตรียมลงที่ทางออกหน้า

ชิดซ้ายลงจากทางด่วนเลยค่ะ

เมื่อลงจากทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์แล้วจะมาออกที่เส้นรามอินทรามุ่งหน้าไปยังหลักสี่ ให้สังเกตป้ายบางนาเอาไว้แล้วเตรียมชิดซ้าย

ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบทางด่วนรามอินทราไปเลยค่า

เมื่อเข้าถนนเลียบทางด่วนแล้ว ทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นตลาดนัดเลียบด่วน เป็นตลาดนัดขนาดใหญ่เปิดตอนกลางคืน มีสินค้าและอาหารมากมาย เป็นแหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยาและเดินได้สนุกของคนในย่านนี้เลย

ตรงไปเรื่อยๆให้สังเกตป้ายถนนลาดพร้าวเอาไว้ ชิดซ้ายเอาไว้เลยค่ะ

ชิดซ้ายมุ่งหน้าไปออกถนนเกษตร – นวมินทร์

จากนั้นให้สังเกตป้ายนวมินทร์เอาไว้

ชิดซ้ายมุ่งหน้าไปออกถนนเกษตร – นวมินทร์เลย ถ้าขึ้นทางยกระดับไปจะไปถึงลาดพร้าว – พระราม 9

ชิดซ้ายเอาไว้แล้วเลี้ยวเข้าถนนเกษตร – นวมินทร์

เมื่อเข้าถนนเกษตร – นวมินทร์มาแล้วให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ฝั่งซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็น Mc Donald

สังเกตป้ายถนนนวลจันทร์และมีนบุรีเอาไว้นะ เราจะชิดซ้ายเลี้ยวเข้าถนนรัชดา – รามอินทรากัน

ชิดซ้ายวิ่งเข้าถนนรัชดา – รามอินทราไปเลยค่ะ

เมื่อเข้าถนนรัชดา – รามอินทรามาแล้วจะมาเจอแยกไฟแดงถนนนวลจันทร์ ให้วิ่งตรงต่อไปเรื่อยๆ

จากถนนเกษตร – นวมินทร์วิ่งตรงเข้าไปประมาณ 2.4 กม.ทางขวามือจะเป็นโครงการ แชมเบอร์ส รามอินทราอยู่ตรงข้ามกับป้ายรถเมล์พอดี สังเกตป้าย พรีเว่ ฟิเดลิโอ เอาไว้แล้วชิดซ้ายค่ะ

ซอยทางเข้าโครงการจะอยู่ถัดจากทางเข้าโครงการ Workplace เลย ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่า

พอเลี้ยวเข้าซอยมาแล้วเลยไปอีก 130 เมตร ก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการอยู่ฝั่งซ้ายเลย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโครงการ Privet รัชดา – รามอินทรา ค่ะ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนรามอินทรา : 2.8 กม.
• แยกรพ.นพรัตน์ : 3.0 กม.
• ถนนนวมินทร์ : 3.9 กม.
• วงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก : 4.1 กม.
• ถนนนวลจันทร์ : 4.9 กม.
• ถนนเกษตร – นวมินทร์ : 5.3 กม.
• ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) : 7.2 กม.
• แยกวัดลาดปลาเค้า : 10.0 กม.
• แยกมัยลาภ : 10.4 กม.
• แยกวังหิน : 11.5 กม.
• แยกวัชรพล : 12.0 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• The Junction : 700 ม.
• Chocolate Ville : 3.7 กม.
• Max Value : 3.8 กม.
• The Promanade : 4.3 กม.
• Fashion Island : 4.7 กม.
• Big C market นวมินทร์ : 5.2 กม.
• Tesco Lotus นวมินทร์ : 5.7 กม.
• ตลาดนัดเลียบด่วน : 7.3 กม.
• ตลาดหัวมุม : 7.5 กม.
• The Walk : 7.9 กม.
• Ease Park : 8.2 กม.
• The Crystal : 8.9 กม.
• Chic Republic : 9.2 กม.
• Nawamin Festival Walk : 9.3 กม.
• Nawamin City Avenue : 9.3 กม.
• CDC : 9.5 กม.
• Big C extra รามอินทรา : 9.5 กม.
• Foodland : 9.6 กม.
• Tesco Lotus extra เลียบทางด่วน : 10.4 กม.
• เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์ : 10.5 กม.
• ตลาดถนอมมิตร : 10.8 กม.
• Plearnary mall : 11.0 กม.
• Tesco Lotus วังหิน : 12.3 กม.
• เซ็นทรัลรามอินทรา : 12.6 กม.
• HomePro เลียบทางด่วน : 13.3 กม.
• เมเจอร์รัชโยธิน : 15.3 กม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว : 19.2 กม.

สถานศึกษา

• รร.บดินทร์เดชา 2 : 5.1 กม.
• รร.เลิศหล้า : 5.8 กม.
• ม.เกริก : 12.6 กม.
• ม.เกษตร : 16.8 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.สินแพทย์ : 3.4 กม.
• รพ.นพรัตน์ : 3.9 กม.
• รพ.พญาไท : 5.1 กม.
• รพ.วิภาวดี : 14.9 กม.

ศาสนสถาน

• วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร : 13.6 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• สนามกีฬากองทัพบก : 11.3 กม.

สถานที่สันทนาการ

• สวนสยาม : 5.4 กม.
• สนามกอล์ฟปัญญา : 5.9 กม.
• สนามกอล์ฟนวธานี : 8.9 กม.

(ระยะทางวัดจากการเดินทางโดยรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด)

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

ถนนรัชดา – รามอินทราถึงจะเป็นถนนขนาด 6 – 8 เลนมีเกาะกลางแบ่งชัดเจน อยู่ใกล้ชุมชนเคหะ แต่ก็ไม่ค่อยมีความคึกคักมากนัก การจราจรก็ไม่หนาแน่น เรียกได้ว่ายังค่อนข้างเงียบสงบเมื่อเทียบกับถนนขนาดเท่าๆกัน บริเวณนี้จะเป็นย่านที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีโครงการบ้านจัดสรรทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียมแบบ Low rise จะมีร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆไม่ค่อยเยอะ แต่จะมีจุดความอุดมสมบูรณ์อยู่ที่ The Junction เป็น Community mall ที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด ห่างออกไปเพียง 700 เมตรเท่านั้นค่ะ ภายในมีทั้ง 7 – Eleven, ร้านค้า และร้านอาหารทั้งไทย จีน ฝรั่ง ให้เลือกช้อปเลือกชิมอยู่หลายร้าน รวมถึงศูนย์สุขภาพครบวงจรไว้ให้บริการอีกด้วย

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินบุคคลอื่น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนซอยทางเข้าโครงการ (ซอยนวมินทร์ 78)
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินบุคคลอื่น

เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการกันนะคะ จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับโครงการ จะเป็นโครงการ Privet รัชดา – รามอินทรา ในเครือพฤกษาเช่นกัน

มองจากซุ้มทางเข้าโครงการไปฝั่งซ้ายมือ ถนนซอยหน้าโครงการจะไปเชื่อมกับซอยนวมินทร์ 78 ข้างหน้านี้ ถ้าเลี้ยวออกขวาไป ซอยนวมินทร์ 78 จะไปเชื่อมกับซอยรามอินทรา 62 เป็นเส้นทางลัดที่ใช้วิ่งออกถนนรามอินทราได้ แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะสามารถไปออกถนนนวมินทร์ได้เหมือนกันค่ะ

จากซุ้มทางเข้าโครงการมองไปฝั่งขวามือกันบ้าง เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กัน

ทั้ง 2 ฝั่งถนนถัดจากตัวโครงการไปจะเป็นที่ดินของบุคคลอื่น ยังเป็นที่ดินร้างอยู่ค่ะ ถัดออกไปหน้าปากซอยฝั่งซ้ายจะติดกับโครงการ Vista Park ส่วนฝั่งขวาติดกับโครงการ Workplace 1 เดี๋ยวเราจะเดินออกไปที่ข้างหน้าถนนรัชดา – รามอินทรากันนะ

ออกมาที่ถนนรัชดา – รามอินทรากันแล้ว ฝั่งตรงข้ามจะเห็นโฮมออฟฟิศสูง 3 ชั้นชื่อโครงการ Workplace 2 อยู่ฝั่งซ้าย และ Low rise Condominium สูง 7 ชั้น ชื่อโครงการ Chambers ฝั่งขวาค่ะ

เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งขวากันก่อนนะคะ

ฝั่งขวามือตรงปากซอยจะติดกับโครงการ Workplace 1 เลยค่ะ จะเป็นโฮมออฟฟิศสูง 3 ชั้นเหมือนกับโครงการฝั่งตรงข้าม

บริเวณข้างหน้าโครงการ Workplace 1 จะมีป้ายรถเมล์ แต่สายที่ผ่านจะยังมีไม่ค่อยเยอะนัก เดินเลยไปอีกหน่อยก็จะมีสะพานลอยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามก็พอจะหาร้านค้าร้านอาหารได้เยอะกว่าฝั่งนี้ เพราะอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม ยังไงก็ลองไปสำรวจกันดูนะคะ

กลับมาที่บริเวณหน้าปากซอย เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจทางฝั่งซ้ายมือกันบ้าง ฝั่งขวาที่เห็นก็คือโฮมออฟฟิศ Workplace 2 ข้างๆคอนโด Chambers นะ

ถัดจาก Workplace 2 ไปก็จะเห็นนิคมอุตสาหกรรมสูง 5 ชั้นค่ะ

เราเดินไปเรื่อยๆจนถึงทางเข้าโครงการ Vista Park เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามคือโครงการ Chambers Cher เปน Low rise Condominium สูง 8 ชั้น เกิดขึ้นมาตามๆกันกับตัว Chambers

เดินเลยไปอีกหน่อยเกือบ 700 เมตรจะมีป้ายรถเมล์อยู่อีก 1 จุด

ด้านหลังป้ายนี้ก็คือ The Junction เป็น Community mall ที่มีทุกอย่างครบวงจรทั้งเรื่องกิน, เรื่องช้อปและเรื่องความงาม ภายในมีตู้เอทีเอ็มและ 7 – Eleven ด้วยค่ะ ร้านขายยาก็มีนะ สะดวกสบายไปอีก

บรรยากาศภายใน The Junction เดินง่ายๆไม่ซับซ้อนค่ะ สามารถจอดรถได้ทั้ง 2 ฝั่ง ภายในรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ร้านเลยนะ

ฝั่งตรงข้ามกับ The Junction จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว Bangkok Boulevard

เดินเลยไปข้างหน้าก็จะมีสะพานลอยข้ามฟากอีก 1 จุดค่ะ ถ้าวิ่งตรงตามถนนรัชดา – รามอินทราไปจะสามารถไปออกเส้นรามอินทราและวงแหวนกาญจนาภิเษกได้

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการ พรีเว่ ฟิเดลิโอ รัชดา – รามอินทรา เป็นโมเดิร์นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต บนที่ดิน 6 ไร่ สไตล์ Loft ที่เน้นความทันสมัย โปร่ง โล่ง สบาย ลงตัวทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์สอดรับกับรูปแบบชีวิตที่ใช้งานได้ทั้งบ้านและโฮมออฟฟิศอย่างลงตัว ก่อนที่จะพาเข้าไปดูภาพภายในโครงการจะขออธิบายผังโครงการคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ

ทางเข้า – ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือจากถนนซอยที่เชื่อมไปยังซอยนวมินทร์ 78 โดยจะต้องผ่านซุ้มรปภ.ซึ่งจะประกอบด้วย ป้อมยาม, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก เมื่อผ่านเข้ามาภายในตัวโครงการแล้วจะเจอถนนเมนกว้าง 10 เมตรผ่ายาวเข้าไปจนถึงท้ายโครงการโดยมียูนิตบ้านเรียงเข้าไปตลอดทั้งฝั่งซ้ายและขวา สำนักงานขายจะอยู่ภายในบ้านบล็อกแรก, บ้านตัวอย่างจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานขาย ส่วนสวนสาธารณะและห้องนิติบุคคลจะอยู่บริเวณกลางไซท์ค่ะ วัดระยะทางจากซุ้มทางเข้าถึงท้ายโครงการเพียง 250 เมตรเท่านั้นเอง ถือว่าไม่ลึกนะ ถ้าเดินออกไปที่หน้าถนนรัชดา – รามอินทรารวมๆแล้วก็ไม่เกิน 400 เมตรค่ะ

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

::: ทางเข้าโครงการ :::

เราได้ชมรายละเอียดกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะพาท่านผู้อ่านเดินชมภาพบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง

เริ่มจากที่ป้อมทางเข้าโครงการเลย ตัวป้อมมีดีไซน์ที่เรียบง่ายสไตล์ Loft ใช้สีออกโทนขาว – น้ำตาลกลมกลืนไปกับบ้านภายในโครงการ

บริเวณหน้าป้อมจะมีรั้วไม้กระดกกั้นอยู่ ตรงนี้ต้องให้คุณรปภ.คอยกดเปิดให้นะคะ ไม่ได้ใช้ระบบ Access card ค่ะ

มองไปบริเวณส่วนของป้อมยามจะเป็นบริเวณที่ติดตั้งกล้อง CCTV

กล้อง CCTV ค่ะ

ภาพมุมมองจากในโครงการไปยังด้านหลังของป้อมยาม ฝั่งขาออกก็จะใช้ระบบเดียวกับการเข้าโครงการเลยค่ะ

::: บริเวณภายในโครงการ :::

เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอถนนเมนกว้าง 10 เมตรผ่ายาวเข้าไปถึงท้ายโครงการ โดยจะมียูนิตบ้านขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่ง ผังโครงการวางแบบเรียบง่ายเลยค่ะเป็นเส้นตรงเข้าไปจนสุดเลย

เดินเข้าไปนิดหน่อยจะเห็นสำนักงานขายอยู่ฝั่งขวามือเลย

ส่วนฝั่งซ้ายตรงข้ามกับสำนักงานขายจะเป็นบ้านตัวอย่างที่เราจะเข้ามาชมกันในวันนี้ โดยรวมแล้วโครงการนี้ขายเกือบหมดแล้วนะคะ เหลือแต่ยูนิตหน้าๆที่สร้างใหม่เท่านั้นเอง

เดินตรงเข้าไปประมาณ 125 เมตรเราก็จะมาถึงส่วนกลางของโครงการค่ะ

ที่ฝั่งขวาจะเป็นสำนักงานนิติบุคคล

ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นสวนสาธารณะ

ภายในสวนสาธารณะมีพื้นที่ประมาณ 88 ตร.วา มีทางเดินยาวเข้าไปถึงศาลาพักผ่อนตรงกลาง ส่วนฝั่งซ้ายละขวาจะปูหญ้าและปลูกไม้ยืนต้นเอาไว้อย่างร่มรื่น

พื้นที่นั่งเล่นภายในศาลา แต่ตรงนี้จะเป็นหลังคาระแนงเหล็ก ไม่กันแดดกันฝนนะ

มุมมองจากม้านั่งภายในศาลาออกไปที่ถนนเมน

จากสวนสาธารณะตรงออกไปอีก 125 เมตรก็จะถึงส่วนท้ายของโครงการแล้วค่ะ

:::: แบบบ้านของโครงการ และ บ้านตัวอย่าง ::::

::: แบบบ้านของโครงการ :::

แบบบ้านของโครงการจะเป็นโมเดิร์นทาวน์โฮมสไตล์ Loft สูง 3 ชั้น สามารถปรับรูปแบบของการจัดแปลนบ้านให้เป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและโฮมออฟฟิศ ด้วยแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน

แบบบ้าน Symphony

• สูง 3 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 166 ตรม.
• ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 1 ห้องอเนกประสงค์
• 2 ที่จอดรถในร่ม

แบบบ้าน Sonare

• สูง 3 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 166 ตรม.
• ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ Sky Balcony
• 2 ที่จอดรถในร่ม

:: แบบบ้าน Symphony ขนาด 166 ตรม. ::

แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย

• ลานจอดรถ
• ห้องนั่งเล่น
• ห้องรับประทานอาหาร
• ห้องครัว
• ลานซักล้าง
• ห้องเก็บของ
• ห้องน้ำ 3

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องอเนกประสงค์
• ห้องนอน 3
• ห้องน้ำ 2

แปลนชั้นที่ 3 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 1 (Master Bedroom)
• ห้องนอน 2
• ห้องน้ำ 1

:: แบบบ้าน Sonare ขนาด 166 ตรม. ::

แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย

• ลานจอดรถ
• ห้องนั่งเล่น
• ห้องรับประทานอาหาร
• ห้องครัว
• ลานซักล้าง
• ห้องเก็บของ
• ห้องน้ำ 3

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 2
• ห้องนอน 3
• ห้องน้ำ 2

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 1 (Master Bedroom)
• ห้องน้ำ 1 Master Bedroom
• Sky Balcony

::: บ้านตัวอย่าง :::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 1 หลังด้วยกัน นั่นก็คือแบบบ้าน Sonare ขนาด 166 ตรม.ค่ะ เนื่องจากแบบบ้าน Symphony ขนาด 166 ตรม.อีกหลังยังไม่เรียบร้อยดีเราเลยยังไม่สามารถพาท่านผู้อ่านเข้าไปดูได้นะ อย่ารอช้ากันอยู่เลย รีบตามเข้ามาเลยค่า

:: แบบบ้าน Sonare ขนาด 166 ตรม. ::

นี่คือหน้าตาแบบบ้านมาตรฐาน Sonare ค่ะ ตัวบ้านใช้สีหลักเป็นสีขาว ตกแต่งหน้าตาบ้านด้วย Facade ระแนงเหล็กสีดำและผนังไม้เทียมที่กั้นหน้าต่างของบ้านแต่ละยูนิตเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว เปิดหน้าต่างออกมาจะได้ไม่มาจ๊ะเอ๋กัน

บริเวณรั้วบ้านจะติดไฟกิ่ง, Mail box ติดป้ายเลขที่บ้าน และกริ่งออดมาให้ ประตูรั้วจะเป็นบานเฟี้ยมระแนงเหล็กแบ่งเป็น 6 ตอน

ไฟกิ่ง, Mail box และกริ่งออดหน้าบ้านค่ะ

เข้ามาภายในรั้วบ้านจะเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดได้ 2 คัน พื้นทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบทั้งหมด

ที่พื้นเฉลียงทางเข้าจะยกขึ้นมาประมาณ 15 ซม.ปูด้วยกระเบื้องสีเทาผิวหยาบหน่อยขนาด 20 x 60 ซม. เวลาฝนตกก็จะไม่ค่อยลื่นค่ะ

บริเวณฝ้าเพดานตรงเฉลียงจะติดดวงโคมซาลาเปามาให้ 2 ดวง

ที่ฝั่งขวาจะมีตู้เก็บของให้ด้วยค่ะ สามารถเก็บพวกสายยางและอุปกรณ์ล้างรถได้พอดีๆ

ข้างๆตู้เก็บของจะมีก๊อกสนามให้ 1 จุด ตำแหน่งที่ติดตั้งสามารถใช้งานได้สะดวก แต่อาจจะติดประตูตู้เก็บของหน่อยนึง

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนคู่วงกบและบานกรอบอลูมิเนียมรมดำลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ

ส่วนมือจับบานประตูจะเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานเหมือนกันทั้งภายในและภายนอก

เข้ามาภายในตัวบ้านจะเป็นส่วนโถงของห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารเชื่อมต่อกันแบบ Open plan ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง รวมถึงประตูเลื่อนบานด้านหลังขนาดใหญ่ก็ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี ในส่วนของวัสดุภายในบ้าน พื้นจะปูด้วยกระเบื้องพอสเลนขนาด 60 x 60 ซม.เข้าไปถึงภายในห้องครัว ส่วนผนังจริงๆจะติดวอลเปเปอร์ให้นะคะ แต่จะติดให้ก่อนการเซ็นต์รับบ้าน 15 วันค่ะ

ฝ้าเพดานสูงถึง 2.7 เมตร จะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง โดยการติดไฟจะกะระยะให้แต่ละดวงห่างกันพอประมาณ ทำให้ตัวบ้านได้รับแสงสว่างอย่างทั่วถึง

มาดูที่ผนังบ้านฝั่งซ้าย จะเป็นมุมสำหรับจัดชุดโซฟารับแขก ซึ่งพื้นที่ห้องตรงนี้กว้างเพียงพอสำหรับวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง หรือจะวางเป็นโซฟาเบดก็ยังได้อยู่ค่ะ บริเวณข้างๆโซฟายังจะสามารถวางโต๊ะข้างสำหรับวางแจกันดอกไม้, โคมไฟ, หนังสือ หรือของประดับตกแต่งอื่นๆเพิ่มเติมได้อีก ที่ผนังจะเดินสายไฟและสายโทรศัพท์มาให้เรียบร้อย

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังสำหรับวางชั้นวางทีวี ถัดไปจะมีห้องเก็บของ, ห้องน้ำ และห้องครัว

ในส่วนของบริเวณชั้นวางทีวีจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 0.8 – 0.9 เมตร คงจะวางได้แค่ชั้นวางทีวีตัวเล็กๆนะคะ ถึงแม้ระยะดูทีวีจะค่อนข้างกว้างขวางแต่อาจจะไม่สามารถวางทีวีขนาดจอใหญ่ๆได้เพราะจะไปติดประตูห้องเก็บของเอานะ

ในส่วนของห้องเก็บของประตูจะสูงอยู่แค่ครึ่งเดียวของประตูทั่วไป เป็นประตูติดเกล็ดระบายอากาศ ผนังภายในห้องจะค่อนข้างเตี้ยตาม Slope ของบันไดค่ะ

ภายในห้องเก็บของจะปูด้วยกระเบื้องพอสเลนเหมือนกัน ภายในพอจะสามารถเก็บตุนของเครื่องใช้และความไม่เรียบร้อยของบ้านได้อยู่ค่ะ

มาที่ห้องรับประทานอาหารกันต่อ ภายในห้องรับประทานอาหารจะสามารถวางโต๊ะขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้ นอกจากนี้จะสามารถวางโต๊ะเคาน์เตอร์สำหรับเก็บจาน – ชามและวางเครื่องปรุงได้อีก ตรงนี้ถ้าใช้วอลเปเปอร์คนละสีก็จะทำให้พื้นที่ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น แต่ควรจะใช้สีที่อยู่ในโทนเดียวกันด้วยนะ

ที่ฝั่งขวาของห้องรับประทานอาหารจะเป็นห้องน้ำ ประตูเป็นบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศ

มือจับประตูเป็นลูกบิดสแตนเลสมาตรฐาน

ห้องน้ำที่ชั้นล่างนี้จะเป็นห้องน้ำแขกนะคะ ภายในจะมีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มาให้ แต่ไม่มีฝักบัวนะ วัสดุของพื้นจะเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 60 ซม.ลายหินสีดำมีผิวด้าน ส่วนผนังจะเป็นกระเบื้องขนาดเท่ากันลายหินอ่อนสีขาวกรุจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ส่วนฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้เหมือนกับส่วนโถงของบ้าน

ที่พื้นของห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม.ค่ะ

มาดูสุขภัณฑ์ที่ได้มากับตัวบ้านกันบ้าง อ่างล้างมือจะเป็นอ่างแบบแขวนผนังขนาดกระทัดรัดของ Mogen ขอบอ่างพอจะวางพวกขวดสบู่ล้างมือได้อยู่บ้าง

ส่วนก๊อกน้ำจะเป็นของ Globo ค่ะ ขนาดพอดีใช้งานสะดวก

เหนืออ่างล้างมือจะติดกระจกขอบเจียปรีมาให้ ขนาดใหญ่ส่องได้ถนัดอยู่ค่ะ

ถัดจากอ่างล้างมือก็จะเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Mogen แบบแยกชิ้นพร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน

อุปกรณ์ประกอบโถสุขภัณฑ์ทั้งสายฉีดชำระของ Globo และที่ใส่กระดาษชำระ

ออกมาจากห้องน้ำมาดูที่ส่วนครัวและลานซักล้างกันต่อ

เริ่มจากภายในห้องครัว ตัวแปลนก็จะทำเชื่อมกับห้องโถงของบ้านเลย เราสามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นเพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนขึ้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยกันกลิ่นจากการปรุงอาหารไม่ให้ฟุ้งกระจายไปทั่วบ้านด้วยค่ะ ภายในห้องครัวจะมีความกว้างประมาณ 2.1 เมตร เราจึงสามารถวางเคาน์เตอร์ให้เป็นรูปตัว U ได้เลยนะ จะมีพื้นที่ในการเตรียมอาหารและการปรุงอาหารอย่างเพียงพอเลย ที่ฝั่งซ้ายมือจะมีการเจาะท่อสำหรับอ่างล้างจานให้เรียบร้อย ตำแหน่งจะอยู่พอดีกับหน้าต่างเลย ถือเป็นตำแหน่งที่ดีค่ะ

หน้าต่างจะเป็นจุดที่มีแสงสว่างเข้าทำให้เราสามารถเห็นอะไรได้อย่างชัดเจน เวลาจะล้างจานหรือล้างของสดก็สามารถทำได้สะอาดสะอ้าน อีกทั้งบริเวณอ่างล้างจานจะเป็นจุดที่โดนน้ำอยู่ตลอดเวลา แสงแดดจากภายนอกก็จะช่วยฆ่าเชื้อโรคไม่ให้เกิดกลิ่นอับและความหมักหมมได้ค่ะ

มือจับบานหน้าต่างแบบเซาะร่องมาตรฐาน

ถัดจากห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้

บริเวณลานซักล้างจะกว้างประมาณ 2 เมตร พื้นลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ประมาณ 10 ซม.ปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขนาด 30 x 30 ซม.

พื้นที่ลานซักล้างกว้างขวางดีค่ะ สามารถทำงานหลังบ้านได้สะดวกทั้งซักผ้าตากผ้า บางท่านอาจจะขยายพื้นที่ครัวไทยออกมาภายนอกก็มีที่เหลือพอ บริเวณลานซักล้างจะติดถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำมาให้เรียบร้อย นอกจากนี้บริเวณผนังจะติดไฟกิ่ง, ดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์ และก๊อกสนามมาให้เรียบร้อย

มองจากลานซักล้างกลับเข้ามาภายในตัวบ้านค่ะ

เราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลยนะ ตัวโถงบันไดจะกว้างประมาณ 0.9 เมตร บันไดเป็นบันไดทึบ พื้นบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป ส่วนราวบันไดจะเป็นราวเหล็ก ตัวมือจับใช้ไม้สำเร็จรูปสีเข้ากันกับพื้นบันไดค่ะ

มุมมองขึ้นไปยังโถงบันได จะมีไฟกิ่งติดมาให้แสงสว่างบริเวณช่วงปลายของโถง

ขึ้นมาถึงโถงบันไดชั้น 2 พื้นจะปูด้วยลามิเนตทั้งหมด ส่วนผนังจะยังติดวอลเปเปอร์ให้เหมือนเดิมค่ะ ฝั่งซ้ายมือสุดจะเป็นประตูขึ้นบนชั้น 3 ตามด้วยประตูห้องนอน 2 และประตูห้องน้ำ

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของโถงจะเป็นห้องนอน 3 ค่ะ

มาเริ่มต้นที่ห้องนอน 2 กันก่อน ประตูห้องนอนทุกห้องจะเป็นบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส

เข้าไปภายในห้องจะมีลักษณะเป็นรูปตัว L ภายในมีกระจกบานเลื่อนมาให้เป็นช่องแสง

เดินเข้าไปที่มุมห้องฝั่งซ้าย จะค่อนข้างมีความ Private มากกว่า จึงเหมาะจะทำเป็นโซนที่นอน ขนาดเตียงสามารถวางได้ตั้งแต่ควีนไซส์ถึงคิงไซส์เลยค่ะ พอวางเตียงแล้วก็ยังจะเหลือพื้นที่ทั้ง 2 พอวางโต๊ะข้างได้ฝั่งละตัว

มองมาที่อีกฝั่งนึง ที่ผนังจะเดินสายไฟและสายทีวีเอาไว้ให้ สามารถจัดวางเป็นชุด Built – in ขนาดใหญ่ที่ดีไซน์เป็นชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ข้างๆประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูที่เชื่อมกับห้องน้ำค่ะ

ภายในห้องน้ำพื้นจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขนาด 30 x 60 ซม. เข้าไปในโซนอาบน้ำพื้นจะปูด้วยกระเบื้องลายหินสีดำขนาด 20 x 60 ซม. กรุผนังด้วยกระเบื้องแบบเดียวกันขนาด 30 x 60 ซม. ส่วนฝั่งฝักบัวอาบน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก

มาดูในส่วนของสุขภัณฑ์กันบ้าง อ่างล้างมือจะเป็นของ Mogen เหมือนเดิมค่ะ แต่เปลี่ยนรุ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

กระจกเหนืออ่างล้างมือจะเป็นของ Mogen เช่นกัน มีชั้นสำหรับวางของใช้พวกสบู่ แปรงสีฟัน – ยาสีฟันให้เพิ่ม

ถัดเข้ามาเป็นโถสุขภัณฑ์และ Accessories จะใช้เหมือนห้องน้ำชั้นล่างค่ะ ด้านหลังโถจะก่อ Lower wall ให้ สามารถวางของใช้เพิ่มเติมได้ สำหรับท่านที่ชอบใช้เวลาในห้องน้ำนานๆก็อาจจะเตรียมนิตยสารมาวางไว้อ่านแก้เซ็งได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้

ริมในสุดของห้องจะเป็นโซนอาบน้ำ ใช้สีสันของกระเบื้องแบ่งโซนอย่างชัดเจน

พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดีค่ะ มีการก่อธรณีประตูให้กันน้ำไหลย้อนได้ ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมนะคะ

ภายในโซนอาบน้ำจะติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนกับชั้นวางสบู่มาให้เรียบร้อย อันนี้จะเป็นของ Bathero ค่ะ ส่วนชั้นวางสบู่สแตนเลสสำหรับสบู่ก้อนจะเป็นของ Mogen เจ้าเดิม

เราเทียบขนาดฝ่ามือกับขนาดหัวฝักบัวให้ดูค่ะ ขนาดหัวกำลังดีเลย สามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ด้วย

มาที่อีกฝั่งหนึ่งของโถงมาดูห้องนอน 3 กันต่อ

เข้ามาภายในห้องนอน 3 ตัวห้องจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็สามารถทำได้ง่ายค่ะ ภายในมีหน้าต่างบานเลื่อนมาเป็นช่องแสงให้ 1 บาน

ที่ฝั่งซ้ายของห้อง บริเวณผนังจะเดินสายไฟและสายทีวีเอาไว้ให้ สามารถจัดวางเป็นชุด Built – in เป็นรูปตัว L เป็นชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะสามารถวางเตียงนอนขนาดควีนไซส์ถึงคิงไซส์ได้เลยค่ะ แต่จะวางเป็นเตียงขนาดคิงซิงเกิ้ลชิดริมฝั่งนึง แล้ววางโต๊ะทำงานชิดฝั่งริมหน้าต่างก็ได้เช่นกัน

กลับออกมาที่โถงบันไดขึ้นไปดูห้องนอน Master bedroom กันต่อเลย ประตูขึ้นชั้น 3 จะเป็นประตูบานกรอบไม้สำเร็จรูป ลูกฟักกระจก

มุมมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 3 ตรงนี้ก็จะติดไฟกิ่งให้เหมือนที่โถงบันไดชั้น 2 ค่ะ

มุมมองย้อนกลับลงไปที่บันได

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได

มาถึงชั้น 3 จะเป็นส่วนของห้องนอน Master bedroom ทั้งหมด ที่พื้นจะปูด้วยลามิเนต ส่วนผนังจะติดวอลเปเปอร์ให้เหมือนชั้น 2 ค่ะ

เนื่องจากห้องนอนที่ชั้น 3 นี้จะมีขนาดเต็ม 1 Floor เลย ขนาดห้องกว้างขวางมาก รูปแบบการจัดเฟอร์นิเจอร์สามารถทำได้อย่างหลากหลายค่ะ ในมุมมองของผู้เขียนจะขอแนะนำให้จัดห้องตามแบบแปลนบ้านนะคะ ออกแนวเป็นกลางดีค่ะ ฮ่าๆๆ เราสามารถวางเตียงนอนไว้ตรงกลางห้องได้ ขนาดเตียงนี่ได้ตามชอบเลยจะใช้ขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็ได้ ตามแปลนบ้านจะจัดชั้นวางทีวีเอาไว้ที่มุมฝั่งซ้ายของห้อง แต่จริงๆแล้วจะก่อผนังต่อจากราวกันตกขึ้นไปเพื่อทำชั้นวางทีวีแทนก็ได้นะแล้วค่อยเดินสายไฟเอาค่ะ

มุมฝั่งซ้ายของห้อง ตามแปลนบ้านจะเป็นจุดที่วางชั้นวางทีวี แต่เราสามารถสร้างมุมนี้ให้เป็นห้องทำงานส่วนตัวได้อีก 1 ห้องเลยนะ

ภายในห้องจะมีประตูบานเลื่อนสามารถออกสู่ระเบียงห้องได้

บริเวณระเบียงห้องมีพื้นที่ๆกว้างขวางทีเดียวค่ะ ตรงนี้สามารถตั้งชุดเก้าอี้นั่งเล่นและโต๊ะกาแฟได้เลย ที่พื้นจะปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขนาด 30 x 30 ซม. ลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม.

บริเวณระเบียงจะทำหลังคาปกคลุมให้ทั้งหมด เป็นโครงเหล็กและปิดด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนต

มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเหมาะสำหรับจัดเป็น Walk – in closet เพราะจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำพอดี โดยสามารถทำ Built – in ให้เป็นรูปตัว L ได้ แต่ต้องเว้นพื้นที่สำหรับหน้าต่างด้วยนะคะ

จากนั้นมาดูที่ห้องน้ำในตัวห้องนอนกันต่อ

ห้องน้ำห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุดค่ะ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้เหมือนกับห้องน้ำชั้น 2 ทั้งหมด

ฝั่งซ้ายของห้องน้ำจะเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือแบบเดียวกับห้องน้ำชั้น 2 ทุกประการ

ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโซนอาบน้ำ ฝั่งซ้ายมือยังเหลือพื้นที่ว่างริมหน้าต่างอยู่อีกค่ะ คุณผู้หญิงสามารถวางที่ตากผ้า ตากสิ่งของกระจุกกระจิกส่วนตัวได้พอดี

ที่เพิ่มขึ้นมาจากห้องน้ำชั้น 2 คือมีการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้เรียบร้อย เป็นบานเปิดออกแบบนี้ค่ะ

พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในก็กว้างกำลังดี

ส่วนด้านในจะมี Rain Shower และชุดราวปรับระดับเพิ่มมาให้

ชุดนี้จะเป็นของ Karat นะคะ เราเทียบขนาดฝ่ามือกับขนาดหัวฝักบัวให้ดูอีกค่ะ

นอกจากนี้สวิตช์ไฟและปลั๊กไฟที่ใช้ภายในบ้านจะเป็นของ T&J นะ

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (เมษายน 2560) ::::

วัสดุโดยรวม

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอสเลน ขนาด 60 × 60 ซม.
• พื้นชั้น 2 และพื้นชั้น 3 : ลามิเนต
• พื้นเฉลียงทางเข้า : กระเบื้องลายหินสีเทาขนาด 20 x 60 ซม.
• พื้นห้องน้ำชั้น 1 : กระเบื้องลายหินสีดำขนาด 30×60 ซม.
• พื้นห้องน้ำชั้น 2 และชั้น 3 : กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวขนาด 30×30 ซม. และ กระเบื้องลายหินสีดำขนาด 20 x 60 ซม.
• พื้นลานจอดรถ : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ
• พื้นลานซักล้างและพื้นระเบียงห้องนอน : กระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขนาด 30×30 ซม.
• ผนังภายใน : ผนังติดวอลเปเปอร์
• ผนังห้องน้ำชั้น 1 : กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวขนาด 30 x 60 ซม.
• ผนังห้องน้ำชั้น 2 และชั้น 3 : กระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขนาด 30 x 60 ซม., กระเบื้องลายหินสีดำขนาด 30 x 60 ซม. และ กระเบื้องโมเสกตกแต่ง
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบานอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส
• ประตูห้องน้ำ : ประตูบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศ มือจับลูกบิดสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Mogen , Karat และ Bathero

งานไฟฟ้า

• สวิตช์ และปลั๊กไฟ : T&J
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ไฟภายนอก : ดวงโคมซาลาเปา, ดวงโคมฟลูออเรสเซนต์ และไฟกิ่ง

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: ราคา (เมษายน 2560) ::::

แบบบ้าน Sonare

พื้นที่ใช้สอย 166 ตรม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ

– แปลงมาตรฐานขนาด 20.20 ตร.วา

– ราคา 3,670,000 บาท

แบบบ้าน Symphony

พื้นที่ใช้สอย 166 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์

– แปลงมาตรฐานขนาด 20.20 ตร.วา

– ราคา 3,490,000 บาท

• เงินจอง 10,000 บาท
• เงินทำสัญญา 20,000 บาท

• ที่ดินเพิ่ม – ลด ตร.วาละ 110,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 25 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้าเป็นเวลา 24 เดือน)

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการตั้งอยู่ในโซนชานเมืองบนถนนรัชดา – รามอินทรา เป็นโซนที่พักอาศัยในแนวราบเกือบทั้งหมด มีโครงการบ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ อยากได้บ้านที่ดูแลง่ายๆแต่มีขนาดใหญ่กว่าคอนโด

ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควร มีทั้งห้างสรรพสินค้า, Community mall, Hypermarket, ร้านอาหาร และตลาดนัดให้เลือกไปเดินได้ตามถนนเส้นต่างๆใกล้เคียงกับตัวโครงการ โดยจะสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปได้สะดวก ใกล้ๆกับตัวโครงการเองก็จะมี The Junction เป็น Community mall สามารถหาของกินของใช้ได้สะดวก ไม่ต้องขับรถออกไปไกล

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกสบายเพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนรัชดา – รามอินทรา ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนเกษตร – นวมินทร์และถนนรามอินทรา ซึ่งถนนทั้ง 2 สายนี้เป็นถนนสายหลักที่ใช้เดินทางเข้าเมือง ทั้ง 2 เส้นนี้จะตัดกับถนนนวมินทร์ซึ่งสามารถใช้วิ่งลงไปเชื่อมกับถนนลาดพร้าวย่านบางกะปิเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองได้อีกทาง ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และวงแหวนกาญจนาภิเษกอีกด้วย

จากทำเลในย่านนี้ยังสามารถเดินทางไปยังโซนนอกเมืองฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือและบริเวณใกล้เคียงอย่าง มีนบุรี, รามอินทรา, หลักสี่, เกษตร – นวมินทร์, ประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน) ได้สะดวก

การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางหลักๆจากบริเวณทำเลโครงการส่วนมากจะพึ่งรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักเพราะปัจจุบันบนถนนรัชดา – รามอินทรายังมีรถประจำทางผ่านไม่เยอะมากนัก การเดินทางด้วยรถสาธารณะยังไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่ภายในปี 2563 ก็คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรีก็จะสร้างเสร็จ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานีวงแหวนตะวันออก ซึ่งก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นเยอะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต บนพื้นที่ 6 ไร่ โดยรูปแบบของการจัดวางผังบ้านจะไม่ต่างจากทาวน์โฮมทั่วๆไป คือจัดแปลนชั้น 1 แบบ Open plan ไปเลยเพราะจะสามารถจัดการกับพื้นที่ได้ง่ายกว่า ส่วนที่ชั้น 2 ก็จะแบ่งเป็นห้องนอนไปฝั่งหน้าบ้าน 1 ห้องและฝั่งหลังบ้านอีก 1 ห้อง ที่โดดเด่นกว่าก็จะเป็นห้องนอน Master bedroom ที่ชั้น 3 ที่มีขนาดใหญ่ คำเรียกใกล้ๆก็คือ Penthouse นอกจากนี้วัสดุก็คือว่าใช้ของเกรดดีและเลือกได้สวยงามกว่าทาวน์โฮมทั่วไปค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย เนื่องจากภายในโครงการมีเพียง 79 ยูนิตเท่านั้น โดยพื้นที่ก็ประมาณ 6 ไร่จึงไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกจำพวกคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ และฟิตเนสเอาไว้ให้ จะมีก็จะเป็นสวนพักผ่อนขนาดย่อมๆพอออกมานั่งเล่นได้อยู่บ้าง จากโครงการเองจะอยู่ไม่ไกลจากแฟชั่นไลส์แลนด์ซึ่งเราสามารถขับรถไปใช้บริการพวกฟิตเนสตรงนั้นจะครบครันกว่า ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะมีป้อมยาม, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV ค่ะ ทางโครงการนี้จะไม่ใช้ Access card เพราะมีจำนวนยูนิตน้อย ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ค่ะ

:::: คะแนน ::::

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1739

สำนักงานขาย : 02 – 509 – 8525

WEBSITE : http://towncollections.pruksa.com/พรีเว่-ฟิเดลิโอ-รัชดา-รามอินทรา

EP.806 รีวิว เดอะ คอนเนค กาญจนาฯ-กันตนา The Connect Kanjanapisek-kantana ทาวน์โฮม และบ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ Homenayoo ขอพาทุกท่านไปพบกับโครงการบ้านแฝด และทาวน์โฮม The Connect กาญจนาฯ-กันตนา จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเล ถนนกาญจนาภิเษก สามารถเข้าออกได้ทั้งจากซอยพระเงิน และซอยกันตนา ใกล้เซ็นทรัลเวสต์เกต ใกล้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง และเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนบรมราชชนนี, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนนครอินทร์, ถนนศาลายา และถนนราชพฤกษ์

เดอะ คอนเนค กาญจนาฯ-กันตนา มีพื้นที่โครงการ 36-0-89.8 ไร่ จำนวนบ้านพักอาศัย 294 ยูนิต มีให้เลือก 2 แบบ คือทาวน์โฮม และบ้านแฝด ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 100-124 ตร.ม. บนฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดดเด่นด้วยหน้าบ้านที่กว้างถึง 7.8 ม. จอดรถได้ถึง 2 คัน อย่างสบายๆ เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ได้แก่ สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบคีย์การ์ด, กล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.  ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท

:::ที่ตั้งโครงการ:::

ถนนบางคูลัด-วัดพระเงิน ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

พิกัด : 13.833807, 100.366429

จากแผนที่ของทางโครงการ จะเห็นได้ว่าทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง กรุงเทพฯ-นนทบุรี มีถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เป็นเส้นทางหลักเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ และสถานีรถไฟฟ้าตลาดบางใหญ่

ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ใกล้โครงการที่สุด บริเวณแยกบางใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของ Central Westgate, Ikea สาขาบางใหญ่, BigC, Index Living mall และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

เป็นทำเลที่เข้า-ออก กรุงเทพฯ-นนทบุรี ได้สะดวก ในละแวกโครงการเต็มไปด้วยที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ใกล้กับตลาด มีความเงียบสงบ และบรรยากาศของย่านที่อยู่อาศัย ผู้คนที่อยู่อาศัยในละแวกนี้ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ และอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว

สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่มีทั้งตลาด ชุมชนที่เป็นทั้งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน, วัด, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า นับว่าเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าจะเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความสงบ และสามารถเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯชั้นใน หรือตัวเมืองนนทบุรีได้

:::การเดินทางโดยรถยนต์:::

โครงการ The Connect กาญจนาฯ-กันตนา ตั้งอยู่ใน ซอยบางคูลัด-วัดพระเงิน ซอยที่เชื่อมต่อระหว่าง ซ.วัดพระเงิน (ซอยบางม่วง-บางคูลัด) กับซอยกันตนา (ซอยบางใหญ่-บางคูลัด) ที่ตั้งของโรงถ่ายกันตนา สามารถออกสู่ถนนกาญจนาภิเษก ที่นำไปสู่ถนนหลักเส้นต่างๆ ดังนี้

– ถนนกาญจนาภิเษก เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเข้าออกโครงการผ่านทางซอยวัดพระเงิน และซอยกันตนา และยังเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นสำคัญอื่นๆในย่านบางใหญ่ ได้แก่ ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนนครอินทร์ และถนนบรมมราชชนนี

โดยถนนทั้งสามเส้นที่กล่าวมานี้ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนราชพฤกษ์เพื่อเดินทางเข้าสู่กรุงเทพชั้นในฝั่งสาทร กลับมาที่ตัวถนนกาญจนาภิเษก ถนนเส้นนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อวงแหวนรอบนอกเป็นถนนเส้นใหญ่ มีช่องทางการเดินรถกว้าง 8-10 เลน

ทำให้การจราจร สามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วสูง ด้านเหนือเป็นเส้นทางไปฝั่งบางบัวทอง, ปทุมธานี, สุพรรณบุรี หากมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ก็สามารถวิ่งไปยังพระราม 2 ต่อเนื่องไปจนถึงบางนา-สมุทรปราการ

– ถนนรัตนาธิเบศร์ นอกจากจะใช้เดินทางเข้าสู่เส้นราชพฤกษ์เพื่อไปยังสาทรแล้ว หากขับตรงไปตามเส้นรัตนาธิเบศร์ ก็ยังสามารถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านทางสะพานพระนั่งเกล้าไปยังงามวงศ์วาน-แยกแคราย

และหากเลยไปอีกหน่อยก็สามารถเข้าสู่ถนนเส้นวิภาวดีรังสิต บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้

– ถนนนครอินทร์ มีการใช้งานคล้ายกับเส้นรัตนาธิเบศร์ คือ สามารถเข้าสู่เส้นราชพฤกษ์เพื่อไปยังสาทร หรือมุ่งหน้าไปข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านทางสะพานพระราม 5 เพื่อเข้าสู่ถนนติวานนท์ มุ่งหน้าตรงไปยังโซนปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะได้เช่นกัน

– ถนนบรมราชชนนี ตามที่ได้กล่าวมาว่าเป็นอีกเส้นทางที่เชื่อมต่อเข้ากับถนนราชพฤกษ์ แต่การใช้งานหลัก คือ เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังนครปฐมผ่านทางถนนพุทธมณฑลสายต่างๆ

และหากมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก แถบปิ่นเกล้า จะพบกับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหลายจุด ได้แก่ สะพานพระราม 8, สะพานพระปกเกล้า และสะพานกรุงธน ซึ่งข้ามไปยังโซนพระราชวังแถบสนามหลวง และเขตดุสิต

– ถนนราชพฤกษ์ เป็นถนนเส้นสำคัญที่เชื่อมต่อเข้ากับกรุงเทพชั้นในเขตสาทรทางฝั่งสะพานตากสิน ซึ่งการเดินทางเข้าสู่ถนนเส้นนี้ก็สามารถเลือกใช้หนึ่งในสามเส้นทางที่ได้กล่าวไปแล้ว

การเข้าสู่โครงการเส้นทางที่ 1 ทางซอยบางม่วง-บางคูลัด (ซอยวัดพระเงิน) ใช้เวลาประมาณ 12 นาที ระยะทางประมาน 6.8 กม. ในซอยวัดพระเงินมีโรงเรียนอยู่ 2 โรง คือโรงเรียนเปรมประชาตรงปากทางเข้า และโรงเรียนวัดพระเงินด้านในซอยวัดพระเงิน ซึ่งในช่วงเปิดเทอมการจราจรในเส้นทางนี้จะมีความติดขัดตามช่วงเวลารับ-ส่งนักเรียน แนะนำให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางฝั่งซอยกันตนาตามภาพถัดไปค่ะ

เส้นทางที่ 2 ทางซอยกันตนา (ซอยบางใหญ่-บางคูลัด) ระยะทางประมาณ 6.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที เป็นเส้นทางที่สะดวกสบายกว่าเส้นทางแรก เพราะการเดินทางไม่ซับซ้อน ถนนเป็นเส้นทางตรง ไม่ค่อยมีแยกที่สร้างความสับสน สามารถใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัดจากการรับ-ส่งนักเรียนได้ดี

อีกทั้งยังเข้าถึงความอุดมสมบูรณ์ได้ในระยะทางที่ไกลกว่า เพราะมีทั้งตลาดบางคูลัด พร้อมเซเว่น 1 สาขา, ชิล-ชิล พาร์ค ตลาดที่มีร้านอาหาร และเครื่องดื่ม บรรยากาศแบบลานเบียร์, เทสโก้โลตัสเอ็กเพรส และเซเว่นอีก 2 สาขา ตรงข้ามโรงถ่ายกันตนา และปากซอยกันตนา

สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก บริเวณด่านเก็บเงินฉิมพลี ระยะทางจากโครงการประมาณ 12.6 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที โดยออกจากโครงการทางซอยพระเงิน และไปกลับรถบนถนนกาญจนาภิเษก จุดกลับรถอยู่ไม่ห่างจากปากซอยพระเงิน

การเดินทางไปยังพุทธมณฑลสาย 4 นับว่าเป็นข้อได้เปรียบของที่ตั้งโครงการ เพราะสามารถเดินทางจากโครงการได้โดยตรง ผ่านถนนพิชัยเขตทางด้านหลัง ระยะทางประมาณ 10.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ถนนสายนี้ยังเป็นถนนชุมชนมีเขตทางไม่กว้าง แต่ก็มีการจราจรที่โล่ง

เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นที่ดินทางการเกษตรเสียส่วนใหญ่ และเนื่องจากเป็นเส้นทางที่นำไปสู่มหาวิทยาลัยมหิดล จึงเป็นแหล่งรวมความเจริญขนาดย่อม ที่มีทั้งตลาดศาลายา, The Salaya mall, The Brio mall และ Foodland

รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีที่ใกล้ที่สุดอยู่บริเวณแยกบางใหญ่ ซึ่งก็คือสถานีตลาดบางใหญ่ มีระยะทางจากโครงการประมาณ 10.4 กม. ผ่านทางซอยกันตนา แม้ว่าการเดินทางในบริเวณนี้จะใช้รถยนต์เป็นหลัก แต่การมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ช่วยเสริมให้การเดินทางเข้าออกโครงการโดยเส้นทางสาธารณะมีความสะดวกสบายขึ้นมากทีเดียว

:::ความอุดมสมบูรณ์::: ขอแบ่งออกเป็น 4 ย่าน ดังนี้

• เส้นกาญจนาภิเษก ก็จะเห็นได้ว่าในบริเวณนี้มีทั้ง Plus mall ทางทิศใต้ หรือจะมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือก็สามารถไปยังแยกบางใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง, Central Westgate,Big C, HomePro, Index Living mall และโรงพยาบาลรัตนาธิเบศร์
  

  ---

• วงเวียนพระราม 5 หากวิ่งไปทางเส้นนครอินทร์เข้าสู่วงเวียนพระราม 5 ก็จะสามารถไปยัง The Walk ราชพฤกษ์, HomePro สาขา วงเวียนพระราม 5 และ The Crystal SB ราชพฤกษ์ได้
  

  ---

• ศาลายา บริเวณมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งหากวิ่งมาทางด้านหลังของโครงการ ผ่านเส้นพิชัยเขตก็จะมี The Salaya mall, ตลาดศาลายา และหากข้ามไปยังพุทธมณฑลสาย 4 ก็จะพบกับ The Brio mall และ Foodland ตรงแยกพุทธมณฑลสาย 4
  

  ---

• ในซอยพระเงิน และ ซอยกันตนา ความอุดมสมบูรณ์ชั้นในมีตลาดอยู่ทั้งสองฝั่งของโครงการ นั้นคือ ตลาดพระเงินในซอยวัดพระเงิน และตลาดบางคูลัดทางซอยกันตนา
  โดยทั้งสองตลาดล้วนมี 7ELEVEn ไว้บริการ 24 ชั่วโมง แต่การเดินทางมายังตลาดบางคูลัดจะมีระยะทางที่ใกล้กว่ามากพอสมควร และนอกจากนี้ในวันเสาร์-อาทิตย์ยังมีตลาดน้ำบางคูลัดที่นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชนอีกด้วย

:::การเดินทาง:::

การเดินทางในวันนี้ เป็นเส้นทางจากถนนราชพฤกษ์ โดยมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือจนถึงแยกวงเวียนพระราม 5 แล้วจึงเลี้ยวซ้าย เข้าถนนนครอินทร์ เพื่อตรงไปออกถนนกาญจนาภิเษก แล้วจึงเลี้ยวขวา วิ่งไปทางทิศเหนือ เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดพระเงิน ตัวโครงการอยู่ลึกเข้าไปจากถนนกาญจนาภิเษกประมาณ 6.8 กิโลเมตรผ่านทางซอยวัดพระเงิน

สรุปการเดินทาง : ถนนราชพฤกษ์ > วงเวียนพระราม 5 > ถนนนครอินทร์ > ถนนกาญจนาภิเษก > ซอยวัดพระเงิน > The Connect กาญจนาฯ-กันตนา

เรามาเริ่มต้นการเดินทางบนถนนราชพฤกษ์กันค่ะ โดยเริ่มจาก The circle ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าตรงไปยังวงเวียนพระราม 5

เราจะเจอสะพานข้ามคลองและแยกต่างๆ ให้ชิดขวาขับตรงไปยังวงเวียนพระราม 5 ทางถนนนครอินทร์

เมื่อขับตรงไปผ่าน HW (โฮมเวิร์ค ราชพฤกษ์) และ The Crystal ราชพฤกษ์ จะเห็น HomePro ราชพฤกษ์ อยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกัน คือ The Walk ราชพฤกษ์ ให้เบี่ยงซ้ายไปทางกาญจนาภิเษก เพื่อเตรียมเข้าสู่ถนนนครอินทร์ บริเวณวงเวียนพระราม 5

ตอนนี้เราวิ่งเข้าทางเบี่ยงด้านซ้าย เตรียมเข้าถนนนครอินทร์ เพื่อตรงไปยังถนนกาญจนาภิเษก

เมื่อเห็นวงเวียนพระรามห้าอยู่ทางขวามือทางด้านหน้าตามภาพถ่ายด้านบน แสดงว่าถึงจุดเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนครอินทร์แล้ว

เมื่อวิ่งมาตามถนนนครอินทร์จะพบป้ายบอกทางบริเวณใกล้แยกกาญจนาภิเษก ให้วิ่งไปทางบางบัวทองเพื่อใช้ทางลาดเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ

ตอนนี้เราออกจากทางลาดเข้าสู่เส้นกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าไปทางบางใหญ่กันแล้วค่ะ

เมื่อลอดใต้ทางต่างระดับบางคูเวียง (กาญจนาภิเษก-นครอินทร์) ก็จะเห็น Plus mall อยู่ทางซ้ายมือ เราจะขับตรงไป เมื่อผ่านศูนย์ Mitsubishi แสดงว่าเราใกล้ถึงซอยพระเงินกันแล้ว ให้ชิดซ้ายเตรียมตัวเลี้ยวเข้าซอยกัน

บริเวณหน้าปากซอยวัดพระเงินจะมีป้ายชื่อโครงการ สีขาวอยู่ด้านบนสุด สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

ทีนี้เราก็มาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดพระเงินกันเลย นอกจากจะมีป้ายชื่อโครงการแล้ว ตรงหัวมุมซอยยังมีตู้ไปรษณีย์สีแดง และ 7ELEVEn ให้เป็นจุดสังเกตเพิ่มอีกด้วย

ขับตรงเข้ามาในซอยวัดพระเงินประมาณ 3 นาทีจะเจอสามแยก มีตลาดพระเงิน และ 7ELEVEn อยู่ทางซ้ายมือ ลึกเข้ามาจากถนนกาญจนาภิเษกประมาณ 1.4 กม. ให้เลี้ยวขวา วิ่งไปตามเส้นบางม่วง-บางคูลัด

จากตลาดพระเงิน ขับไปตามเส้นบางม่วง-บางคูลัด ผ่านโรงเรียนวัดพระเงิน ระยะทางประมาณ 3 กม. ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จะเจอ 7ELEVEn อีกหนึ่งแห่ง ให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาไปยังเส้นบางคูลัด-วัดพระเงิน อีกประมาณ 600 ม.

จุดสังเกตของซอยบางคูลัด-วัดพระเงิน คือ จะมีป้ายบอกทางไปวัดบางม่วงก่อนถึงหน้าปากซอย และบริเวณหัวมุม จะมีโกดังขนาดเล็กตั้งอยู่

เมื่อตรงเข้าซอยบางคูลัดวัด-วัดพระเงิน ผ่านวัดบางม่วงมาประมาณ 2 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 นาที ก็เป็นอันว่าถึงโครงการ The Connect กาญจนา-กันตนา แล้วค่ะ

:::บริเวณโครงการ:::

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

• ตลาดบางใหญ่ : 9.2 กม.
• ตลาดบางคูลัด : 900 ม.
• ตลาดพระเงิน : 5.5 กม.
• ตลาดพระราม 5 : 11.4 กม.

• Central Westgate : 14.2 กม.
• Ikea บางใหญ่ : 14.2 กม.
• Big C รัตนาธิเบศร์ : 14 กม.
• Big C extra บางใหญ่ : 10 กม.
• Index Living Mall : 9.3 กม.
• Plus mall บางใหญ่ (Tesco Lotus) : 8.7 กม.
• The Walk ราชพฤกษ์ : 13.4 กม.
• The Crystal SB ราชพฤกษ์ : 16.1 กม.

• รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ : 13.3 กม.
• รพ.บางใหญ่ : 11 กม.

• รร.อนุบาลเด่นหล้า : 11 กม.
• ม.มหิดลศาลายา : 14 กม.
• รร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี : 10.3 กม.

แยกและถนนที่สำคัญ

• ปากซอยวัดพระเงิน (ถนนกาญจนาภิเษก) : 6.8 กม.
• ถนนนครอินทร์ : 9.2 กม.
• วงเวียนพระราม 5 (ถนนราชพฤกษ์) : 13 กม.
• แยกต่างระดับฉิมพลี (ถนนบรมราชชนนี) : 11 กม.
• แยกบางใหญ่ (ถนนรัตนาธิเบศร์) : 9.6 กม.
• ทางด่วนศรีรัช-วงแหวน : 10 กม.

ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ ทิศเหนือของโครงการติดกับโครงการบ้านพฤกษา กาญจนาฯ-กันตนา ซึ่งเป็นโครงการของพฤกษา เรียลเอสเตทเช่นกัน ทิศใต้ คือ โครงการคณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ ของแสนสิริ ทิศตะวันออกฝั่งตรงข้ามกับโครงการ คือ ศุภาลัย พาร์ค วิลล์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ ของศุภาลัย ส่วนที่ดินอื่นๆโดยรอบเป็นที่ดินเปล่า หรือที่ดินทางการเกษตร ด้านในโครงการ ถนนเส้นหลักมีความกว้าง 12 ม. และซอยย่อยกว้าง 8 ม. พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีเพียงสวนสาธารณะ ขนาดประมาณ 1 ไร่

ก่อนจะเข้าไปชมด้านในตัวโครงการ The Connect กาญจนาฯ-กันตนา ที่เป็นจุดมุมหมายของการเดินทางในวันนี้ เรามาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันก่อนค่ะ

เริ่มจากทางฝั่งขวามือของโครงการกันเลย เป็นถนนเส้นบางคูลัด-วัดพระเงิน ที่วิ่งมาจากถนนบางม่วง-บางคูลัด(ซอยวัดพระเงิน) จากภาพ ด้านซ้ายของเรา คือโครงการฝั่งตรงข้าม ศุภาลัย พาร์ค วิลล์ และด้านขวามือของเรานั้น คือโครงการ The Connect กาญจนาฯ-กันตนา นั่นเอง

ทางซ้ายมือในภาพที่ติดกันนั้น คือที่ดินว่างเปล่า ถัดไปเป็นที่ดินที่ของโครงการคณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ ที่อยู่ในระหว่างทำการก่อสร้าง

มาดูภาพที่ดินเปล่าด้านขวามือของโครงการกันอีกสักภาพ ด้านขวามือของเราในภาพ คือรั้วโครงการ ส่วนด้านหลัง คือบริเวณพื้นที่โครงการที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

ฝั่งซ้ายมือของโครงการ ยังคงเป็นถนนบางคูลัด-วัดพระเงิน โดยเส้นทางนี้วิ่งตรงไปอีกนิดก็จะไปเชื่อมกับซอยกันตนา ซึ่งเป็นทางออกสู่ถนนกาญจนาภิเษกอีกช่องทางหนึ่ง

โดยทางฝั่งซ้ายมือของโครงการ หรือขวามือของเราตามภาพ คือโครงการบ้านพฤกษา กาญจนาฯ-กันตนา โครงการของ พฤกษา เรียลเอสเตท เช่นเดียวกัน

มาดูภาพมุมตรงให้เห็นทั้ง 2 โครงการอย่างชัดๆ ทางด้านขวามือของคุณผู้อ่าน คือโครงการบ้านพฤกษา กาญจนาฯ-กันตนา ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเป็นโครงการ The Connect กาญจนา-กันตนา ที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้

ซุ้มประตูทางเข้าของบ้านพฤกษา โครงการพี่-น้องของเรา ถือว่าใหญ่โตไม่แพ้กันเลยทีเดียว

กลับมาที่ฝั่งตรงข้ามของโครงการ คือโครงการศุภาลัย พาร์ค วิลล์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ

แม้ว่าป้ายโครงการของ ศุภาลัย พาร์ค วิลล์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ จะอยู่หน้าโครงการของเรา แต่ทางเข้า-ออก ของโครงการนี้จะอยู่ตรงข้ามกับโครงการบ้านพฤกษา นับว่าเป็นโครงการที่ใหญ่โตเลยทีเดียว

หลังจากสำรวจบรรยากาศรอบรอบโครงการกันเสร็จแล้ว เราก็เข้าไปชมโครงการของเรากันเลยค่ะ ซุ้มประตูของโครงการมีการแบ่งช่องทางเข้าออกอย่างชัดเจน มีช่องการเดินรถกว้างประมาณ 6 ม. กว้างพอที่จะใช้ เข้า-ออก แบบช่องทางเดียวได้อย่างสบาย

ทางฝั่งขวามือของโครงการที่ติดกับที่ดินว่างเปล่ามีป้ายโครงการขนาดใหญ่มองเห็นได้อย่างชัดเจนหากเข้ามาทางซอยกันตนา

ฝั่งซ้ายมือของโครงการที่เป็นทางออกของโครงการ คือป้ายชื่อโครงการที่มีความสูงในระดับสายตา สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเข้ามาจากทางซอยวัดพระเงิน

:::ระบบรักษาความปลอดภัย:::

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการประกอบไปด้วย การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และ อุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้

ไม้กระดกที่ควบคุมด้วยระบบคีย์การ์ด หรือหากเป็นผู้มาติดต่อก็สามารถแลกบัตรประชาชน เข้าสู่โครงการได้

ตัวรับสัญญาณคีย์การ์ด ที่ใช้เข้าออกได้เฉพาะลูกบ้าน หรือผู้ถือคีย์การ์ดเท่านั้น

กล้องวงจรปิดบริเวณป้อมยามจำนวน 2 ตัว ติดตั้งในมุมต่ำ และมุมสูง เพื่อบันทึกภาพทะเบียนรถ และใบหน้าของผู้ขับขี่ที่เข้า-ออกโครงการ

เมื่อผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามายังด้านในแล้ว เราก็จะพบกับถนนภายในโครงการที่เป็นเส้นตรงลึกเข้าไปด้านใน มีความกว้าง 12 ม. และมีบ้านเรียงรายกันอยู่ทางฝั่งขวามือ

ลองมองมุมกลับจากด้านในโครงการออกไปยังด้านหน้าโครงการดูบ้าง สามารถมองเห็นถนนหน้าโครงการ และโครงการฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน

รั้วโครงการมีการออกแบบตกแต่งไปในทางเดียวกันกับตัวซุ้มทางเข้าของโครงการ คือเน้นเส้นตั้ง และเส้นกรอบ แสดงถึงการเชื่อมต่อตามแนวคิดของโครงการทั้ง 2 ฝั่ง

ทางด้านซ้ายมือมีการตกแต่งด้วยแท่นปูนสีสันสดใส นอกจากจะสวยงามแล้วยังสามารถใช้เป็นที่พักคอย หรือที่วิ่งเล่นของเด็กๆได้ แต่ถ้าใครกลัวแดดก็ลองมาใช้งานตอนช่วงเช้า หรือเย็นแทนนะคะ

ทางฝั่งขวามือมีการตกแต่งพื้นด้วยแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปให้เป็นลานขนาดเล็ก ด้านความสวยงาม นับว่าช่วยตัดความจำเจของสนามหญ้าเปล่าๆได้ดีทีเดียว

เมื่อเข้ามาในโครงการจะเห็น Sale Office อยู่ทางด้านขวามือของเรา มีป้ายขนาดใหญ่เห็นเด่นชัด พร้อมบอกเวลาทำการไว้อย่างชัดเจน

ตำแหน่งป้ายออฟฟิศสามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีการนำสายตามาจากทางเข้าด้วยการจัดสวนตามแนวกำแพงของโครงการ

ภาพมุมมองด้านหน้าของเซลล์ออฟฟิศ เซลล์ออฟฟิศต่อเติมจากบ้านแฝดหลังแรกของโครงการ มีการต่อเติมห้องกระจกทางด้านข้างยื่นเข้าไปในสวนเพื่อเป็นห้องรับรองลูกค้า สร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นสบายตา นอกจากป้าย และตำแหน่งที่ชัดสะดุดตาแล้ว ยังมีการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยป้ายชั่วครวที่มีสีสันสดใส เพิ่มความโดดเด่นมากขึ้นไปอีก รับรองว่าหาง่ายไม่หลงแน่นอน

บรรยากาศบริเวณทางเดินหน้าบ้านดูร่มรื่นด้วยการจัดภูมิทัศน์ด้วยไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ที่ออกแบบให้ใต้ต้นไม้เป็นที่นั่งเล่น สามารถเดินไปชมบ้านตัวอย่างแบบไม่ต้องกลัวแดด

ถัดไปจากบ้านตัวอย่าง และบ้านเปล่าที่ทางโครงการจัดไว้ให้เข้าชม ก็จะมีบ้านแฝดอีก 2 หลัง จำนวน 4 ยูนิต ที่สามารถเดินชมกันได้

ในส่วนของพื้นที่โครงการถัดไปทางด้านหลัง เป็นพื้นที่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ จากจุดนี้ทางโครงการไม่อนุญาตให้ทำการเข้าชม โดยมีการติดตั้งแผงกั้นแบบชั่วคราวเพื่อความเรียบร้อย สะดวกต่อการก่อสร้าง และเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าชมโครงการด้วย

:::แบบบ้าน:::

The Connect กาญจนาฯ-กันตนา มีแบบบ้านให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้

• บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 113.5 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry 2 ที่จอดรถ
• บ้านแฝด 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35.5 ตร.วา

บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 113.5 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านทาวน์โฮม

บ้านแฝด 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35.5 ตร.วา

แปลนบ้านแฝด

:::บ้านตัวอย่าง:::

มาเริ่มทัวร์บ้านตัวอย่างกันเลยค่ะ บ้านตัวอย่างเป็นบ้านแฝดที่มิลเลอร์กับตัวเซลล์ออฟฟิศ โดยออฟฟิศอยู่ทางด้านขวามือตามภาพ ส่วนบ้านตัวอย่าง คือยูนิตทางซ้ายมือ

ส่วนภาพนี้เป็นบ้านเปล่า ตั้งอยู่ถัดมาจากบ้านตัวอย่าง อยู่ติดกันขนาดนี้ ดูบ้านตัวอย่างเสร็จแล้วก็อย่าลืมเดินมาชมบ้านเปล่ากันนะคะ มาดูห้องโล่งๆ นอกจากจะเช็คให้แน่ใจว่าทางโครงการให้อะไรบ้างแล้ว ยังอาจจะได้ไอเดียการจัดห้องที่ต่างออกไปตามสไตล์การใช้งานของตัวเอง

แปลนบ้านแฝด

• ชั้น 1 : ลานจอดรถสำหรับ 2 คัน เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปถึงห้องรับประทานอาหาร ทางด้านขวามือ คือห้องน้ำ และห้องครัวตามลำดับ ด้านหลังสุดคือส่วนซักล้างที่เปิดออกได้จากห้องครัว
  

  ---

• ชั้น 2 : โถงบันไดแจกเข้าสู่ห้องนอนใหญ่ทางหน้าบ้าน ห้องน้ำ และห้องนอนรองอีก 2 ห้องทางด้านหลังของตัวบ้าน ตามลำดับ

ในส่วนของหน้าบ้านมีความกว้าง 7.8 ม. จากผนังด้านนอกถึงผนังด้านที่เชื่อมต่อกันระหว่างบ้านแฝด 2 ยูนิต ซึ่งเมื่อติดตั้งรั้วตามแบบที่ได้ในบ้านจริงแล้ว จะได้พื้นที่ด้านข้าง ระหว่าง 2 หลังที่ไม่เชื่อมต่อกัน เพิ่มอีก 2 ม. เพราะฉะนั้นเราจะได้ที่ดินที่มีหน้ากว้าง 9.8 ม.

ส่วนระยะจากหน้าบ้านถึงรั้วบ้านในตัวบ้านจริงจะได้ระยะที่ 5 ม. สรุปคือ บ้านที่ลูกบ้านได้จะสามารถจอดรถได้ถึง 2 คัน และมีระยะ ขึ้น-ลง ได้สะดวกสบาย ถือว่ามีหน้ากว้างทีเดียวสำหรับบ้านประเภทนี้

บริเวณด้านข้างระหว่างตัวบ้านแต่ละหลังที่ทางโครงการเปิดให้เข้าชม ถูกจัดเป็นบริเวณนั่งเล่นภายนอกอาคาร

แต่ในบ้านจริง สวนนี้จะถูกแบ่งครึ่งเพื่อทำการติดตั้งรั้วบ้าน โดยมีระยะห่างจากผนัง 2 ม. และทางโครงการจะให้เป็นพื้นดินเปล่า ไม่มีหญ้า, ต้นไม้ หรือพื้นคอนกรีตบล็อกให้อย่างในรูป

ด้านหลังของสวนเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร มีประตูบานเลื่อนกระจกแบบเลื่อนสลับทำให้สามารถ ชมบรรยากาศภายนอกบ้านไปพร้อมกับรับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งของตัวบ้าน เป็นส่วนเชื่อมต่อกันระหว่างบ้านแฝด 2 ยูนิต ผนังที่เห็นเมื่อมองตรงเข้าไปคือผนังของห้องน้ำ พื้นที่ในส่วนนี้ ทางโครงการตกแต่งให้เป็นสวนคอนกรีตบล็อก ประดับด้วยไม้พุ่ม เฉพาะบริเวณบ้านที่เปิดให้เข้าชมเท่านั้น บ้านจริงที่ลูกค้าได้จะถูกแบ่งครึ่งด้วยรั้วกั้นระหว่างยูนิต ห่างจากผนังบ้าน 2 ม. และให้เป็นพื้นดินเปล่าอีกเช่นกัน

บริเวณหน้าบ้านตัวอย่าง และบ้านมาตรฐานที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้เข้าชมนั้น จะมีป้ายแสดงภาพตัวอย่างการตกแต่งบ้าน และป้ายขอความร่วมมือในการเข้าชมตั้งอยู่

เริ่มกันจากทางเข้าบ้านเลยค่ะ บริเวณทางเข้าจะมี step ลึกประมาณ 60 ซม. เป็นชานก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน วัสดุที่ใช้เป็นพื้นคอนกรีตปูกระเบื้องเซรามิก ยกสูงจากพื้นที่จอดรถที่เป็นพื้นคอนกรีตบล็อกประมาณ 10 ซม.

ด้านบนของเฉลียงทางเข้ามีการติดตั้งฝ้า และโคมซาลาเปา สำหรับเป็นไฟส่องสว่างบริเวณทางเข้า

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนขนาดสามตอน แต่สามารถ เปิด-ปิด ได้เพียงสองบานเท่านั้น

และนี่คือภาพประตูทางเข้าจากบ้านมาตรฐาน ให้ได้ดูเปรียบเทียบกัน

มือจับประตูที่ทางโครงการให้มา เป็นแบบมือจับอะลูมิเนียมฝังในบานกรอบ ทำสีเดียวกับตัวบานกรอบ มีแม่กุญแจแบบฝังทางด้านนอก และมีตัวล็อกแบบคลิปเลื่อน ขึ้น-ลง จากทางด้านใน

เข้ามาก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกันกับห้องรับประทานอาหาร พื้นชั้นล่างทั้งชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 × 60 ซม. เพดานสูง 2.75 ม.

นี่เป็นภาพรวมของห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหาร เมื่อมองจากประตูทางเข้าไปยังด้านหลังของตัวบ้าน จากบ้านมาตรฐาน

พื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นถือว่ามีขนาดกว้างขวางพอสมควร จะเห็นได้จากขนาดพื้นที่ที่สามารถวางโซฟาทรง L-shape ได้แล้วยังมีที่ว่างเหลือพอให้วางอาร์มแชร์ชุดใหญ่อีก 1 ชุดโดยไม่ทำให้ห้องดูอึดอัดจนเกินไป

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นผนังทึบระหว่างทางเข้าห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้น 2 กว้างประมาณ 1.50 ม. สามารถวางชั้นวางทีวีได้อย่างพอดี

ในส่วนของบ้านมาตรฐานได้เป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือบิวท์อินใดๆให้ พอเป็นห้องโล่งๆแบบนี้ยิ่งเห็นชัดเลยว่าพื้นที่ในชั้น 1 นี้เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันทั้งชั้น และมีขนาดที่กว้างมาก

กลับมาดูชั้นวางทีวีที่ทางโครงการบิวท์อินไว้ให้ในบ้านตัวอย่าง เผื่อลูกบ้านท่านใดสนใจยืมไอเดียนี้ไปใช้ที่บ้าน ชั้นวางทีวีเป็นแบบบิวท์อินที่สูงเต็มผนัง ทำเป็นชั้นวางของทางด้านบน ทำให้ได้พื้นที่เก็บของมากขึ้น

เทียบมุมกับบ้านมาตรฐานให้เห็นกันไปเลยชัดๆแบบมุมต่อมุม

ลองมองมุมกลับจากด้านในตัวบ้านออกไปยังประตูทางเข้าบ้าง มุมนี้เป็นอีกมุมที่เห็นได้ชัดเลยว่า พื้นที่ในส่วนของห้องนั่งเล่นหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แบบ full-set แล้ว ก็ยังมีพื้นที่เหลือสำหรับทางเดินที่ค่อนข้างกว้าง

ต่อมาเป็นในส่วนของทางเข้าห้องน้ำ โดยในบ้านตัวอย่างทางโครงการได้ติดตั้งประตูบานเลื่อนเพิ่มเติม ทำให้ได้พื้นที่การใช้งานที่ดูเรียบร้อยเป็นสัดส่วนยิ่งขึ้น ในบ้านจริงนั้นจะไม่มีให้ แต่ตัวประตูห้องน้ำก็ไม่ได้โดดเด่นจนเป็นที่สังเกต เพราะมีระยะทางเข้าลึกเข้าไปก่อนถึงตัวประตูช่วยซ่อนสายตาอยู่แล้ว

พื้นที่ใต้บันไดบริเวณหน้าห้องน้ำชั้น 1 มีประตูบานเล็กๆที่ไว้สำหรับใช้เป็นห้องเก็บของ เป็นประตู UPVC พร้อมบานเกร็ดระบายอากาศ เช่นเดียวกับประตูห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้น 1 ปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 × 30 ซม. มีพื้นที่ประมาณ 1.8 × 2 ม. ลดระดับจากพื้นชั้น 1 ลงมาประมาณ 5 ซม.

ในส่วนของผนังปิดผิวด้วยกระเบื้องเซรามิกเต็มผนังจากพื้นจนถึงเพดาน กระเบื้องที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นแบบเดียวกับกระเบื้องพื้น มีผนังเพียงด้านเดียวที่เน้นให้เด่นขึ้นด้วยกระเบื้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีน้ำตาลอมเทา ขนาด 30 x 60 ซม. ทำให้ได้ Pattern การปูที่ต่างออกไป ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับห้องน้ำ

ภาพเปรียบเทียบจากบ้านมาตรฐาน บ้านจริงที่จะได้ ทางโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์ให้ครบ เหมือนที่เห็นในบ้านตัวอย่างทุกประการ

โถสุขภัณฑ์ที่ทางโครงการให้มาเป็นยี่ห้อ Kohler มีที่ใส่กระดาษทิชชู่และสายฉีดชำระติดตั้งให้พร้อม

อ่างล้างหน้าก็เป็นของ Kohler เช่นกัน

ก๊อกน้ำที่ให้มาเป็นของ Englefield แบบก้านโยกใช้งานได้สะดวก

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำมีการติดตั้งฉากกั้นสำเร็จรูปแบบเข้ามุมให้ วัสดุที่ใช้เป็นบานเลื่อนกระจก บานกรอบ UPVC โดยเป็นการติดตั้งบนพื้นห้องน้ำโดยตรง ระดับพื้นในส่วนอาบน้ำไม่มีการก่อเขิบหรือลดระดับ เป็นระดับเดียวกันทั้งห้อง

ชุดฝักบัวอาบน้ำ เป็นฝักบัวสายอ่อน ก๊อกยืนอาบฝังผนังชนิดก้านหมุน ยี่ห้อ Englefield เหมือนกันกับก๊อกอ่างล้างหน้า

หัวฝักบัวเป็น พลาสติกชุบโครเมี่ยม แบบธรรมดา ไม่มีฟังก์ชั่นปรับระดับน้ำ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 ซม.

เสร็จจากห้องน้ำเราก็ไปต่อกันที่ห้องรับประทานอาหารซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อในพื้นที่เดียวกันกับห้องนั่งเล่น

ผนังมีช่องเปิดทั้งสองด้านโดยด้านหนึ่งเป็นประตูบานเลื่อนเปิดสู่สวนด้านข้างฝั่งด้านนอกที่ไม่ติดกับผนังบ้านแฝด และอีกด้านหนึ่งเป็นหน้าต่างบานเลื่อนสูงจากพื้นประมาณ 60 ซม. ขนาด 4 บาน เปิดออกสู่ด้านหลังของตัวบ้าน

ภาพบรรยากาศของห้องรับประทานอาหารในมุมเดียวกันจากบ้านมาตรฐาน

พื้นที่ด้านหน้าประตูบานเลื่อนเมื่อวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ก็ยังมีพื้นที่เหลืออีกประมาณ 1.20 ม. สำหรับการ เข้า-ออก

ไฟที่ให้มานั้นเป็นโคม Downlight และในบ้านจริงจะไม่มีการดร็อปฝ้าให้อย่างในบ้านตัวอย่าง

สวิตช์ไฟ และเต้ารับทางโครงการให้เป็นของ Schneider ทั้งหมด

ถัดมาทางขวาของห้องรับประทานอาหาร คือเป็นห้องครัว

ตามบ้านมาตรฐานที่ทางโครงการจัดไว้ให้จะมีผนังกันแบ่งส่วนห้องครัวยื่นออกมาไม่เต็มผนัง แต่มีระยะประมาณ 80 ซม. ซึ่งเป็นระยะความลึกของเคาน์เตอร์ครัวโดยทั่วไป

ประตูบานเลื่อนบริเวณทางเข้าห้องครัวที่เห็นในบ้านตัวอย่างนี้ไม่มีให้ในบ้านจริง ต้องติดตั้งเพิ่มเองเช่นเดียวกับบริเวณทางเข้าห้องน้ำ

ภาพรวมของครัวที่ทางโครงการบิวท์อินชุดครัวมาให้ ทำให้ดูแล้วตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรจะต่อเติมครัวไทยเพิ่มหรือไม่ เพราะแม้ว่าขนาดของครัวจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ก็สามารถติดตั้งอุปกรณ์ครัวที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วนเพียงพอต่อการทำครัว ถ้าไม่ใช้คนทำครัวหนัก

ผนังห้องครัวที่ให้มากับบ้านมาตรฐานเป็นผนังเปล่าทาสีขาว และมีการเดินท่อน้ำดี และท่อน้ำทิ้งให้ 2 จุด จุดที่หนึ่งเป็นตำแหน่งที่ติดตั้งซิงค์ล้างจาน และจุดที่สองไว้สำหรับเครื่องซักผ้า

เคาน์เตอร์ครัวที่เห็นในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการติดตั้งไว้เพื่อเป็นแนวทางการตกแต่ง แม้ในบ้านจริงจะไม่มีให้ แต่ก็ช่วยให้เห็นภาพการใช้งานเพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการตกแต่งได้ดี

ขนาดของห้องครัวค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 × 60 ซม. เป็นพื้นชนิดเดียวกันกับห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหาร ต่อเนื่องในระดับความสูงเดียวกัน

จากห้องครัวจะมีประตูบานเปิดเดี่ยว เป็นทางออกสู่ลานซักล้างทางด้านหลัง

ลานซักล้างด้านหลังทางโครงการเทเป็นพื้นคอนกรีตขัดเรียบให้ มีความกว้าง 2 ม. เช่นเดียวกับพื้นที่ด้านข้างของตัวบ้าน

จากลานซักล้างสามารถเดินออกไปยังสวนด้านข้างฝั่งที่ไม่ติดกับบ้านแฝดผ่านทะลุไปถึงบริเวณที่จอดรถด้านหน้าของตัวบ้านได้

พื้นที่ในส่วนของลานซักล้างนี้เองที่มักมีการต่อเติมเป็นครัวไทยเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องมาจากห้องครัวภายในบ้าน สะดวกต่อการใช้งาน แต่ตามฟังก์ชั่นการใช้งานที่โครงการคิดมาให้เป็นลานซักล้างก็มีความเหมาะสม เพราะเป็นพื้นที่ส่วนที่ได้รับแสงแดดจัด เหมาะแก่การตากผ้า และยังเป็นส่วนที่อยู่ด้านหลังของตัวบ้าน ทำให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มที่โดยไม่รบกวนทัศนียภาพภายนอก

มองมุมกลับเข้าสู่ประตูที่เปิดออกจากห้องครัวดูบ้าง

ชมชั้นล่างกันครบทุกห้องแล้วเราก็ไปชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 2 อยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้าน ฝั่งเดียวกับห้องน้ำ วนไปทางด้านหลังผนังค่ะ

ที่ชานพักขั้นแรกมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานฟิค 1 บาน ติดตั้งที่ผนังด้านข้างฝั่งที่หันเข้าหากันของบ้านแฝด มองออกไปจะเห็นสวนที่ขั้นกลางระหว่างบ้านแฝด 2 ยูนิต

ช่องบันไดด้านหลังผนังเปิดโล่งไปถึงเพดานชั้น 2

พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เพดานสูง 2.65 ม. ตลอดทั้งชั้น

ขึ้นบันไดมา ทางขวามือในรูปคือฝั่งหน้าบ้าน เป็นตำแหน่งของห้องนอนใหญ่ และด้านหลังบ้าน หรือทางซ้ายมือในภาพ คือห้องนอนรองอีก 2 ห้อง ส่วนตรงกลางคือห้องน้ำ มีเมนสวิตช์บอร์ดติดตั้งอยู่ที่ผนังหน้าห้องน้ำด้วย

เมื่อมองจากโถงบันไดที่ชั้น 2 กลับไปยังช่องบันไดจะเจอกับราวกันตกเหล็กมือจับไม้เป็นสิ่งแรก ไกลสุดคือช่องแสงอีก 1 บาน และไฟกิ่งทางด้านซ้ายติดตั้งให้ทั้งในบ้านตัวอย่าง และบ้านจริงอีกหนึ่งดวง ส่วนโคมแขวนเพดานตรงช่องบันได้นั้นเป็นเพียงส่วนตกแต่งในบ้านตัวอย่าง

ช่องแสงนั้นเป็นหน้าต่างบานฟิค ติดตั้งที่ผนังฝั่งเดียวกันกับหน้าต่างบ้านแรกที่บริเวณชานพัก มองออกไปเห็นบ้านแฝดยูนิตที่ติดกัน

เรามาชมส่วนต่างๆบนชั้น 2 กันเลยค่ะ เริ่มที่ห้องนอนรองฝั่งซ้ายมือของบันได ซึ่งก็คือห้องตรงหน้านี้เอง

ในห้องแรกนี้จะเป็นห้องที่ติดกับบันได และหันเข้าหาบ้านแฝดที่มิลเลอร์กันอีก 1 ยูนิต

ภาพรวมของห้องเป็นห้องสี่เหลี่ยมค่อนข้างจัตุรัส มีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งผนัง คือผนังฝั่งด้านหลังบ้าน และด้านข้างที่เปิดสู่บ้านแฝดที่มิลเลอร์กัน ทั้ง 2 บานเป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเดียวกัน

หน้าต่างที่ผนังด้านที่มิลเลอร์เข้าหากันของบ้านแฝด ทางโครงการได้จัดให้เป็นส่วนของหัวเตียง โดยมีตู้เสื้อผ้าอยู่ทางด้านขวามมือ

ส่วนอีก 1 บานจะอยู่ด้านข้างของเตียง เปิดออกสู่ด้านหลังของตัวบ้าน และในบ้านตัวอย่างได้จัดพื้นที่บริเวณปลายเตียงให้เป็นส่วนของโต๊ะทำงานขนาดหนึ่งที่นั่ง กว้างประมาณ 0.8 – 1 ม.

พื้นที่บริเวณข้างประตู ทางโครงการทำเป็นตู้เสื้อผ้าบิวท์อินให้ดูเป็นตัวอย่าง ใช้ประตูตู้แบบบานเลื่อน ทำให้มีพื้นที่การใช้งานที่คล่องตัว

ในส่วนของไฟฟ้าแสงสว่างที่ชั้น 2 ก็เป็นโคม Downlight อีกเช่นกัน

เมื่อมองมุมกลับจากด้านในของห้องนอนรองห้องที่ 1 ไปยังประตูก็จะเห็นว่าผนังด้านข้างประตูในบ้านจริงมีพื้นที่ลึกเข้าไปสำหรับติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้เหมือนในบ้านตัวอย่าง

ไปต่อกันที่ห้องนอนรองห้องที่ 2 ประตูทางเข้าของห้องนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบันได ถัดมาจากห้องแรก

ในห้องนี้ก็มีหน้าต่างทั้งสองฝั่งผนังเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเช่นเดียวกับในห้องแรก ขนาดห้องก็ใกล้เคียงกัน ใหญ่กว่านิดหน่อย แต่ผนังของห้องนี้เป็นผนังเรียบๆตรงๆทั้งหมด ไม่มีส่วนที่ลึกเข้าไปสำหรับวางตู้เสื้อผ้าเหมือนห้องแรก

ภาพถ่ายในมุมเดียวกันจากบ้านมาตรฐานเพื่อเปรียบเทียบขนาดห้องที่ได้

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านตัวอย่างก็เรียงลำดับกันไปตามความยาวของห้อง โดยวางเตียงนอนไว้ที่ด้านในสุดของห้อง ตามแนวขวาง

พื้นที่ใต้เตียงในห้องนี้ เหลือไม่เพียงพอที่จะวางโต๊ะทำงานอย่างในห้องแรก แต่ก็ไม่ได้แคบจนน่าเกลียด ถ้าหากต้องการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าจริงๆก็สามารถวางชั้นหนังสือ, ชั้นวางของ หรือจะทำเป็นตู้บิวท์อิน ความลึกประมาณ 30-40 ซม. ก็ได้

การวางเฟอร์นิเจอร์ตามแนวกรอบของห้อง ทำให้ห้องดูมีพื้นที่การใช้งานที่สะดวกสบาย ได้เป็นพื้นที่ต่อเนื่องเต็มๆ

ตำแหน่งที่จัดวางโต๊ะทำงานติดกับหน้าต่าง ทำให้บริเวณนี้ได้รับแสงธรรมชาติ เหมาะสมกับการใช้งาน

ชมห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาของห้องนอนหลัก

ห้องนอนหลักจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน ติดกับราวกันตกของโถงบันได

เมื่อมองผ่านประตูเข้าไปโดยตรงสิ่งแรกที่เห็นก็คือส่วนของห้องแต่งตัว

ทางโครงการได้ตกแต่งห้องนอนหลักโดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนนอน และส่วนแต่งตัว หรือ Walk-in closet

เรามาเริ่มดูจากฝั่งของส่วนที่เป็นส่วนนอนกันก่อน ในฝั่งนี้ทางโครงการได้จัดวางเตียงนอนตามแนวยาวของห้อง โดยทางด้านข้างของเตียงจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นเพียง 20 ซม. เป็นหน้าต่างบานเลื่อนสลับที่มีการใช้งานเหมือนประตู สามารถเปิดออกไปยังระเบียงหน้าบ้านได้

มองไปทางด้านหัวเตียงในบ้านมาตรฐานจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระจกติดตายขนาบอยู่สองข้างเตียง ต่างจากในบ้านตัวอย่างที่มีการตกแต่งให้เป็นผนังทึบทั้งผืน

หน้าต่างกระจกติดตายบริเวณหัวเตียงจากบ้านมาตรฐาน

ภาพถ่ายมองไปทางหัวเตียงในบ้านตัวอย่าง เห็นชัดเจนเลยว่าผนังด้านหัวเตียงเป็นผนังทึบทั้งผืน ไม่มีช่องแสงแบบในจริง แต่หน้าต่างบานใหญ่ทางซ้ายมือของภาพก็ให้ความสว่างแก่ห้องได้อย่างเพียงพอ

พื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งด้านในที่ติดกับห้องน้ำกว้างประมาณ 50 ซม. สามารถใช้เป็นช่องทางเดิน และวางโต๊ะข้างเตียงได้ 1 ตัว

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งหน้าต่างที่เปิดออกสู่ระเบียงมีความกว้างประมาณ 50 ซม. เช่นเดียวกับอีกฝั่ง

หน้าต่างที่เปิดออกสู่ระเบียงหน้าบ้านสูงจากพื้นห้องนอนประมาณ 20 ซม. ตามที่ได้บอกไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่ความสูงของธรณีประตูโดยปกติแต่ก็ไม่สูงจนทำให้ เข้า-ออก ได้ลำบาก

ตัวระเบียงเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกสีดำ ขนาด 30 x 30 ซม. ความกว้างระเบียง 50 ซม. มีราวกันตกเหล็กสีดำติดตั้งโดยรอบ

ความยาวของระเบียงเป็นครึ่งหนึ่งของห้องนอนใหญ่ หรือเท่ากับความยาวของส่วนนอน

อีกฝั่งของระเบียงบริเวณของส่วนแต่งตัว เป็นพื้นที่สำหรับวางคอยล์ร้อน หรือคอมแอร์ (Compressor Air) มีการติดตั้งแสดงบังสายตาไว้ให้ทั้งในบ้านตัวอย่าง และบ้านจริง

มองกลับไปทางปลายเตียงในบ้านตัวอย่าง จะเจอกับผนังซึ่งเป็นด้านหลังของตู้เสื้อผ้า สามารถใช้เป็นผนังสำหรับติดตั้ง TV ได้

พื้นที่ปลายเตียงเมื่อกั้นเป็น Walk-in closet แล้ว จะเหลือช่องทางเดินประมาณ 1 เมตร

ภาพถ่ายจากบ้านมาตรฐานเมืองมองจากหัวเตียงไปยังด้านที่เป็น Walk-in closet จะเห็นว่าเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกันทั้งห้อง

มาดูกันต่อที่ส่วนแต่งตัว

โครงการได้ทำการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ 2 ตู้หันเข้าหากัน โดยให้ที่ปลายสุดของทางเดินเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง และเหนือโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นไปคือหน้าต่างอีก 1 บาน

หน้าต่างตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เป็นหน้าต่างบานเปิดเดี่ยว เปิดออกสู่ด้านหน้าของตัวบ้าน

ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการบิวท์อินมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน เหมาะกับช่องทางเดินที่ไม่กว้าง หรือพื้นที่จำกัด

มาถึงห้องสุดท้ายในบ้านกันแล้ว คือห้องน้ำที่ชั้น 2 โดยตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนหลักด้านหน้า และห้องนอนรองที่ด้านหลัง

พื้นที่ในห้องน้ำเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวลึกเข้าไปด้านใน วัสดุผิวพื้น และผนังเป็นกระเบื้องเซรามิก การเลือกใช้วัสดุ และการตกแต่งเหมือนกันกับห้องน้ำที่ชั้น 1 สุขภัณฑ์ และก๊อกน้ำที่ห้องน้ำชั้น 2 ใช้ก็เป็นยี่ห้อเดียวกับที่ชั้น 1

ในบ้านมาตรฐานก็มีการติดตั้งให้ครบทั้งสุขภัณฑ์และ Built-in

ตัวอ่างล้างหน้าที่ชั้น 2 มีการติดตั้งตู้ใต้อ่างล้างหน้า เป็นตู้ไม้ Built-in ให้ด้วย

บานปิดตู้ใต้อ่างล้างมือเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว ติดตั้งมือจับบานแบบแถบไว้ที่ด้านบน ซ่อนจากสายตาทำให้เคาน์เตอร์อ่างดูมีความเรียบ และทันสมัย

โถสุขภัณฑ์ที่ห้องน้ำชั้น 2 เป็นของ Kohler เช่นเดียวกับที่ชั้น 1 และะยังใช้เป็นรุ่นเดียวกัน ตำแหน่งการติดตั้งสุขภัณฑ์เป็นไปตามลำดับ มีโถสุขภัณฑ์อยู่ตรงกลางระหว่างอ่างล้างหน้า และส่วนอาบน้ำ

ในส่วนของห้องอาบน้ำ ทางโครงการติดตั้งฉากกั้นสำเร็จรูปแบบประตูบานเลื่อนกระจกให้ โดยเป็นการติดตั้งโดยตรงบนพื้นห้องน้ำที่เป็นระดับเดียวกันทั้งห้อง เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง

ที่ผนังด้านในสุดของห้องน้ำ ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ มีหน้าต่างบานเลื่อนติดตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าระดับสายตาจำนวน 1 บาน ช่วยให้ห้องน้ำได้รับแสงธรรมชาติ สามารถเปิดระบายอากาศได้ ทางโครงการจึงไม่มีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศให้

พื้นที่ของส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.5 ม. เป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้งานได้สะดวก

ฝักบัวที่ใช้ในห้องน้ำชั้น 2 ก็เป็นยี่ห้อ Englefield และเป็นฝักบัวสายอ่อนเช่นเดียวกันกับที่ชั้น 1

ขนาดของหัวฝักบัวก็เท่ากัน แต่ในห้องนี้จะพิเศษกว่า เพราะเป็นแบบปรับระดับได้ค่ะ

::: สรุปรายการวัสดุมาตรฐาน (พ.ค. 60) :::

วัสดุโดยรวม

• พื้นภายใน ชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 × 60 ซม.
• พื้นภายใน ชั้น 2 : พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 × 30 ซม.
• พื้นลานซักล้าง และบริเวณที่จอดรถ : พื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ
• พื้นเฉลียงหน้าบ้าน และระเบียงภายนอก : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 × 30 ซม.
• บันได : ลูกนอนไม้ลามิเนต, ลูกตั้งไม้ลามิเนต

• ผนังภายใน ชั้น 1 และชั้น 2 : ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 × 30 ซม. และ 30 × 60 ซม.

• ประตู และวงกบภายในทั่วไป : ไม้ HDF
• ประตู และวงกบห้องน้ำ : uPVC
• ประตู และวงกบห้องเก็บของภายใน : uPVC
• ประตู-หน้าต่าง ภายนอก : กระจกอบานเลื่อน กรอบลูมิเนียม
• ประตู และวงกบลานซักล้าง : ไม้ HDF

ห้องน้ำ

• สุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือ : Kohler
• ก๊อกน้ำ และชุดฝักบัว : Englefield

งานไฟฟ้า

• อุปกรณ์ปลั๊กและสวิตช์ : Schneider
• ตู้ Load Center : Schneider
• ดวงโคมภายนอกทั่วไป : ดวงโคมซาลาเปา
• ดวงโคมห้องน้ำ และภายในทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า***

:::ราคา::: (พฤษภาคม 2560)

บ้านแฝด 2 ชั้น : ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35.5 ตร.วา

ทาวน์โฮม 2 ชั้น : ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
พื้นที่ใช้สอย 113.5 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18.2 ตร.วา

• เงินจอง และทำสัญญา : 25,000 บาท
• ราคาที่ดิน เพิ่ม-ลด : 62,000/ตร.วา
• ค่าส่วนกลาง : 35 บาท/ตร.วา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี)

***ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น สอบถามข้อมูลโดยตรงกับทางโครงการ

:::บทสรุปโครงการ:::

ทำเลที่ตั้งโครงการ : THE CONNECT กาญจนาฯ – กันตนา ตั้งอยู่ในซอยวัดพระเงินบนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปยังบางบัวทอง เป็นทำเลที่อยู่ในเขตนนทบุรี ย่านบางกรวย-บางใหญ่ ทางเข้าออกหลักคือจากถนนกาจนาภิเษกใกล้จุดตัดเข้าสู่ถนนนครอินท์ที่ใช้เดินทางไปวงเวียนพระราม 5 แต่ที่ตั้งโครงการสามารถ เข้า-ออก ทางด้านหลังเพื่อทะลุไปโซนนครปฐม-ศาลายาได้ บริเวณสวนพุทธมณฑล ติดกับมหาวิทยาลัยมหิดล

ทำเลนี้แม้ว่าจะเป็นย่านที่อยู่อาศัย ไม่ค่อยมีขนส่งสาธารณะผ่าน แต่ก็มีสถานณีรถไฟฟ้าสายสีม่วง, ห้างสรรพสินค้า, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสถานศึกษาในรัศมี 7 กม. บรรยากาศในละแวกโครงการมีรถสัญจรผ่านไม่มาก ความคึกคักอยู่บริเวณตลาดพระเงินในซอยวัดพระเงิน โดยรวมแล้วมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ

ความอุดมสมบูรณ์ : ในระยะที่สามารถเดินถึงได้แต่ก็ยังไม่ค่อยสะดวกนัก คือตลาดบางคูลัดที่ห่างออกไป 900 ม. จากโครงการ มี 7-11 ที่ใกล้ที่สุด และตลาดน้ำในวันเสาร์-อาทิตย์ ทางฝั่งซอยวัดพระเงิน 7-11 ที่ใกล้ที่สุดห่างออกไป 2.5 กม. และที่ตลาดพระเงินห่างออกไป 5.5 กม. ในรัศมีรอบนอก 6- 10 กม.

ทางเส้นกาญจนาภิเษกไล่จากด้านล่างขึ้นไป มี Plus mall (Tesco Lotus บางใหญ่), ตลาดพระราม 5, Big C บางใหญ่ และ Central Westgate ที่น่าจะเป็นแหล่งความเจริญที่สุดในย่านนี้ ส่วนทางฝั่งนครปฐม-ศาลายาทางด้านหลังของโครงการ บริเวณมหาวิทยาลัยมหิดล-สวนพุทธมณฑล ก็จะมี The Salaya mall, ตลาดศาลายา, The Brio mall และ Foodland

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าค่อนข้างสะดวก จากที่ตั้งโครงการ ลูกบ้านสามารถเดินทางไปยังถนนกาญจนาภิเษกเพื่อเข้าสู่เส้นทางอื่นๆได้ถึง 2 ทาง คือทางซอยวัดพระเงินทางทิศใต้ และซอยกันตนาทางทิศเหนือ แต่แนะนำว่าในช่วงเปิดเทอมให้เลือกใช้ซอยกันตนา เพื่อเลี่ยงปัญหารถติดจากการ รับ-ส่ง นักเรียน จากเส้นกาญจนาภิเษกก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนรัตนาธิเบศทางทิศเหนือ, ถนนนครอินทร์เข้าสู่วงเวียนพระราม 5, ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และถนนบรมราชชนนีทางทิศใต้ตามลำดับ และยังสามารถไปทางฝั่งนครปฐม-ศาลายาได้ทางทิศตะวันตกโดยตรงจากโครงการผ่านทางถนนพิชัยเขต

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : อาจจะไม่ค่อยสะดวกนักสำหรับการเดินทางออกจากโครงการ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าโครงการจะอยู่ในซอยลึก แต่ก็มีรถสองแถวผ่านทุกๆ 30 นาที วิ่งตามเส้นทางกันตนา-วัดพระเงิน การใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ Taxi แนะนำให้โทรเรียก หรือใช้แอพพลิเคชั่นเรียกเอา เพราะไม่ค่อยมีรถผ่านไปมาหน้าโครงการ

การใช้บริการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ก็ยังไม่สะดวกนัก เนื่องจากต้องเดินทางออกจากโครงการไปยังถนนเส้นหลักเสียก่อน สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีตลาดบางใหญ่ อยู่ห่างออกไป 10.4 กม. ด้านหลังฝั่งศาลายามีสถานีรถไฟศาลายา ห่างออกไป 8.6 กม.

การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการ THE CONNECT กาญจนาฯ – กันตนา มีพื้นที่โครงการประมาณ 34 ไร่ จำนวน 294 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 Type คือ

• บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 113.5 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry 2 ที่จอดรถ
• บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ

การออกแบบเป็นสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบง่ายแต่ลงตัว เน้นความสะดวกในการใช้งาน พื้นที่ภายในปรับแต่งได้ตามการใช้งาน ด้านตัวอาคารก็มีการออกแบบแผงกันแดดที่มีทั้งฟังก์ชั่นการกกรองแดด และบังสายตา ระเบียงที่ยื่นออกมาเหนือบริเวณทางเข้าก็ช่วยให้ทางเข้ามีความโดดเด่น และกันแดดกันฝนให้ผู้ใช้งานในระหว่างเข้าออกบ้าน

วัสดุที่ทางโครงการให้มาเป็นวัสดุที่เป็นมาตรฐานทั่วไป ชั้น 1 ปูพื้นแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังภายในทาสีภายในสีขาวทั้งหลัง ห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. ทั้งพื้น และผนัง โดยผนังปูยาวเต็มความสูงของผนัง และมีการแซมด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 60 ซม. ตัดเลี่ยน 1 ด้าน มีสุขภัณฑ์ติดตั้งให้ครบทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า ของ Kohler และส่วนอาบน้ำที่ติดตั้งผนังกระจกสำเร็จรูปแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ก๊อกน้ำและฝักบัวให้เป็นของ Englefeild

ในส่วนของห้องอื่นๆจะให้เป็นห้องเปล่า ประตูภายในทั่วไปใช้เป็นประตูและวงกบไม้ HDF ทำสีขาว ประตูห้องน้ำเป็นบาน UPVC พร้อมวงกบ หน้าต่างและประตูภายนอกทั้งหมดเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมทำสีดำ ยกเว้นประตูหลังบ้านที่เปิดไปยังลานซักล้างเป็นประตูและวงกบไม้ HDF ทำสีขาว ส่วนซักล้างที่ทางโครงการเตีนมไว้ให้เป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก : โครงการนี้ไม่ค่อยมีพื้นที่ส่วนกลาง เนื่องจากเป็นโครงการบ้านสไตล์ทาวน์โฮมที่มีลักษณะการใช้ชีวิตแบบคนเมือง ไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน ส่วนกลางที่ทางโครงการจัดไว้ให้จึงมีเพียงสวน ขนาด 1-0-75.4 ไร่ ด้านหลังของโครงการ 1 สวน

ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นการรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ประกอบด้วย 4 ระบบ ได้แก่ กล้องวงจรปิด CCTV, คีร์ย์การ์ด, ไม้กระดก และพนักงานรักษาความปลอดภัยค่ะ

:::คะแนน:::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-101-4689

Website : http://theconnect.pruksa.com/13195/เดอะ-คอนเนค-กาญจนาฯ-กันตนา-ทาวน์โฮมและบ้านแฝด-ใกล้รถไฟฟ้าทางด่วนศรีรัช

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

พฤกษา เรียลเอสเตท โชว์ยอดขาย 13,303 ลบ. เติบโต 35.6% ลุยตลาดพรีเมียมผ่านฉลุย มั่นใจได้ตามเป้า

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2560 ว่า “บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 13,303 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 35.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีรายได้ 9,809 ล้านบาท จากยอดขายที่เติบโตเพิ่มสูงขึ้นมาจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า คือ เดอะทรี สุขุมวิท 71 มียอดขายแล้ว 61.5% และ       เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันได้ปิดการขายแล้วทั้งโครงการ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังสามารถทำรายได้ 8,072 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 681 ล้านบาท”

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท  จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แผนการรุกตลาดพรีเมียมในปีนี้ บริษัทฯ ใช้ Business Model ใหม่มาพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเน้นรูปแบบความแปลกใหม่ เพื่อสร้างสีสันและความแตกต่างให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์

เห็นได้ชัดเจนจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียม “เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ” ซึ่งเป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีชโครงการแรกของ พฤกษา เรียลเอสเตท เพียงสองอาทิตย์สามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการ มูลค่า 1,830 ล้านบาท

ล่าสุดเตรียมเปิดโครงการ “แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ” คอนโดมิเนียมบนวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุด ที่เปิดขายอย่างไม่เป็นทางการเพียง 1 สัปดาห์ กวาดยอดขายไปแล้วกว่า 60% คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท

พร้อมสร้างกระแสในโลกออนไลน์ ด้วยยอดวิวของไวรัลคลิป (Viral clip) “MV หนุ่มบางโพ 2017” ด้วยยอดเข้าชมใน Facebook และ YouTube กว่า 1.5 ล้านวิว ภายใน 1 สัปดาห์  ก่อนการเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27-28 พ.ค.นี้

และด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า จึงคาดว่าจะสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 1 กลุ่มธุรกิจแวลู เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 11 โครงการ และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 55 โครงการ

ตามแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ รวม 66 โครงการคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 59,300 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Projects) ทั้งหมดอยู่อีก 168 โครงการ มูลค่า 83,736 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของกลุ่มธุรกิจแวลูอยู่ที่ 23,611 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 12.8% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง

โดยใช้ “กลยุทธ์ Pruksa 4.0” มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ใน 4 ด้าน มาใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย คือ

1) Smart – Product พัฒนาสินค้าแบบ HVA (High Value Added)

2) Smart – Marketing เน้นการใช้  Digital Marketing

3) Smart – Service พัฒนา Home Service Application

4) Smart – Construction ด้วยการใช้   E-Construction

ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับมอบบ้านที่ดีที่สุดจากพฤกษา เรียลเอสเตท นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบการทำงานภายในองค์กร เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด”

ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 Pruksa Ville 99 Petchkasem 91-93

Pruksa Ville เพชรเกษม 91-93 ทาวน์โฮมสไตล์สไตล์ยุโรป จาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 93 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ใกล้ถนนเพชรเกษม, ศึกษาภัณฑ์, บิ๊กซี อ้อมใหญ่, รพ.มหาชัย 2 และ รร.ยอแซฟอุปถัมภ์

พฤกษาวิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 18.00 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 86.31-98.04 ตร.ม. ฟังก์ชั่นบ้าน 2-4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท*

สิ่งอำนวยความสะดกวภายในโครงการ อาทิ สวนสาธารณะ, กล้องวงจรปิด, เข้า-ออกโครงการระบบ Auto Access Card และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่บางส่วนปี 2560

ที่ตั้งโครงการ

ซอยเพชรเกษม 93 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

:: HOUSE TYPE ::

• แบบบ้าน Neo Classic I
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 86.31 ตร.ม.
• ขนาด : 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Neo Classic II
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 98.04 ตร.ม.
• ขนาด : 4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Website : http://pruksaville.pruksa.com

EP.810 รีวิว ทาวน์โฮม บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 Baan Pruksa 119 Rangsit-Klong 2

สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพามาโครงการ บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 ทาวน์โฮมโครงการใหม่ จาก พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานรอยยิ้มให้ครอบครัว บนพื้นที่กว้างขวาง ภายใน ถนนเลียบคลอง 2 หรือ ซอยรังสิตนครนายก 31 อยู่ใกล้ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต, Central M, Mega รังสิต และ รพ.เปาโล เดินทางสะดวกทั้ง ถนนรังสิต-นครนายก และ ถนนคลองหลวง รวมถึงอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และวงแหวนกาญจนาภิเษก

บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 มีเนื้อที่โครงการ 40 ไร่ จำนวน 470 ยูนิต เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น กับฟังก์ชั่นขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ และที่จอดรถ 1 คัน พิเศษด้วย Spacious Living Room ห้องพักผ่อนกว้างขวาง, Cozy Bedroom และ Pantry and Dinning Room ขนาดเริ่มต้นที่ 17 ตร.วา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2562

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน และ สนามเด็กเล่น มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยราคาที่หยิบจับง่ายเริ่มต้นที่ 1.51 ล้านบาท

โดยรายละเอียดที่เราจะพาท่านไปชมจะมีทำเลที่ตั้งโครงการ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูลโครงการ และบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึก เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนเลียบคลองสอง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พิกัด Google Map : 14.034867, 100.641798

ทำเลที่ตั้ง โครงการ บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง2 ตั้งอยู่บน ถนนเลียบคลองสองฝั่งตะวันตก (ถ.บงกช) ตรงข้ามวัดกล้าชอุ่ม โดยทางเข้าจะอยู่ที่ ซ.รังสิตนครนายก 31 หรือ ซ.ตลาดพระรูปรังสิต นั่นเองค่ะ ซึ่งการจะวิ่งเข้าสู่ ถ.บงกชนั้น จาก ถ.รังสิต-นครนายกสามารถเข้าได้หลายทาง ทั้ง ซ.29, 31, 33 และ จาก ถ.บางขันธ์คลองหลวง ก็สามารถเลี้ยวซ้ายเข้ามาได้เลยเช่นกัน หรือ จาก ถ.เอราวัณ ข้างวัดพระธรรมกาย ก็สามารถวิ่งตรงมาสู่โครงการได้ค่ะ

โครงการอยู่บน ถ.คลองสอง ที่ค่อนไปทาง ถ.คลองหลวง (3.3 กม.) มากกว่าฝั่งรังสิต-นครนายก (5 กม.) นะคะ ซึ่งสาธารณูปโภคทั้งสองฝั่งนั้นมีเยอะพอๆกันเลย ฝั่งรังสิต ก็ติดตลาดนัดขนาดใหญ่ที่ปากซอย มี 7-Eleven และ โลตัสเอ็กซ์เพรส ส่วนฝั่งคลองหลวงก็อยู่ในโซนตรงข้ามและเชื่อมต่อกับวัดพระธรรมกาย เป็นแนวร้านค้าอาคารพาณิชย์ตลอดทาง และสามารถวิ่งสู่ตลาดไท, ม.ธรรมศาสตร์รังสิต ได้ภายใน 5 นาทีเท่านั้น

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางในละแวกโครงการปัจจุบันจะเน้นรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ถนนเส้นหลักก็คือถ.รังสิตและถ.คลองหลวงอย่างที่บอก นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษก ส่วนถนนเส้นหลักๆอื่นๆ ดังนี้ค่ะ

• ถนนพหลโยธิน : ถนนเส้นหลักที่เชื่อมกับถนนวิภาวดี-รังสิต และวิ่งยาวไปถึงลาดพร้าว เข้าเมืองได้ค่ะ และสามารถวิ่งไปขึ้นไปทางเหนือของไทยได้
• ถนนรังสิต-ปทุมธานี : สามารถใช้เส้นทางนี้วิ่งยาวไปถึงจังหวัดปทุมธานี ระหว่างทางจะวิ่งไปตัดกับ ถนนติวานนท์ ที่แยกบ้านกลาง สามารถใช้วิ่งลงไปแยกปากเกร็ด, พระราม 5 ได้
• ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ : สำหรับเดินทางเข้าตัวเมือง กทม. ค่ะ โดยเส้นทางนี้จะสิ้นสุดที่ ถ.พหลโยธิน บริเวณโรงกษาปณ์
• ถนนกาญจนาภิเษก : สำหรับเดินทางขึ้นไปวังน้อย, ลงบางกะปิ หรือต่อทางด่วนจตุโชติ
• ถนนลำลูกกา : มีทางลัดหลายเส้นทาง เชื่อมต่อกับถ.รังสิต-นครนายกค่ะ คือ ถ.ชลมารคพิจารณ์ และ ซ.ลำลูกกา 11 วิ่งไปได้ไม่ไกล
• ถนนบางบัวทอง-บางพูน : เนื่องจากถนนเส้นนี้ตัดกับถ.ติวานนท์ที่แยกปู่โพธิ์ และ ถ.รังสิต-ปทุมธานีที่แยกบางพูน และยังผ่านแหล่งสถานศึกษาย่านเมืองเอก นั่นก็คือ ม.รังสิต และ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี
• ถนนบางบัวทอง-บางคูวัด : เป็นถนนเส้นหลัก ที่ใช้เดินทางสู่บางบัวทอง โดยข้าม สะพานปทุมธานี 2 ค่ะ

สำหรับทำเลคลองสองนี้ มีทางลัดไปยังสถานที่สำคัญหลายทางอยู่นะ จากโครงการก็สามารถวิ่งจาก ซ.บงกช 10 ผ่าน ซ.คลองหลวง 60 หรือ รพ.ภัทรธนบุรี, สวนธนารักษ์ และกลับรถ ไปยัง ม.กรุงเทพรังสิตได้ ในระยะทาง 6.8 กม. หรือ 11 นาที เท่านั้นค่ะ

ส่วนภาพนี้ คือจุดกลับรถบริเวณ ถ.รังสิต-นครนายกค่ะ หากวิ่งออกมาจากซอยสามารถกลับรถได้บริเวณก่อนถึง Pure Place และกลับรถอีกที บริเวณก่อนถึงตลาดน้ำนครรังสิต

ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณหน้าโครงการจะไม่มีร้านค้าเลยค่ะ เนื่องจากทำเลภายในซอยคลองสองเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยแทบทั้งสิ้น ร้านค้าจะกระจุกอยู่ที่ติดถนนใหญ่รังสิต และคลองหลวงเป็นหลัก ในซอยเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมด รวมถึงหมู่บ้านจัดสรร ทั้งโครงการใหม่และโครงการพื้นที่ดั้งเดิม ซึ่งเป็นธรรมดาสำหรับผู้ที่เลือกอาศัยอยู่ในทำเลภายในซอยคลองรังสิตทั้งหมดนะคะที่จะไม่ถึงขั้นออกไปหน้าโครงการแล้วมีของกินทันที ซึ่งจริงๆแล้วตลาดขนาดใหญ่ รวมถึงห้างใหญ่ๆ อยู่ห่างจากโครงการในรัศมี 3-6 กม. ถือว่าดี มีตลาดพระรูปรังสิต ที่ด้านหน้ามีทั้ง 7-11 , Tesco Lotus Express และแว่นท็อปเจริญ อยู่ตรงข้ามขนาบข้างกันเลย รวมถึงร้านค้าอาคารพาณิชย์เป็นแนวยาว, ร้านขายยา, ร้านขายอาหารสัตว์, ร้านกาแฟ หลากหลายครบครันมากๆ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจาก Pure Place และ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ในระยะพอๆกันอีกด้วย

ในอนาคตจะมีโครงการห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ขึ้นมาอีกจากฟิวเจอร์พาร์ครังสิตและ Zpell ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ค่ะ นั่นก็คือโครงการ Central M จาก CPN และ Mega & Ikea รังสิต ซึ่งทั้งสองห้างนี้ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่าจะสร้างเสร็จหรือเปิดตัวเมื่อไหร่นะ และโครงการเราก็อยู่ใกล้กับ Central M ในอนาคต เพียงแค่ 8 กม. เท่านั้นเอง

ภาพโครงการ Central M รังสิต

นอกเหนือจาก 2 ห้างข้างบนแล้ว ยังมีห้าง The Hub ที่เป็นส่วนต่อขยายจาก Zeer รังสิต, โบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ รังสิต ที่รีโนเวทจาก เมอร์รี่คิง เก่า และคอมมูนิตี้มอลล์อีกหลายแห่งที่ไปถึงได้สะดวกในระยะขับรถค่ะ เช่น The Tree Avenue, Mint Village

จุดขึ้นทางด่วน ที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ฝั่งขาเข้าเมืองค่ะ จากโครงการวิ่งออก ถ.รังสิต-นครนายก กลับรถก่อนถึง Pure Place มุ่งหน้าแยกต่างระดับรังสิต จะมีป้ายบอกทางไปโทลเวย์ เลี้ยวซ้ายไปตามทาง จะเจอจุดขึ้นทางพิเศษด้านขวามือ ส่วนหากต้องการวิ่งไปอยุธยาจากเส้นนี้ให้ขึ้นแยกต่างระดับรังสิตไปตามป้ายอยุธยา ออกถนนพหลโยธินแล้ววิ่งยาวไปเลยค่ะ

สำหรับจุดขึ้นทางด่วนอีกฝั่ง จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกวงแหวนฯ ขาออกนอกเมือง ซึ่งจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 11 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ฝั่งขาเข้าเมือง แนะนำให้วิ่งไปที่แยกต่างระดับธัญบุรีนะคะ จะใกล้กว่า ก็ขับเลยจากฝั่งขาออกเมืองที่แยกต่างระดับนี้ไปอีก 400 เมตรเท่านั้นเองค่ะ ส่วนหากต้องการมุ่งหน้าบางปะอิน ให้วิ่งขึ้นที่แยกต่างระดับคลองหลวง จะใกล้กว่ากันมาก

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ และรถไฟฟ้า นั้นไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านตัดเข้ามาใน ซ.รังสิต-นครนายก 31 เท่าไหร่ค่ะ จะใช้บริการพี่วินเป็นหลัก โดยสามารถเรียกได้จากหน้าตลาดนัดพระรูป หรือ จากฝั่งวัดพระธรรมกาย วินรถตู้หลักๆจะอยู่ที่ Future Park และ ม.ธรรมศาสตร์ ค่ะ

โครงการ บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 ไม่ได้เป็นโครงการที่เกาะโครงข่ายรถไฟฟ้า แต่ก็อยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้า Airport Link สายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) สถานี ม.กรุงเทพ 6.8 กม. โดยรถไฟฟ้าสายนี้กำลังก่อสร้างอยู่ปัจจุบัน โดยใช้บางส่วนของตอม่อโฮปเวลเดิม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน

และในอนาคต หากรถไฟฟ้า Airport Link สร้างมาถึง สนามบินดอนเมือง ก็สามารถเปลี่ยนรถ ที่ดอนเมือง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ และสถานี Interchage ในอนาคตอีกสถานีนึงนั่นก็คือ สถานีหลักสี่ ค่ะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไป รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และ Airport Link ในอนาคต ชื่อสถานีหลักสี่เหมือนกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563-2564

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตาม ลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก

ถนนวิภาวดีรังสิต (ใต้ด่วนดอนเมืองโทลเวย์)> ถนนพหลโยธิน > แยกต่างระดับรังสิต > ถนนรังสิต – นครนายก> ซ.รังสิต-นครนายก 31 > ข้ามสะพาน > ถนนเลียบคลองสองฝั่งตะวันตก > บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2

เริ่มต้นการเดินทางบนถนนวิภาวดีรังสิต ใต้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ วิ่งตรงตามป้ายดอนเมืองมาเรื่อยๆ

สักระยะหนึ่งก็จะเริ่มมีป้ายบอกเส้นทางไปรังสิต เราก็ขับตามป้ายไปเลยค่ะ ผ่านสนามบินดอนเมืองทางขวามือ และสถานีรถไฟดอนเมืองทางซ้าย

ผ่านสนามบินดอนเมืองมาก็จะเจอป้ายบอกทางไปรังสิต ขับตรงตามทางไปค่ะ

ผ่านเส้นทางเบี่ยง ซึ่งสามารถไปทางซ้าย ออกสะพานใหม่- ลำลูกกาได้ แต่เราจะขับตรงไปอยู่ค่ะ

ผ่านเซียร์รังสิตทางขวา และ Big C ทางซ้ายมือ ตอนนี้เราเข้าสู่ถนนพหลโยธินแล้วค่ะ

ที่ถนนพหลโยธิน วิ่งตรงไปเรื่อยๆ เจอป้ายบอกทางไปนครนายก ให้ชิดซ้าย

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอทางออก เบี่ยงซ้าย ตามป้ายนครนายก ออกไปถนนนอก

ออกมาถนนนอกแล้วเราชิดเลนขวาไว้ เพราะเราจะต้องวิ่งขึ้นสะพานข้ามคลองรังสิต และถนนเลียบคลองรังสิตไปค่ะ

ลงจากสะพานปุ๊ปเราก็จะเห็นป้ายบอกทางนครนายกต่อ เราตรงตามป้ายไปค่ะ

มาถึงแยกทางต่างระดับรังสิตแล้ว เจอทางเบี่ยงซ้ายแรกให้ขับผ่านไปก่อน เพราะเส้นนี้จะใช้วิ่งไปถนนรังสิต – ปทุมธานี

ตรงมาเราจะเจอทางเบี่ยงออกซ้ายถัดไป ให้เราเลี้ยวซ้ายขึ้นไปเลยค่ะ เส้นทางนี้จะพาเราวนไปออกเส้นรังสิต – นครนายก

ก่อนลงจากสะพานเราจะเห็นห้าง Future Park รังสิต, Zpell ทางซ้ายมือ

ลงสะพานมาแล้วก็จะเห็น Major Cineplex ทางขวามือ

ตรงตามทางมาเรื่อยๆ จากตรงนี้เราสามารถแวะเข้าไป Shopping ใน Future Park ได้ จะมีทางเข้าห้างทางซ้ายมือค่ะ

เลยทางเข้าห้างเมื่อสักครู่ ผ่านโรงพยาบาลเปาโล รังสิต ทางซ้ายมือ ให้ขับตรงผ่านไปขึ้นสะพานข้ามคลองหนึ่ง

ตอนนี้เราอยู่บน ถ.รังสิต-นครนายกค่ะ วิ่งมาเรื่อยๆเมื่อเจอปั๊มปตท. ก็จะเจอกับตลาดน้ำนครรังสิตด้านขวามือ

เมื่อวิ่งมาเรื่อยๆก็จะเจอกับป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่เขียนว่า บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 โดยสามารถเลี้ยวซ้ายเข้าบริเวณป้ายรักษาสัตว์ด้านหน้าได้ คือ ซอยรังสิตนครนายก 29 ไปได้เหมือนกัน แต่วันนี้เราจะพาตรงไปเข้าที่ซอยรังสิตนครนายก 31 นะคะ ไปชมทำเลและความคึกคักบริเวณตลาดพระรูปรังสิตกัน

เมื่อวิ่งจอดเลยป้ายบิลบอร์ดข้ามสะพานข้ามคลองมาแล้วก็จะเจอกับตลาดนัดพระรูปคลอง 2 ด้านซ้ายมือค่ะ ให้เราชิดซ้ายเอาไว้เลยเราจะเลี้ยวซ้ายด้านหน้า

อธิบายแผนที่บริเวณจุดนี้สักหน่อย เราเดินทางมาตาม ลูกศรสีแดง ใช่ไหมคะ แต่ที่นี้หากเราเลี้ยวซ้ายเข้าตรงโรงพยาบาลสัตว์มาลีวัลย์ที่เราบอกไปเมื่อรูปก่อนหน้า ตาม ลูกศรสีเขียว แล้วเลี้ยวขวาที่แยกแรกข้ามสะพานไปก็จะสามารถออกสู่ซอยรังสิตนครนายก 31 ได้เช่นกัน หรือหากวิ่งมาจากฝั่งถนนกาญจนาภิเษกตาม ลูกศรสีน้ำเงิน จะมีทางให้ชิดซ้ายเพื่อลอดใต้สะพานออกสู่ซอยรังสิตนครนายก 31

กลับมาที่หน้าตลาดกันค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยรังสิตนครนายก 31 เลย บริเวณหน้าตลาดรถติดหน่อยนะคะ

เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้วก็จะเจอบังทางบังคับให้วิ่งตามเส้นทางไปเลย ก่อนที่จะถึงหัวโค้งด้านขวามือจะเจอกับ เซเว่นอีเลฟเว่น

เลี้ยวขวามาแล้วค่ะ ตอนนี้เราอยู่ในซอยรังสิตนครนายก 31 หรือถนนเลียบคลองสอง หรือถนนบงกช จะเห็นว่าเมื่อเลี้ยวเข้ามา บรรยากาศของทั้ง 2 ฝั่งทางจะแตกต่างกันจากปากซอยโดยสิ้นเชิง ค่อนข้างจะเป็นชนบทเลยค่ะ

โครงการเราจะอยู่ฝั่งซ้ายมือโดยต้องข้ามสะพานข้ามคลอง 2 ไป วิ่งตรงมาเรื่อยเรื่อยๆจะเจอหมู่บ้าน บ้านสราญสิริด้านขวามือ เป็นจุดสังเกตุว่าใกล้ถึงสะพานที่เราจะข้ามไปสู่โครงการแล้ว

สะพานที่เราจะข้ามไปยังโครงการจะอยู่ระหว่าง หมู่บ้าน บ้านสราญสิริ และวัดกล้าชอุ่มค่ะ ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานไปเลย

เมื่อวิ่งลงสะพานมาก็จะเจอกับโครงการศุภาลัยเบลล่า เพื่อนบ้านของเรา เราจะเลี้ยวขวาค่ะ

ตอนนี้เราอยู่ที่ถนนเลียบคลองสองฝั่งตะวันตกแล้วนะคะ จากสะพานแล้วจะกลับไปอีกแค่ 250 เมตรเท่านั้น ก็จะถึงโครงการด้านซ้ายมือค่ะ สังเกตว่าฝั่งขวามือคือวัดกล้าชอุ่ม ส่วนซ้ายมือที่เห็นในภาพเป็นอู่ซ่อมรถ สป.การช่าง

ถึงแล้วค่ะโครงการ บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 ซุ้มทางเข้าขนาดใหญ่ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย

ภาพทางเข้าโครงการให้เห็นชัดๆ ค่ะ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนรังสิต – นครนายก : 5 กม.
• ถ.บางขันธ์-คลองหลวง : 3.3 กม.
• ถ.กาญจนาภิเษก : 11.8 กม.
• ถนนลำลูกกา : 11.8 กม.
• แยกทางต่างระดับรังสิต : 7.8 กม.
• แยกบางพูน : 10.5 กม.
• แยกปู่โพธิ์ : 15.6 กม.
• แยกบ้านกลาง : 15.4 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบๆโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• Makro คลองหลวง : 4.3 กม.
• เพียวเพลส รังสิต : 6.4 กม.
• ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต : 7.8 กม.
• Central M : 8 กม.
• Makro รังสิต : 10.3 กม.
• Mega รังสิต : 11.5 กม.
• เซียร์รังสิต : 14 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.เปาโล รังสิต : 7.6 กม.
• รพ.เอกปทุม : 8.3 กม.
• รพ.ปทุมเวช : 8.7 กม.
• รพ.แพทย์รังสิต : 12.9 กม.

สถานศึกษา

• รร.อนุบาลวังทอง : 5.1 กม.
• ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต : 6.4 กม.
• ม.กรุงเทพ : 8 กม.
• รร.โชคชัยรังสิต : 10.4 กม.
• ม.รังสิต : 15.3 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี : 18.5 กม.

สถานที่สันทนาการ

• สวนสนุกดรีมเวิลด์ : 10.8 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยดั้งเดิมค่ะ ทางทิศเหนือและทิศใต้ ติดกับพื้นที่ดินเปล่าทั้งหมด ทิศตะวันออกติดกับถนนเลียบคลองสอง สวนทิศตะวันตกติดกับถนนสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ตรงกันข้ามกับวัดกล้าชอุ่ม

พื้นที่โครงการของที่นี่ค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ ทางเข้ากว้างขวางเต็มหน้ากว้างของที่ดินทำให้มีสวนสาธารณะด้านหน้าขนาดใหญ่มาก ขับรถเข้าออกได้สบายเลยหากใครมีรถใหญ่

กลับหลังหันมองไปยังฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นคลองสอง ผ่านไปเป็นวัดกล้าชอุ่ม

พื้นที่สวนสาธารณะด้านหน้าโครงการติดกับป้อมยามที่เห็นเป็นหลุมนั่นคือช่องสำหรับท่อระบายน้ำนะคะ

บรรยากาศสวนอีกฝั่งของโครงการจะเห็นป้ายไวนิลโฆษณา เรียงกัน

มุมมองจากหน้าโครงการไปยังทิศเหนือค่ะ ก็เห็นว่าถนนเลียบคลองสองฝั่งตะวันตกน้ำเป็นถนนที่กว้างเพียง 6 เมตรเท่านั้น โครงการได้ทำทางเข้าขนาดใหญ่ ว่างเป็น 2 เท่าของถนนเลยทีเดียว การขับรถในโครงการน่าจะขับได้ง่ายกว่าข้างนอกด้วยซ้ำไปค่ะ

ภาพมุมมองจากหน้าโครงการไปยังทิศใต้ มองไปยังสะพานที่เราเพิ่งเดินทางมาเมื่อสักครู่

พื้นที่ข้างเคียงโครงการฝั่งทิศใต้ของเราเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลค่ะ

มีศาลเจ้าพ่อเขาตก และเจ้าพ่อการะเวก

ถัดไปก็จะเป็นอู่ สป.การช่าง และร้านขายวัสดุก่อสร้าง

:::: ตัวโครงการ ::::

โครงการเป็นโครงการทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น จำนวน 470 ยูนิต บนที่ดิน 40 ไร่ เป็นทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ในสไตล์โมเดิร์น เน้นความกระชับและเรียบง่ายของฟังก์ชั่นการใช้งาน ก่อนที่จะพาเข้าไปดูภาพภายในโครงการจะขออธิบายผังโครงการคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ

ทางเข้า-ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือจากซุ้มทางเข้าโครงการบนถนนเลียบคลอง 2 โดยจะต้องผ่านรปภ.ซึ่งจะประกอบด้วย ป้อมยาม, เครื่องสแกน Auto access card, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก เมื่อผ่านเข้ามาภายในตัวโครงการแล้วจะเจอถนนเมนกว้าง 16 เมตรเข้าไปจนถึงสวนสาธารณะที่เฟส 2 แล้วแตกออกเป็นถนนขนาด 12.00 เมตรและ 8.00 เมตรยาวเข้าไปจนถึงเฟสที่ 3

เมื่อเข้ามาภายในตัวโครงการแล้ว สำนักงานขายและบ้านตัวอย่างจะอยู่ทางซ้ายมือเลย ส่วนสวนสาธารณะจะอยู่บริเวณตรงกลางไซท์ช่วงเฟสที่ 2 เนื่องจากไซท์โครงการเป็นแบบหน้าแคบแต่ลึก ซึ่งวัดระยะทางจากซุ้มทางเข้าโครงการเข้าไปถึงท้ายโครงการจะมีระยะประมาณ 1 กม.พอดีๆ ลูกบ้านหลังสุดท้ายอาจจะเดินออกมาบริเวณหน้าโครงการค่อนข้างไกลหน่อย แต่ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศมาปั่นจักรยานแทนการเดินก็สามารถช่วยย่นระยะเวลาให้สั้นลงได้ครึ่งนึงเลยค่ะ

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

::: ทางเข้าโครงการ :::

เราได้ชมรายละเอียดกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะพาท่านผู้อ่านเดินชมภาพบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง

เริ่มจากบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการ จะเป็นถนนกว้าง 19.00 เมตร รวมทั้งฝั่งทางเข้าและทางออก ตัวซุ้มดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยระแนงสีสันสดใสมีชีวิตชีวา

การเข้าสู่ตัวโครงการจะต้องผ่านรั้วไม้กระดก, ป้อมยาม และกล้อง CCTV ตรงนี้ลูกบ้านจะมี Access card สามารถสแกนบัตรและขับรถผ่านเข้าไปได้เลย แต่ถ้าเป็น Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนนะ

มุมมองไปที่ด้านข้างของป้อมยาม จะเป็นจุดที่ติดกล้อง CCTV และเครื่องแสกน Access card

เครื่องแสกน Access card

กล้อง CCTV 2 ตัวช่วยจับภาพหน้าคนขับและทะเบียนรถ

มุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ

::: บริเวณภายในโครงการ :::

เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับถนนเมนกว้าง 16 เมตรต่อเนื่องจากเฟสแรกเข้าไปจนถึงบริเวณสวนธารณะช่วงเฟสที่ 2 จะแตกเป็นถนนกว้าง 12 เมตรและ ถนนกว้าง 8 เมตรเข้าไปถึงเฟสที่ 3

มองไปทางซ้ายมือจะเป็นสำนักงานขายหลังแรก

หลังริมสุดจะเป็นบ้านตัวอย่าง

ส่วนทางขวามือจะเป็นที่จอดรถของผู้ที่เข้ามาติดต่อเยี่ยมชมโครงการ

ช่วงนี้จะเป็นบริเวณเฟสที่ 1 ค่ะ ส่วนเฟสที่ 2 รวมถึงสวนสาธารณะยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างนะ

หน้าตาแบบบ้าน Bliss หน้าตาบ้านดูสะอาดสะอ้าน สีสันสดใสเลยค่ะ

:::: แบบบ้านของโครงการ และ บ้านตัวอย่าง ::::

::: แบบบ้านของโครงการ :::

บ้านของโครงการจะเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น เป็นแบบบ้านดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชั่นมีความกระชับ สามารถใช้สอยได้ทุกตารางเมตร มีด้วยกันทั้งหมด 1 แบบ คือ แบบบ้าน Bliss ขนาด 95 ตรม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน ไปดูแปลนบ้านกันเลยดีกว่าค่ะ

:: แบบ Bliss ::

แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย

• โรงจอดรถ
• ห้องนั่งเล่น
• ห้องรับประทานอาหาร
• ห้องครัว
• ลานซักล้าง
• ห้องน้ำ 2

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 1 (Master Bedroom)
• ห้องนอน 2
• ห้องอเนกประสงค์ (ห้องนอน 3)
• ห้องน้ำ 1

::: บ้านตัวอย่าง :::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่างของโครงการกันค่ะ นั่นก็คือแบบบ้าน Bliss ขนาด 95 ตรม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 1 ที่จอดรถ ในรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

:: แบบบ้าน Bliss ขนาด 95 ตรม. ::

หน้าตาบ้านก็จะเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบๆ ใช้สีเทา-ขาวเป็นหลัก สร้างลูกเล่นด้วยสีสันของระแนงบ้านและลวดลายเซาะร่องของผนังบ้าน

รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน

นี่คือบ้านมาตรฐานที่ส่งมอบค่ะ มาดูสภาพหน้าบ้าน, รั้วบ้าน และโรงจอดรถที่เราจะได้จริงๆกัน

ประตูรั้วจะเป็นประตูบานเฟี้ยมระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน สูงประมาณ 1.2 เมตร สามารถเปิด – ปิดได้ตามรูป หน้าบ้านจะติดกริ่งออด, ป้ายเลขที่บ้าน และไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง

กริ่งออดและไฟกิ่งหน้าบ้าน ตอนนี้ยังไม่ได้ติดป้ายเลขที่บ้านนะ

เข้ามาในส่วนของตัวบ้านจะเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดรถได้ 1 คันในร่ม บริเวณภายในบ้านจะทำพื้นซีเมนต์ปาดเรียบทั้งหมด สำหรับคนที่ชอบสวนหน้าบ้านสามารถจัดสวนเป็นไม้กระถางได้ หรือเลือกเป็นบ้านแปลงมุมไปเลยจะได้มีพื้นที่สนามหญ้ามากขึ้น

ภายในโรงจอดรถจะมีตู้เก็บของสามารภเก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถหรือสายยางได้ ที่ฝ้าเพดานจะติดดวงโคมซาลาเปามาให้ 1 ดวง

มาดูที่บริเวณเฉลียงทางเข้าบ้านกันบ้าง

พื้นเฉลียงจะกว้าง 0.6 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ยกระดับขึ้นมาจากพื้นประมาณ 10 ซม.

ด้านข้างประตูทางเข้าบ้านติดไฟกิ่งมาให้ 1 ดวงทรงสี่เหลี่ยมโมเดิร์นมาให้

แบบบ้านตัวอย่าง

ตัดมาที่บ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ

มือจับและตัวล็อคประตูแบบหูช้าง

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร จัดแปลนบ้านแบบ Open plan ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เห็นความลงตัวในแง่ของการใช้งานและความสวยงามเพื่อเป็นไอเดีย

ภาพจากบ้านมาตรฐาน ผังบ้านจะกลับด้านกับบ้านตัวอย่างด้านบนนะคะ พื้นบ้านปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. พร้อมบัวพื้นสีขาว ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี

ที่ฝ้าเพดานก็สูงถึง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทั้งหลัง

ภาพจากบ้านมาตรฐาน บางส่วนของฝ้าถูกลดระดับลงมาเพราะจะเป็นพื้นที่ส่วนของงานระบบท่อภายในห้องน้ำ และมีผลพลอยได้คือทำให้เหมือนเป็นการแบ่งโซนพื้นที่ให้ไปด้วยในตัว ภายในบ้านที่ชั้น 1 จะใช้ดวงโคมซาลาเปาทรงสี่เหลี่ยมทั้งหมดยกเว้นในห้องน้ำและห้องนอนชั้น 2 ที่จะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์

มาดูการจัดพื้นที่ในห้องนั่งเล่นกันต่อ

ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวาง Arm Chair ขนาด 2 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆแล้วจะวางเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่งหรือโซฟาเบดก็มีที่ข้างๆเหลือพอเลย

ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างที่ผนังฝั่งโซฟามาให้ด้วย แต่บ้านมาตรฐานจะไม่มีมาให้นะคะ หน้าต่างเป็นบานเปิดอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง มือจับและตัวล็อคบานหน้าต่างแบบก้านโยกค่ะ

ฝั่งชั้นวางทีวีผนังจะเว้าเข้ามาเพราะด้านนอกเป็นที่จอดรถ ทำให้เราได้พื้นที่วาง Built – in ตู้วางทีวีพร้อมช่องเก็บของพอดีเลย ใครอยากให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นลองใช้กระจกมาติดที่ผนังบางส่วนดูก็จะทำให้บ้านของท่านดูกว้างขวางขึ้นในทันที ส่วนระยะจากโซฟาถึงผนังอีกฝั่งเหลือ 1.7 เมตร เป็นระยะที่เหมาะสำหรับการนั่งดูทีวีขนาด 42 – 47 นิ้วค่ะ แต่ถ้าเราอยากได้ระยะดูทีวีเพิ่มขึ้นก็สามารถใช้วิธีเอาทีวีติดผนังได้

ภาพจากทางบ้านมาตรฐาน ที่ลายผนังจะทำการเดินสายไฟและสายอากาศเอาไว้ให้เรียบร้อย

สวิตช์และปลั๊กไฟ จะใช้ของ Bticino ทั้งหลังค่ะ

มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหาร, โถงบันได และห้องครัว

จะเห็นได้ว่าบริเวณระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหารยังเหลือพื้นที่ผนังอีกเยอะเลย ตรงนี้เราสามารถทำชั้นแบ่งสัดส่วนของบ้าน, ตั้งชั้นวางหนังสือ, วางของตกแต่ง, ตู้เก็บจานชาม หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานก็ได้เหมือนกัน

มาดูที่ห้องรับประทานอาหารกันต่อ ที่ห้องนี้ก็จะมีช่องแสงให้อยู่ 2 จุด แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงมาตรฐานก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อนส่วนที่ติดกับลานซักล้างเพียงบานเดียว

บานหน้าต่างข้างหลังจะเป็นบานเลื่อน จะไม่มีมือจับนะคะ แต่ที่บานกรอบอลูมิเนียมจะทำเป็นครีบขึ้นมาให้สามารถจับเปิดได้สะดวก

ตัวล็อคท้ายบานหน้าต่าง

สำหรับโต๊ะอาหารสามารถวางได้ขนาด 4 ที่นั่งพอดี จะต่อหัวท้ายเพิ่มเป็น 6 ที่นั่งในวันที่มีแขกก็ยังรองรับไหว จัดให้ดูน่านั่งจะได้สามารถเป็นมุมนั่งเล่นได้อีก 1 มุม บางบ้านนี่ตกแต่งให้โต๊ะรับประทานอาหารสามารถใช้เป็นพื้นที่รับแขกในตัวด้วยนะ

สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่สวนข้างบ้านได้ค่ะ

จากห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับแพนทรี่ แต่บ้านตัวอย่างได้ตกแต่งให้เป็นห้องนั่งเล่นอีกหนึ่งห้อง ซึ่งตรงนี้เราสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนกั้นส่วนระหว่างพื้นที่ห้องให้เป็นส่วนตัวขึ้นได้

ภาพจากบ้านมาตรฐาน ตัวบ้านที่ได้จะไม่มีประตูหรือผนังกั้นนะคะ พื้นที่จะเชื่อมต่อกันหมดเลย

ภายในห้องจะมีหน้าต่างบานเลื่อนสำหรับเปิดระบายอากาศได้

ภาพจากบ้านมาตรฐาน ภายใน Pantry จะมีความกว้างประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ได้

ถ้าจะจัดห้องนี้ให้เป็น Pantry ที่ฝั่งนี้ก็จะเหมาะสำหรับเป็นตำแหน่งวางอ่างล้างจาน เพราะอยู่ตรงกับหน้าต่างพอดี

ส่วนฝั่งนี้จะเหมาะสำหรับวางตู้เย็น ส่วนเตาปรุงอาหารขอให้ยกออกไปต่อเติมที่บริเวณลานซักล้างหลังบ้านนะ

มาดูห้องน้ำ 2 กันต่อค่ะ จะสามารถเข้าได้จากทางห้องนี้เพียงทางเดียว

ประตูห้องน้ำจะเป็นบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศ

พร้อมอุปกรณ์มือจับเป็นลูกบิดสแตนเลสแบบมาตรฐานของ Colt

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ลงไปประมาณ 5 ซม.

มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 จะวางจากโซนแห้งไล่เข้าไปยังโซนเปียก พื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 30 ซม.และขนาด 30 x 30 ซม.จากพื้นจรดฝ้าเพดาน ไฟในห้องน้ำจะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์

อ่างล้างมือจะเป็นแบบแขวนผนัง ส่วนท่อดักกลิ่นจะครอบด้วยอุปกรณ์อ่างเซรามิกให้เรียบร้อยของ Kohler มีขนาดกระทัดรัดทรงมนปลอดภัยในการใช้งาน มีพื้นที่ขอบอ่างให้วางขวดสบู่ได้นิดหน่อย

ส่วนก๊อกน้ำจะใช้ของ Englefield ขนาดใช้งานกำลังถนัดมือ

กระจกบานที่ได้มาเป็นกระจกเจียปรี ขนาด 900 x 1100 มม.

ผนังข้างอ่างล้างมือจะติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ ได้เป็นของ Karat

ถัดจากอ่างล้างหน้าไปจะเป็นโถสุขภัณฑ์และโซน Shower

โถสุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นของ Kohler แบบแยกชิ้น ระบบ Dual flush พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ

สายฉีดชำระพลาสติกสีโครเมี่ยมน้ำหนักเบามือ

และที่ใส่กระดาษชำระของ Kohler

ส่วนพื้นที่โซน Shower กว้างประมาณ 60 ซม. อาจจะแคบไปสักหน่อยแต่ในวันเร่งด่วนห้องน้ำชั้นบนไม่ว่างก็มาอาบที่ห้องนี้ได้

ชุดฝักบัวอาบน้ำแบบไม่มีราวปรับระดับของ Englefield ติดตั้งมาคู่กับชั้นวางสบู่ของ Kohler

เราเทียบขนาดฝ่ามือให้ดูขนาดหัวฝักบัว ขนาดใหญ่กำลังพอเหมาะ

เนื่องจากภายในห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ บนฝ้าเพดานจึงติดพัดลมดูดอากาศมาให้เพิ่มด้วย

เราจะออกไปดูลานซักล้างกันต่อ

ประตูลานซักล้างเป็นบานประตูสำเร็จรูปสีขาว อุปกรณ์ลูกบิดสแตนเลสของ Colt

ลานซักล้างที่ได้จะทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบกว้าง 2 เมตรพื้นลาดเอียงเล็กน้อย พื้นลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 อยู่ 10 ซม. ตามบ้านตัวอย่างจะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกนิตโต้ทำเป็นห้องครัว

ที่ลานซักล้างมีพื้นที่ๆค่อนข้างกว้างขวาง สามารถทำเป็นครัวไทยรวมกับห้องซักรีดได้พอดีๆ

มุมมองไปฝั่งซ้ายมือเป็นที่วางตู้เย็นและเคาน์เตอร์ครัว

มุมมองไปฝั่งขวามือจัดเป็นห้องซักรีด ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมก็จะมีประตูข้างสามารถเปิดออกสู่สวนข้างบ้านได้ค่ะ

จะเห็นได้ว่าพื้นที่เหลือกว้างขวางสามารถทำเคาน์เตอร์เพิ่มอีกฝั่งได้เลย

ภาพจากทางบ้านมาตรฐาน ดังที่กล่าวไปแล้วว่า พื้นที่ได้จริงๆจะเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบนะคะ

ขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย ตัวโถงบันไดจะกว้าง 90 ซม.ได้ระยะมาตรฐานพอดี ผนังด้านข้างยังเหลือพื้นที่สามารถทำชั้น Built – in วางของใช้หรือวางของตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ได้อีก

บันไดจะเป็นบันไดทึบ วัสดุลูกนอนเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน

ราวมือจับเป็นโครงเหล็กฝังผนัง ใช้ตัวราวเป็นวัสดุไม้สำเร็จรูปสีเข้ากันกับพื้นบันได

มุมมองขึ้นไปที่โถงบันไดชั้น 2 บันไดจะเป็นบันไดแบบหักกลับรูปตัว U วนขวาขึ้นไป ดวงไฟจะได้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์และเจาะช่องที่ฝ้าเพดานเพื่อรับแสงธรรมชาติ

มุมมองกลับไปที่ชานพักบันได

ขึ้นมาที่โถงบันไดชั้น 2 โถงบันไดจะเป็นตัวแจกเข้าห้องต่างๆ ทางซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ (หรือห้องนอน 3) และห้องนอน 2 ตามลำดับ ตรงกลางโถงเป็นห้องน้ำ 1 ส่วนทางขวามือเป็นห้องนอน Master bedroom ที่พื้นจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ทั้งหมด

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได

ตามบ้านมาตรฐานจะไม่ได้เจาะช่องแสงบริเวณฝ้าเพดานของโถงบันไดให้ค่ะ

เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูที่ห้องฝั่งทางขวาของโถงบันไดกันก่อน ลำดับเป็นห้องนอน Master bedroom และห้องน้ำ 1

ประตูห้องนอนทุกห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป มือจับแบบลูกบิดสแตนเลส

เข้ามาภายในห้องนอน Master bedroom จะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือโซนที่นอนฝั่งซ้ายและโซน Walk-in closet ฝั่งขวา

ภาพจากทางบ้านมาตรฐาน ภายในห้องถือว่าสว่างดีเลยแม้จะไม่ได้เปิดไฟเพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 บาน บริเวณลายผนังของห้องนอนจะเดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้

มาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และระยะการใช้งานกันต่อเลยค่ะ

ในโซนที่นอน จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้และยังเหลือที่สำหรับวางโต๊ะข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฟาก พื้นที่ฝั่งละประมาณ 0.5 เมตร ถ้าจะวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็พอทำได้อยู่แต่จะต้องวางชิดผนังฝั่งซ้ายไปเลยนะ

ภาพจากทางบ้านมาตรฐาน ที่โซนนี้จะมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่บานใหญ่มาเป็นช่องแสงให้กับห้อง

หน้าต่างบานเลื่อนแบบนี้เราเรียกว่า Juliet นะคะ คือจะมีขนาดใหญ่เท่ากับประตู และจะทำระเบียงหลอกเอาไว้ภายนอก เป็นบานอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสงอีกเช่นเคย

มือจับบานเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

เปิดออกไปจะเป็นระเบียงหลอกแบบนี้ ไม่สามารถเดินออกไปได้ แต่ใช้เปิดยืนรับลมสวยๆได้พองามค่ะ

มุมมองไปที่โซน Walk – in closet กันบ้าง ทางบ้านตัวอย่างจะจัดชั้นวางทีวีเอาไว้ตรงกลางห้องกั้นแบ่งโซน

ภาพจากบ้านมาตรฐาน จริงๆแล้วห้องที่ได้จะเป็นห้องโล่งๆเชื่อมต่อกันแบบนี้ค่ะ

ถึงจะทำชั้นวางทีวีตรงกลางห้อง ระยะเดินก็ยังกว้างขวางเพียงพอค่ะ ไม่เกะกะแน่นอน

ในโซน Walk – in closet ก็จะสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกลางๆได้อย่างละตัว จริงๆแล้วจะทำตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว L เลยก็ยังได้

วัดระยะจากขอบตู้ถึงขอบชั้นวางทีวีเหลือประมาณ 1 เมตรได้ เป็นระยะสบายๆไม่ถูกบีบอัดแล้ว

ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้

มาดูที่ห้องน้ำกันต่อ วัสดุประตูก็จะใช้เหมือนบานห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ระดับพื้นห้องน้ำจะลดลงจากพื้นชั้น 2 อยู่ 2.5 ซม.

วัสดุและสุขภัณฑ์ภายในใช้เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทั้งหมด แต่ห้องนี้จะมีพื้นที่ที่กว้างขวางมากกว่า

สังเกตที่บ้านมาตรฐานที่ได้จริงๆจะไม่มีหน้าต่างภายในห้องน้ำให้ แต่ติดพัดลมดูดอากาศมาเหมือนห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

บริเวณโถสุขภัณฑ์และโซน Shower มีพื้นที่กว้างขวางประมาณอย่างละ 0.9 เมตร ระยะเพียงพอสำหรับการติดตั้ง Shower box ค่ะ แนะนำให้ใช้ประตูแบบบานเลื่อนเข้ามุมนะ จะได้ประหยัดพื้นที่

มาดูในส่วนของห้องนอนทางฝั่งซ้ายมือของโถงบันไดกันต่อ เริ่มจากห้องนอน 2 ตามด้วยห้องอเนกประสงค์เป็นห้องสุดท้าย

มุมมองเข้าไปในห้องนอน 2 ภายในห้องนี้ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างมาทั้ง 2 ฝั่งเลย

ภาพจากบ้านมาตรฐาน จะได้หน้าต่างมาด้านเดียวค่ะ

ในห้องนี้จะสามารถจัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง, ชั้นวางของปลายเตียง, โต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดกลางได้อย่างลงตัว โดยจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 0.7 เมตร สามารถยืนแต่งตัวได้อยู่

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะเหลือ 0.6 เมตร ทำชั้นวางของเพิ่มได้อีก

ฝั่งโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า วางเฟอร์นิเจอร์แล้วลงตัวพอดี ไม่เหลือไม่ขาด

มองไปทางประตูทางเข้าห้อง ที่ผนังฝั่งนี้จะสามารถทำชั้น Built – in เพิ่มเติมได้อีกจะได้มีพื้นที่เก็บของได้เยอะๆ ในบริเวณที่ใกล้วงเปิดประตูก็อาจจะทำเป็นราวแขวนของแทน

มาถึงห้องอเนกประสงค์ห้องสุดท้ายกันแล้วค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็ยังสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครัน บางท่านอาจจะจัดให้ห้องนี้เป็นห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้องก็ได้นะ

ภาพจากทางบ้านมาตรฐาน ห้องนี้จะได้ช่องแสง 1 ด้านค่ะ เมื่อเทียบขนาดหน้าต่างกับขนาดห้องแล้วก็ถือว่าได้แสงสว่างเข้าห้องกำลังดี

ถ้าจะจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอน ฝั่งที่ใช้วางโซฟาก็วางเป็นเตียงนอนขนาด 3 ฟุตแทนได้

ฝั่งตรงข้ามวางเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ ซึ่งจะสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดย่อมเพิ่มได้อีก 1 ตัว แต่แนะนำให้วางตู้เสื้อผ้าเอาไว้ฝั่งในชิดมุมกำแพงนะ

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (พฤษภาคม 2560) ::::

วัสดุโดยรวม

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นชั้น 2 : ลามิเนตหนา 8 มม.
• พื้นเฉลียงทางเข้า และพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นลานจอดรถ และพื้นลานซักล้าง : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 30 ซม. และขนาด 30 x 30 ซม.
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบานอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายนอก (บานเปิด) : ประตูบาน UPVC มือจับลูกบิดสแตนเลส
• ประตูภายใน : ประตูบาน HDF มือจับลูกบิดสแตนเลส
• ประตูห้องน้ำ : ประตูบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศ มือจับลูกบิดสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อน, บานเปิด และบาน Fix อลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Kohler, Karat และ Englefield

งานไฟฟ้า

• สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Bticino
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมซาลาเปา และดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ไฟภายนอก : ดวงโคมซาลาเปา และไฟกิ่ง

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

:::: ราคา (พฤษภาคม 2560) ::::

แบบบ้าน Bliss

พื้นที่ใช้สอย 95 ตรม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์

– แปลงมาตรฐานขนาด 17.80 ตร.วา

– ราคา 1,710,000 บาท

• เงินจอง+เงินทำสัญญา 5,000 บาท

• ที่ดินเพิ่ม-ลด ตร.วาละ 50,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 30 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลอง 2 ฝั่งตะวันตกหรือถ.บงกช จะค่อนไปทางฝั่งถ.คลองหลวงมากกว่าฝั่งรังสิต-นครนายก ทางเข้าจะอยู่ที่ ซ.รังสิตนครนายก 31 หรือ ซ.ตลาดพระรูปรังสิต ซึ่งการจะวิ่งเข้าสู่ ถ.บงกชนั้นจากถ.รังสิต-นครนายกสามารถเข้าได้หลายทาง บริเวณนั้นจะมีสาธารณูปโภคอยู่พอสมควร ทางฝั่งรังสิตก็ติดตลาดนัดขนาดใหญ่ ที่ปากซอยก็มีร้านสะดวกซื้อ ส่วนฝั่งคลองหลวงก็อยู่ในโซนตรงข้ามและเชื่อมต่อกับวัดพระธรรมกาย เป็นแนวร้านค้าอาคารพาณิชย์ตลอดทาง

เนื่องจากทำเลภายในซอยคลองสองเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยแทบทั้งสิ้น บริเวณหน้าโครงการจะไม่มีร้านค้าเลยค่ะ ร้านค้าจะกระจุกอยู่ที่ติดถนนใหญ่รังสิต และคลองหลวงเป็นหลัก ส่วนตลาดรวมถึงห้างใหญ่ๆจะอยู่ห่างจากโครงการในรัศมี 3-6 กม.เท่านั้น ในอนาคตจะมีโครงการ Central M จาก CPN และ Mega & Ikea รังสิต เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขึ้นมาอีก ซึ่ง Central M จะอยู่ห่างจากตัวโครงการเพียงแค่ 8 กม. เท่านั้นเอง

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในละแวกโครงการนั้นถือว่าสะดวก ผ่านทางถ.รังสิตและถ.คลองหลวง รวมถึงถนนสายหลักอย่าง ถนนพหลโยธิน ที่เชื่อมกับถนนวิภาวดี-รังสิต และวิ่งยาวไปถึงลาดพร้าว เข้าสู่ตัวเมืองได้, ถนนรังสิต-ปทุมธานี ที่สามารถใช้เส้นทางนี้วิ่งยาวไปถึงจังหวัดปทุมธานี ระหว่างทางจะวิ่งไปตัดกับ ถนนติวานนท์ ที่แยกบ้านกลาง สามารถใช้วิ่งลงไปแยกปากเกร็ด และพระราม 5 ได้, ถนนลำลูกกา มีทางลัดหลายเส้นทาง เชื่อมต่อกับถ.รังสิต-นครนายก, ถนนบางบัวทอง-บางพูนที่ตัดกับถ.ติวานนท์ที่แยกปู่โพธิ์ และ ถ.รังสิต-ปทุมธานีที่แยกบางพูน และ ถนนบางบัวทอง-บางคูวัด ที่เป็นถนนเส้นหลัก ที่ใช้เดินทางสู่บางบัวทอง โดยข้ามสะพานปทุมธานี 2 ค่ะ

นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางได้เป็นอย่างดี และจากบริเวณคลอง 2 นั้นยังมีทางลัดที่จะไปสถานที่สำคัญอยู่อีกหลายเส้นทางด้วยค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ จากทำเลที่ตั้งโครงการนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าค่ะ เพราะยังไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านตัดเข้ามาใน ซ.รังสิต-นครนายก 31 เท่าไหร่ หลักๆเลยก็จะมีแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด โดยสามารถเรียกได้จากหน้าตลาดนัดพระรูป หรือ จากฝั่งวัดพระธรรมกาย ส่วนวินรถตู้หลักๆจะอยู่ที่ Future Park และ ม.ธรรมศาสตร์ ค่ะ

โครงการ บ้านพฤกษา 119 รังสิต-คลอง 2 ไม่ได้เป็นโครงการที่เกาะโครงข่ายรถไฟฟ้า แต่ก็อยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้า Airport Link สายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) สถานี ม.กรุงเทพ 6.8 กม. โดยรถไฟฟ้าสายนี้กำลังก่อสร้างอยู่ปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน

และในอนาคต หากรถไฟฟ้า Airport Link สร้างมาถึง สนามบินดอนเมือง ก็สามารถเปลี่ยนรถที่ดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ และสถานี Interchage ในอนาคตอีกสถานีนึงนั่นก็คือสถานีหลักสี่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไป รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และ Airport Link ในอนาคต ชื่อสถานีหลักสี่เหมือนกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563-2564

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น จำนวน 470 ยูนิต บนพื้นที่ 40 ไร่ สไตล์ Modern มีแบบบ้าน 1 แบบขนาด 95 ตรม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 1 ที่จอดรถ ฟังก์ชั่นการออกแบบก็เป็นแบบสไตล์ทาวน์โฮมของบ้านพฤกษาที่อื่นๆ ตัวบ้านสามารถออกแบบได้กระชับและเรียบง่าย ใช้สอยได้สะดวก ติดอยู่ที่ว่าห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้แต่ทางบ้านจะติดพัดลมดูดอากาศมาช่วยแทน บริเวณห้องครัวภายในมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก สามารถทำเป็นแพนทรี่ได้ แต่ครัวไทยจะต้องไปต่อเติมเพิ่มในบริเวณของลานซักล้างค่ะ

ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ได้ภายในบ้านก็มีมาตรฐานค่ะ โดยรวมบ้านหลังนี้จะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 2 – 4 คน ที่ไม่มีสิ่งของและสัมภาระเยอะมากนัก

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีสวนพักผ่อนส่วนกลางขนาดประมาณ 1 ไร่เพียงอย่างเดียว ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตของทั้งโครงการแล้วก็อาจจะน้อยไปนิดนึง ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีกล้องวงจรปิด, การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมยาม และระบบ Auto Access Card ได้มาตรฐาน

:::: คะแนน ::::

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1739

WEBSITE : http://baanpruksa.pruksa.com/13027/บ้านพฤกษา-119-รังสิต-คลอง2

  EP.812 รีวิว ทาวน์โฮม เดอะแพลนท์ ซิตี้ แจ้งวัฒนะ THE PLANT CITI CHAENGWATTANA

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The Plant Citi แจ้งวัฒนะ จาก พฤกษา เป็นทาวน์โฮมบนถนน ป๊อปปูล่า บางพูด, ปากเกร็ด, นนทบุรี 11120 อยู่ในย่านชุมชน ใกล้อิมแพคเมืองทองธานี, ตลาดนัด ถนนใกล้เคียงสองข้างทางมีร้านค้า ร้านอาหาร ใกล้สถานศึกษาและห้างสรรพสินค้า, ทางขึ้น-ลงทางด่วน

The Plant Citi แจ้งวัฒนะ ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่โครงการ 33 ไร่ มีทั้งหมด 367 ยูนิต มีให้เลือกถึง 1 แบบ โดยขนาดพื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน คาดว่าสร้างเสร็จทั้งโครงการประมาณปลายปี 2562

สิ่งอำนวยความสะดวก ในโครงการมี สวนสาธารณะส่วนกลางพร้อมทางเดินเล่นรอบสวนและสนามเด็กเล่น, กล้องวงจรปิดภายในโครงการและ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 4.19 ล้านบาท

วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูบ้านตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )

ที่ตั้งโครงการ
พิกัด google map : 13°55’01.9″N 100°32’41.5″E
ถนน ป๊อปปูล่า บางพูด, ปากเกร็ด, นนทบุรี 11120

โครงการ The Plant Citi แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนป๊อปปูล่า ซึ่งเป็นถนนที่ใกล้ทางด่วนและอิมแพค เมืองทองธานี เชื่อมไปยังถนนบอนด์สตรีทซึ่งตรงไปถนนติวานนท์ได้ โดยรอบเป็นย่านพักอาศัย ไม่ไกลจากร้านค้า ร้านอาหาร, สถานศึกษา, วัดวาอารามและห้างสรรพสินค้า

ที่ตั้งโครงการ ด้านหน้าโครงการคือถนนป๊อปปูล่า ตรงข้ามเป็นที่จอดรถริมทะเลสาบอิมแพค ซึ่งถนนป๊อปปูล่าจะอยู่ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วน ถือว่าสะดวกมาก ไปยังถนนแจ้งวัฒนะ, ติวานนท์ได้ง่าย สามารถลัดเลาะไปยังถนนได้หลายสาย จึงทำให้เดินทางเข้าตัวเมืองกรุงเทพ, นนทบุรี หรือออกนอกเมืองไปต่างจังหวัดได้สะดวก

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกพอสมควร ถนนป๊อปปูล่านั้นใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งเป็นทางด่วนที่เชื่อมกับทางด่วนศรีรัช ทำให้ไปเข้า-ออกตัวเมืองได้สะดวก สำหรับถนนป๊อปปูล่านั้นเชื่อมไปยังถนนบอนด์สตรีท ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนติวานนท์และถนนแจ้งวัฒนะ

สำหรับเส้นติวานนท์ สามารถตรงไปยังรังสิตได้ หรือเชื่อมกับถนนศรีสมาน ตรงไปยังดอนเมือง, ถนนพหลโยธินอีกทั้งยังเป็นเส้นที่วิ่งผ่านตัวเมืองนนทบุรี ทำให้เชื่อมต่อกับถนนย่อย และถนนหลักมากมาย ตรงไปยังแจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์ และไปได้ถึงพระราม 5 เลย

สำหรับถนนแจ้งวัฒนะเป็นอีกหนึ่งถนนเส้นหลักที่มีความคึกคัก เชื่อมกับถนนติวานนท์และชัยพฤกษ์ตรงห้าแยกปากเกร็ด ตรงไปยังบางบัวทอง, ดินเมือง เชื่อมไปยังถนนพหลโยธินและรามอินทรา เส้นนี้สามารถไปยังม.เกษตรและห้างสรรพสินค้าได้หลากหลาย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ยังไม่ค่อยสะดวกมากนักเพราะถนนหน้าโครงการไม่ได้มีรถโดยสารประจำทางหรือรถสาธารณะอื่นๆวิ่งผ่าน แต่แท็กซี่จะมีให้เรียกเป็นระยะ สามารถไปขึ้นรถตู้ที่อิมแพคเมืองทองธานี แต่ถ้าไปยังถนนติวานนท์จะมีรถโดยสารหลายสายวิ่งผ่าน ส่วนถนนแจ้งวัฒนะก็มีผ่านหลายสาย อีกทั้งตรงเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะยังมีรถตู้หลายสายเช่นกันค่ะ

สำหรับในอนาคตนั้นก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูซึ่งจะวิ่งผ่านเส้นแจ้งวัฒนะ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเมืองทองธานี (PK8) สำหรับสายสีชมพูนี้จะเป็นรถไฟฟ้าสายแคราย-สุวินทวงศ์ ซึ่งจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงตรงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีค่ะ

ทางด่วน จุดขึ้น-ลงอยู่ไม่ไกลจากโครงการ จากแผนที่จะเห็นนะคะว่าถ้ามาจากตัวเมืองแล้วลงทางด่วน ก็จะเลี้ยวซ้ายไปยังถนนป๊อปปูล่าแล้วเข้าโครงการได้เลย หรือถ้าจะขึ้นทางด่วนก็มาตรงสี่แยกตรงอิมแพคแล้วเลี้ยวขวา ดังนั้นถือว่าสะดวกสำหรับคนที่ใช้ทางด่วนอย่างมาก

ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านพักอาศัย มีหลายหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มคอนโดมิเนียมสูงเมืองทองธานี ทำให้ไม่ไกลจากร้านค้าและร้านอาหาร โดยเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์คือถนนบอนด์สตรีทค่ะ สองข้างทางมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช ดังนั้นโซนใกล้มหาลัยนี้จะยิ่งมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งตรงข้ามมีคอมมูนิตี้มอล ชื่อ BeeHive ข้างในมีร้านค้าและร้านอาหารมายมายให้มาฝากท้องและจับจ่ายใช้สอย

หรือถ้าไปถนนแจ้งวัฒนะก็จะเป็นเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเส้นนี้จะมีทั้ง Central แจ้งวัฒนะ, BigC แจ้งวัฒนะ, Lotus แจ้งวัฒนะ อีกทั้งที่ตั้งโครงการอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษาเช่น รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี, รร.พิชญศึกษา, รร.อัมพรไพศาล, Harrow International School

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• แยกสวนสมเด็จ : 3.3 กม.
• ห้าแยกปากเกร็ด : 6.1 กม.
• สามแยกสามัคคี : 7.9 กม.
• แยกสนามบินน้ำ : 8.9 กม.
• สี่แยกแคราย : 11.1 กม.

• จุดขึ้น – ลงทางด่วน : 550 ม.

• ซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 39 : 60 ม.
• ถนนบอนด์สตรีท : 450 ม.
• ถนนติวานนท์ : 2.2 กม.
• ถนนแจ้งวัฒนะ : 2.1 กม.
• ถนนศรีสมาน : 3.3 กม.
• ถนนประชาชื่น : 3.3 กม.
• ถนนสะพานนนทบุรี – บางบัวทอง : 3.3 กม.
• ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด : 3.5 กม.
• ถนนสามัคคี : 4.1 กม.
• ถนนสรงประภา : 5.1 กม.
• ถนนชัยพฤกษ์ : 6.1 กม.
• ถนนสนามบินน้ำ : 8.9 กม.
• ถนนรัตนาธิเบศร์ : 11.1 กม.
• ถนนงามวงศ์วาน : 11.1 กม.

การเดินทาง

เรามีภาพการทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนแจ้งวัฒนะ→เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบอนด์สตรีท→ ผ่านม.สุโขทัยธรรมาธิราช → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนป๊อปปูล่า→ ตรงเข้าไปประมาณ 450 ม. ก็จะเจอพื้นที่โครงการ The Plant Citi แจ้งวัฒนะ แล้วค่ะ

*เนื่องจากทีมงานเคยพาไปยังโครงการด้วยเส้นทางที่ใช้ทางด่วน วันนี้จึงขอพาทุกคนวิ่งยังเส้นแจ้งวัฒนะ ไปยังถนนบอนด์สตรีทเพื่อที่จะได้ดูความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

จากถนนแจ้งวัฒนะ วิ่งผ่านเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะทางซ้ายมือ ซึ่งถือว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด

วิ่งตามเส้นทางมาเรื่อยๆ แล้วให้ชิดซ้ายไปตามทางบอกเมืองทองธานี

ก่อนถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบอนด์สตรีทหรือถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด

เข้ามาด้านในเป็นถนนใหญ่ สองข้างทางมีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

สองข้างทางยังคงมีร้านค้าตลอดแนวค่ะ

ผ่านม.สุโขทัยธรรมาธิราช ด้านขวามือคือคอมมูนิตี้มอลที่ใกล้โครงการนั่นก็คือ BeeHive ซึ่งมีร้านอาหารมากมายตามที่เห็นที่ป้าย

ตรงมาก็ยังคงมีร้านค้าและร้านอาหาร

ผ่านกลุ่มอาคารคอนโดมิเนียมเมืองทองสูง 30-32 ชั้น ตรงนี้ใต้ตึกก็จะมีร้านค้าและร้านอาหาร

ผ่านกลุ่มตึกตรงหัวมุมให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนป๊อปปูล่า

ตรงตามทางไปเรื่อยๆค่ะ

เลี้ยวขวาก่อนถึงสี่แยกเข้าโครงการได้เลยค่ะ ตรงสี่แยกด้านหน้าคือทางด่วนและอิมแพคเมืองทองธานี

บริเวณโดยรอบโครงการ

ที่ตั้งโครงการ The Plant Citi แจ้งวัฒนะ โดยรอบเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น ใกล้ทางด่วนและอิมแพคเมืองทองธานี ถนนหน้าโครงการไม่มีร้านค้าหรือร้านอาหาร ตรงข้ามเป็นที่จอดรถริมทะเลสาบเมืองทอง แต่ในซอยบอนด์สตรีทที่อยู่ไม่ไกลนั้นจะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ใกล้คอนโดมิเนียมสูง ในซอยมีมหาวิทยาลัย, สถานที่ราชการและคอมมูนิตี้มอล

ถนนหน้าโครงการคือถนนป๊อปปูล่า ซึ่งเป็นถนน 4 เลน ตรงข้ามเป็นทะเลสาบเมืองทองธานี

ด้านซ้ายมือตรงไปยังถนนบอนด์สตรีทได้ค่ะ ถนนเส้นนี้จะลัดไปยังติวานนท์และแจ้งวัฒนะได้ อีกทั้งสองข้างทางของถนนบอนด์สตรีทจะมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

ด้านขวามือคือถนนเลียบทางด่วนอุดรรัถยา ตรงไปจากสี่แยกไปยังอิมแพคเมืองทองธานีได้ อีกทั้งจุดนี้ยังเป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วน ทำให้เดินทางเข้าไปยังตังเมืองกรุงเทพได้สะดวก

สถานที่สำคัญ

• Impact เมืองทองธานี : 300
• SCG Stadium : 300 ม.
• Thunder Dome : 400 ม.
• ตลาดนัดมะลิ : 1.1 กม.
• BeeHive : 1.3 กม.
• Lotus Express : 1.5 กม.
• Lotus แจ้งวัฒนะ : 3.5 กม.
• BigC แจ้งวัฒนะ : 3.9 กม.
• Central แจ้งวัฒนะ : 4.1 กม.
• โรบินสันศรีสมาน : 4.5 กม.

• สนามบินดอนเมือง : 9.8 กม.

• กรมการกงสุล : 4.8 กม.
• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ : 4.8 กม.
• ศาลปกครอง : 4.9 กม.
• หน่วยบัญชาการ ทหารพัฒนา : 5.7 กม.
• กองทัพทหารสื่อสาร : 6.2 กม.
• กรมชลประทาน : 7.1 กม.
• สนง.ฉลากกินแบ่ง : 10.6 กม.
• สนง.ที่ดินนนทบุรี : 1.1 กม.
• กระทรวงพานิชย์ : 12.1 กม.

• ม.สุโขทัยธรรมาธิราช : 1.3 กม.
• รร.อัมพรไพศาล : 3.4 กม.
• รร.พิชญศึกษา : 4.3 กม.
• รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี : 5.2 กม.
• Harrow International School : 9.4 กม.

• รพ.พระมงกุฏ : 4.2 กม.
• รพ.ชลประทาน : 7.1 กม.

บริเวณโครงการ

ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนป๊อปปูล่า ด้านหน้าเป็นพื้นที่ของโครงการที่เป็นพื้นที่ในอนาคตแต่ตอนนี้เป็นสนามหญ้าและถนนหน้าโครงการค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการแบ่งเป็นสองช่องทางชัดเจน ซุ้มประตูขนาดใหญ่โทนสีเรียบสอดคล้องกับสีของตัวบ้านในโครงการ โดยใช้สีเทาอ่อนและสีขาวครีม มีสีน้ำตาลและสีดำจากระแนงเหล็กบ้างเล็กน้อย สองข้างและด้านหน้ามีไม้พุ่มทำให้โครงการดูร่มรื่น

ทางเข้า-ออกโครงการจะกั้นด้วยประตูไม้กระดก

ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. จุดนี้จะมี รปภ.อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกบ้านจะเป็นระบบ Auto access มี CCTV ตรงจุดนี้

เข้ามาด้านในโครงการเป็นถนนหลักกว้าง 19 ม. ข้างทางมีสนามหญ้าและต้นไม้ทำให้โครงการดูร่มรื่น

ด้านขวามือจากประตูทางเข้าเป็นอาคารสำนักงานขายและบ้านตัวอย่าง ด้านหน้าสำนักงานขายยังมีพื้นที่ขายในอนาคตซึ่งปัจจุบันเป็นสนามหญ้า

สำหรับถนนหลักด้านในจะกว้าง 12 ม. สองข้างทางมีไม้ใหญ๋และไม้พุ่มพร้อมทางเดิน ทำให้เดินบนทางเท้าได้สะดวกไม่จำเป็นต้องลงไปเดินตรงถนน อีกทั้งยังได้ร่มเงาและความร่มรื่นจากต้นไม้ของโครงการ

ถนนซอยกว้าง 8 ม.ค่ะ

เดินตรงเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่สวนในโครงการค่ะ

ทางเดินในสวน ซึ่งในสวนมีต้นไม้ใหญ่ทำให้ได้ร่มเงาแม้จะเป็นตอนกลางวัน

มุมสนามเด็กเล่นจะมีเครื่องเล่น และพื้นที่นั่งเล่นใต้ต้นไม้ใหญ่

สนามหญ้าและทางเดินโดยรอบสวน

แบบบ้าน

บ้านในโครงการมี 1 แบบค่ะ คือ

• TH-01 ทาวน์โฮม 3 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 ม. 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ

บ้านตัวอย่าง

จะมีให้ชม 1 แบบ

• TH-01 ทาวน์โฮม 3 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 ม. 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ

Inner เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นมีพื้นที่จอดรถ 2 คัน หน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ ชั้นล่างเปิดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับ 4-5 คนได้เหมาะสมสำหรับครอบครัวขนาดกลางค่ะ พื้นที่ห้องครัวจะอยู่ติดกับส่วนทานอาหาร โดยเป็นครัวเปิดที่สามารถกั้นให้เป็นครัวปิด หรือถ้าจะทำเป็นห้องนอนเพิ่มก็กั้นได้แล้วต่อเติมหลังบ้านให้เป็นครัวแทน

ส่วนชั้น 2 มีทั้งหมด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เป็นห้องนอนขนาดใหญ่พื้นที่กว้าง ขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ และมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานและโต๊ะเครื่องแป้งได้ห้องได้สะดวก ทุกห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ห้องสว่างและถ่ายเทอากาศได้ดี

ชั้น 3 จะเป็นชั้นบนสุด นั้นจะเป็นชั้นของ Master Bedroom ทั้งชั้นทำให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถกั้นส่วนแต่งตัวให้เป็น Walk in closet ได้ ในห้องมีห้องน้ำและระเบียงกว้างส่วนตัว พื้นที่ในห้องแบ่งเป็นมุมพักผ่อนหรือมุมทำงานได้

ตัวบ้านใช้โทนสีเรียบไม่ฉูดฉาด แต่ใช้สีในจุดที่ต่างกันของตัวบ้านคือผนังด้านหนึ่งจะไม่ใช้สีเดียวกันทั้งหมด แต่มีการใช้สีต่างกันระหว่างผนัง เสาและขอบหน้าต่าง อีกทั้งยังมีเส้นสายระแนงเหล็กสีเข้มและแทรกด้วยสีขาวทำให้เกินลวดลาย อีกทั้งยังเป็นจุดที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์จึงบังไว้เพื่อความสวยงาม

บ้านจริงที่ได้ ประตูรั้วเป็นประตูเหล็กบานพับสีดำ กำแพงบ้านเป็นสีเดียวกับตัวย้าน

ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถ โดยบ้านจริงจะได้แบบนี้ค่ะคือปูคอนกรีตฉาบเรียบให้เลย

ตรงกำแพงบ้านจะมีกล่องจดหมาย ไฟหน้าบ้านและกริ่ง ส่วนถังขยะจะเป็นถังสีดำหน้าบ้านแต่ละหลัง

ประตูบ้านเป็นประตูกระจกรางเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง มีเฉลียงหน้าบ้านยกระดับจากพื้นหน้าบันไดขึ้นมา เป็นทรายล้างและกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม. ส่วนพื้นในบ้านจะยกระดับจากพื้นเฉลียงอีกที

เข้าไปในบ้านส่วนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่น พื้นบ้านด้านในจะปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. จากตรงนี้จะเห็นไปถึงหลังบ้านเลยค่ะ ฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยวเพราะ พื้นที่แต่ละส่วนดูกว้างใช้งานได้สะดวก ไม่อยู่ติดกันเกินไป

สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างกระจกและประตูข้างบ้านที่เป็นกระจกเพิ่มทำให้บ้านดูโปร่งและสว่างมากยิ่งขึ้น

ด้านนี้จะเป็นตำแหน่งวางโซฟา สามารถวางโซฟาตัวใหญ่เป็นชุดได้หรือ L-shape ได้ มีพื้นที่ว่างด้านข้างให้วางโต๊ะกาแฟเล็กๆ หรือโคมไฟ ด้านหลังบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างกระจกยาวบานเล็ก ทำให้มุมนี้ได้แสงธรรมชาติและดูโปร่ง

ด้านตรงข้ามเป็นตำแหน่งวางทีวี จะทำเป็นชั้นวางทีวีเพื่อวางทีวีตัวใหญ่ได้เพราะระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาสามารถวางขนาดใหญ่ได้แต่ต้องดูขนาดว่าไม่กว้างเกินพื้นที่ผนังนะคะ พื้นที่ด้านบนก็ยังสามารถทำเป็นชั้นวางของ ด้านข้างขนาบด้วยบันไดและห้องเก็บของใต้บันได

ห้องเก็บของใต้บันไดที่อยู่ข้างทีวีค่ะ พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาลอ่อน

หันกลับไปดูหน้าบ้าน จะเห็นระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาว่ามีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สะดวก สามารถวางโซฟาชุดแบบนี้ หรือจะวางโซฟา L-shape ให้นอนดูทีวีแบบสบายๆก็ได้ ด้านหน้าวางโต๊ะกาแฟก็ยังเดินผ่าน และใช้งานได้สะดวก อีกทั้งมีประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกจึงทำให้มุมนี้สว่างและโปร่ง

พื้นที่ระหว่างโซฟากับโต๊ะทานอาหารมีพื้นที่กว้างพอให้วางเป็นชั้นวางของหรือตู้หนังสือได้ หรือถ้าขยับโต๊ะทานอาหารไปใกล้กับประตูหลังบ้านอีกนิดก็จะทำให้วางโต๊ะทำงานตรงนี้ได้

ถัดไปเป็นมุมทานอาหาร ห้องครัว และประตูที่เปิดไปยังหลังบ้าน

มุมทานอาหารสว่างเพราะอยู่ติดประตูกระจกหลังบ้าน ซึ่งบ้านแปลงมุมจะได้ประตูกระจกที่สามารถเปิดไปยังสวนข้างบ้านได้

สามารถวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้สบายๆ

ประตูหลังบ้านเป็นประตูกระจกรางเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง

พื้นที่หลังบ้านจริงจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ จะวางสวนกระถางหรือต่อเติมเป็นมุมซักล้างก็ได้ค่ะ

ด้านนี้เป็นห้องครัวและห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องครัวสามารถกั้นเป็นห้องครัวปิด หรือจะทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ออกมาแบบนี้เพื่อใช้งานก็ได้ บ้านจริงที่ได้จะเป็นห้องเปล่าไม่ได้กั้นหรือมีบาร์ให้นะคะ พื้นห้องครัวก็จะเป็นแกรนิตโต้แบบเดียวกับส่วนทานอาหารปูต่อเนื่องเข้าไปเลย

ส่วนบาร์อาจทำเป็นมุมวางจานชามแบบนี้ หรือวางเป็นเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม กาน้ำร้อน กาแฟ หรือเครื่องปิ้งขนมปังสำหรับอาหารง่ายๆยามเช้า

ด้านในทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L ได้ ทำให้มีพื้นที่ทำครัวเยอะ อีกทั้งเหนือเคาน์เตอร์ครัวจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องครัวสว่างและถ่ายเทอากาศได้ดี

พื้นที่ครัวตัว L เมื่อวางอ่างล้างจานและเตาไปแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือให้เตรียมอาหารได้อีกพอสมควร บ้านไหนทำอาหารหนักก็ทำเป็นครัวปิดและติดตั้งเครื่องดูดควันนะคะ

ด้านนี้ก็จะเป็นมุมวางตู้เย็น

ติดกั้นนั้นเป็นห้องน้ำชั้นล่างค่ะ บ้านจริงผนังจะเป็นขาว ประตูเป็นสีขาวเช่นกัน

พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องลงไปเล็กน้อยค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องโทนสีน้ำตาลอ่อนขนาด 30×30 ซม.

ในห้องไม่มีหน้าต่างกระจกจึงมีพัดลดระบายอากาศให้ค่ะ ในห้องน้ำเป็นโทนสีขาวทำให้ห้องน้ำดูกว้าง และสะอาดตา

อ่างล้างหน้าตรงผนังจะมีขอบผนังมาให้ ทำให้สามารถวางของได้เยอะขึ้น ด้านบนติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ให้ค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen สายชำระและที่แขวนทิชชู่

บันไดอยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้าน ขั้นบันไดเป็นไม้ยางประสานสีน้ำตาล ตรงชานพักมีช่องแสงทำให้บันไดสว่าง

บันไดมีราวจับตลอดแนวติดผนัง ชานพักเป็นแบบสี่เหลี่ยมมีช่องแสงทำให้บันไดสว่างและไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเพื่อใช้งานบันไดในตอนกลางวัน

ชั้น 2 พื้นเป็นลามิเนตสีน้ำตาล ชั้นนี้มี 2 ห้องนอนที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน และ 1 ห้องน้ำ โดยห้องนอน 2-3 ใช้ร่วมกันค่ะ

ขึ้นมาจะเจอกับห้องน้ำก่อนค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องลงไปเล็กน้อยค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องโทนสีน้ำตาลอ่อนขนาด 30×30 ซม.

เข้ามาในห้องน้ำด้านขวามือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Mogen พร้อมสายชำระและที่ใส่ทิชชู่ ด้านหลังมีผนังเตี้ยทำให้มีพื้นที่วางของเพิ่ม

อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกับประตู ผนังหลังอ่างมีกำแพงเตี้ยทำให้วางของเพิ่มได้เยอะ เหนืออ่างมีกระจกเงา ด้านข้างมีที่แขวนผ้าขนหนู

ส่วนอาบน้ำจะอยู่ระหว่างอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ค่ะ ไม่ได้แยกส่วนแห้งและเปียกชัดเจน เพราะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำแต่พื้นจะมีขอบปูนกั้น ทำให้เวลาอาบน้ำ น้ำจะไม่ไหลเลอะเทอะออกมา

เหนือส่วนอาบน้ำมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง ทำให้ส่วนอาบน้ำมีแสงธรรมชาติเข้ามาและช่วยระบายอากาศ

ห้องถัดมาคือห้องนอน 3 พื้นเป็นลามิเนตแบบเดียวกันปูต่อเนื่องเข้าไปเลยค่ะ

ภายในกว้างทำให้ใช้งานได้สะดวก และสว่างเพราะเป็นบ้านแปลงมุมจึงมีหน้าต่าง 2 จุด

เตียงสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแบบนี้ได้ มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้ใช้งานสะดวก แต่ถ้าจะวางเตียง 5 ฟุตก็ไม่มีปัญหาค่ะเพราะห้องกว้างพอให้วาง

หัวเตียงมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง

ปลายเตียงมีพื้นที่วางชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของได้ ด้านข้างเป็นหน้าต่างกระจก ทำให้ห้องสว่าง

ด้านนี้เป็นมุมวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง จากที่เห็นจะสามารถวางตู้ใบใหญ่ได้เลย อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ได้

พื้นที่ระหว่างตู้เสื้อผ้าและเตียงมีระยะห่างพอสมควร ดังนั้นถ้าจะวางเป็นโต๊ะทำงานตรงหัวเตีย

ห้องติดกันนั้นคือห้องนอน 2 ที่มีขนาดเท่ากันกับห้องเมื่อกี้ค่ะ พื้นเป็นลามิเนตปูต่อเนื่องเข้าไปเลย

ห้องนี้ขนาดเท่ากับห้องเมื่อกี้แต่ตกแต่ง และวางเตียงใหญ่กว่าเพื่อเป็นไอเดียนะคะว่าสามารถทำได้แล้วจะเหลือพื้นที่ในห้องมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะเห็นได้ว่าสามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆได้ครบครันเลย

เตียงวางขนาด 5 ฟุตก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงและข้างเตียงเหลือให้ใช้งานสะดวก

หัวเตียงวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ อีกด้านวางเป็นโต๊ะทำงาน

ปลายเตียงวางชั้นวางของได้ ข้างเตียงเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ กรอบอลูมิเนียมสีขาว

อีกด้านเป็นมุมวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าค่ะ

พื้นที่ระหวางตู้เสื้อผ้าและเตียงเหลือเยอะทำให้ใช้งานสะดวก โต๊ะถ้าทำเป็นแนวยาวแบบนี้สามารถแบ่งครึ่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกด้วย

ต่อไปจะพาไปชมชั้นบนสุด นั่นก็คือชั้นสาม ชานพักมีหน้าต่างกระจกทำให้บันไดสว่าง ขั้นบันไดเป็นไม้ยางประสานสีน้ำตาล

บันไดมีราวจับให้ตลอดแนว ราวกันตกเป็นเหล็กสีขาวมือจับเป็นไม้สีน้ำตาล เหนือชานพักยังมีช่องแสงด้านบนเป็นช่องแสงแนวยาว ทำให้บันไดสว่างไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลยค่ะ

ขึ้นมาชั้นบนก็จะเจอกับทางเข้าของห้องนอน 1 หรือ Master Bedroom พื้นเป็นลามิเนตแบบเดียวกับชั้น 2

ภายในกว้างขวางเพราะเป็นห้องที่กินพื้นที่ทั้งหมดของชั้นนี้ เข้ามาด้านในจะแบ่งเป็นสัดส่วน ด้านซ้ายเป็นส่วนพักผ่อน ด้านขวาคือห้องน้ำและส่วนแต่งตัว

ทางด้านซ้ายที่เป็นส่วนพักผ่อนจะสามารถวางเตียงและโต๊ะทำงานได้ ห้องสว่างเพราะมีระเบียงส่วนตัวที่ประตูเป็นประตูกระจกบานใหญ่

เตียงสามารถวางขนาด 5-6 ฟุตได้ พื้นที่ปลายเตียงและข้างเตียงเหลือให้เดินผ่านได้สะดวก หัวเตียงวางโต๊ะเล็กๆได้ทั้งสองข้าง

ปลายเตียงทำเป็นชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของได้ และยังมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้สะดวก

ข้างเตียงด้านนี้เป็นระเบียง โดยประตูเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง ทำให้มุมเตียงดูโปร่งสบาย

พื้นที่ระเบียงไม่กว้างนัก ราวกันตกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ทำให้ระเบียงดูโปร่งและดูกว้างขึ้น อีกทั้งยังทำให้ห้องดูกว้างเพราะไม่มีแนวของราวกันตกบังวิว

อีกด้านของห้องก่อนถึงส่วนแต่งตัวจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ จะทำเป็นมุมทำงานหรือมุมพักผ่อนส่วนตัวก็ได้ค่ะ

ทำเป็นมุมทำงานแบบนี้ ด้านข้างวางเป็นชั้นวางของหรือชั้นหนังสือได้ค่ะ และถ้าอยากมีมุมนั่งเล่นส่วนตัวก็สามารถวางโซฟาเป็นมุมพักผ่อนได้

ติดกันนั้นเป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว ผนังด้านนี้บ้านจริงจะไม่ได้มีประตูให้นะคะ

เข้ามาด้านในพื้นเป็นลามิเนต ด้านซ้ายเป็นห้องแต่งตัว ด้านขวาเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็นพื้นที่ระเบียงที่สามารถวางต้นไม้เพื่อให้ห้องดูร่มรื่นได้

มุมแต่ตัวทำเป็นตู้เสื้อผ้าบานใหญ่แบบนี้และเป็น Walk in closet ได้ และมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้ง

ด้านนี้เป็นห้องน้ำค่ะ

พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม.ลดระดับจากพื้นห้องแต่งตัวลงไปอีกเล็กน้อย

อ่างล้างหน้าของ Mogen วางบนเคาน์เตอร์ซึ่งด้านล่างเป็นตู้เก็บของได้ ด้านบนมีกระจกเงาให้ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ของ Mogen พร้อมสายชำระและที่ใส่ทิชชู่ ด้านหลังมีผนังเตี้ยทำให้วางของเพิ่มได้อีกเยอะ

ติดกันนั้นเป็นส่วนอาบน้ำ ห้องนี้จะแยกส่วนแห้งและเปียกชัดเจนเพราะมีฉากกั้นอาบน้ำให้ อีกทั้งพื้นยังมีขอบปูนทำให้เวลาอาบน้ำ น้ำไม่ไหลเลอะเทอะออกมายังส่วนแห้ง

ฝักบัวและที่วางสบู่ค่ะ มุมนี้คงต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่ม

ราคา (พ.ค.60)

• TH-01 ทาวน์โฮม 3 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 ม. ขนาดที่ดิน 18.8 ตร.วา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.19 ล้านบาท หรือ 222,870 บาท/ตร.วา
• TH-01 (แปลงมุม) ทาวน์โฮม 3 ชั้นพื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 ม. ขนาดที่ดิน 27.1 ตร.วา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.07 ล้านบาท หรือ 187,080 บาท/ตร.วา

จองและทำสัญญา 50,000 บาท

ค่าส่วนกลาง : 1,000 บาท/หลัง/เดือน (เก็บล่วงหน้า 2 ปี )

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

บทสรุปโครงการ

ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ The Plant Citi แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนป๊อปปูล่า ซึ่งเป็นถนนที่ใกล้ทางด่วนและอิมแพค เมืองทองธานี เชื่อมไปยังถนนบอนด์สตรีทซึ่งตรงไปถนนติวานนท์ได้ โดยรอบเป็นย่านพักอาศัย ไม่ไกลจากร้านค้า ร้านอาหาร, สถานศึกษา, วัดวาอารามและห้างสรรพสินค้า

ความอุดมสมบูรณ์ – ที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านพักอาศัย มีหลายหมู่บ้านอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มคอนโดมิเนียมสูงเมืองทองธานี ทำให้ไม่ไกลจากร้านค้าและร้านอาหาร โดยเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์คือถนนบอนด์สตรีทค่ะ สองข้างทางมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช ดังนั้นโซนใกล้มหาลัยนี้จะยิ่งมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งตรงข้ามมีคอมมูนิตี้มอล ชื่อ BeeHive ข้างในมีร้านค้าและร้านอาหารมายมายให้มาฝากท้องและจับจ่ายใช้สอย

หรือถ้าไปถนนแจ้งวัฒนะก็จะเป็นเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเส้นนี้จะมีทั้ง Central แจ้งวัฒนะ, BigC แจ้งวัฒนะ, Lotus แจ้งวัฒนะ อีกทั้งที่ตั้งโครงการอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษาเช่น รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี, รร.พิชญศึกษา, รร.อัมพรไพศาล, Harrow International School

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ ถือว่าสะดวกสมควรเนื่องจากถนนหน้าโครงการใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งเป็นทางด่วนที่เชื่อมกับทางด่วนศรีรัช ทำให้ไปเข้า-ออกตัวเมืองได้สะดวก สำหรับถนนป๊อปปูล่านั้นเชื่อมไปยังถนนบอนด์สตรีท ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนติวานนท์และถนนแจ้งวัฒนะ

สำหรับเส้นติวานนท์ สามารถตรงไปยังรังสิตได้ หรือเชื่อมกับถนนศรีสมาน ตรงไปยังดอนเมือง, ถนนพหลโยธินอีกทั้งยังเป็นเส้นที่วิ่งผ่านตัวเมืองนนทบุรี ทำให้เชื่อมต่อกับถนนย่อย และถนนหลักมากมาย ตรงไปยังแจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์ และไปได้ถึงพระราม 5 เลย

สำหรับถนนแจ้งวัฒนะเป็นอีกหนึ่งถนนเส้นหลักที่มีความคึกคัก เชื่อมกับถนนติวานนท์และชัยพฤกษ์ตรงห้าแยกปากเกร็ด ตรงไปยังบางบัวทอง, ดินเมือง เชื่อมไปยังถนนพหลโยธินและรามอินทรา เส้นนี้สามารถไปยังม.เกษตรและห้างสรรพสินค้าได้หลากหลาย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –การเดินทางโดยไม่ใช้รถ แม้ว่าถนนโครงการนั้นอยู่บนถนนที่ยังไม่มีรถโดยสารสาธารณะวิ่งผ่านจึงไม่ค่อยสะดวกนัก แต่แท็กซี่จะมีให้เรียกเป็นระยะ สามารถไปขึ้นรถตู้ที่อิมแพคเมืองทองธานี แต่ถ้าไปยังถนนติวานนท์จะมีรถโดยสารหลายสายวิ่งผ่าน ส่วนถนนแจ้งวัฒนะก็มีผ่านหลายสาย อีกทั้งตรงเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะยังมีรถตู้หลายสายเช่นกันค่ะ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – การออกแบบสำหรับภายนอกนั้นในเรื่องความสวยงามอาจขอข้ามนะคะ เพราะความชอบไม่เหมือนกัน โดยใช้โทนสีเรียบไม่ฉูดฉาด แต่ใช้เฉดที่ต่างกันทำให้ตัวบ้านดูมีมิติ มีการใช้เส้นสายต่างสีเพื่อตัดกับสีของตัวบ้านและมีเส้นสายระแนงเพิ่มเข้ามา ตัวบ้านจะมีหน้าต่างและประตูกระจกหลายจุดซึ่งจะทำให้บ้านภายในดูโปร่ง และสว่างเพราะได้แสงธรรมชาติเข้าไปในตัวบ้าน อีกทั้งระดับฝ้าเพดานของแต่ละชั้นจะสูง 2.6 ม.ทำให้บ้านดูโปร่ง ไม่อึดอัด

การออกแบบฟังก์ชั่นภายในถือว่าครบครัน พอเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง 4-5 คน ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คัน ชั้นล่างพื้นที่ใช้สอยกว้างไม่อึดอัดกันในแต่ละส่วน บ้านที่ชอบทำครัวก็ไม่จำเป็นต้องต่อเติมหลังบ้านเพราะพื้นที่ครัวมีให้เพียงพอ กั้นเป็นครัวปิดก็ได้

ห้อง Master Bedroom ก็จะได้เป็นห้องใหญ่เพราะได้พื้นที่ 1 ชั้นเต็มๆ จึงมีห้องน้ำและระเบียงกว้างส่วนตัว พื้นที่ในห้องก็แบ่งให้เป็นมุมพักผ่อนหรือมุมทำงานได้ ส่วนห้องนอน 2-3 ขนาดพอเหมาะวางเฟอร์นิเจอร์เตียง ตู้ โต๊ะทำงานได้ครบครันและพื้นที่ใช้สอยก็ใช้งานได้สะดวก

วัสดุ – วัสดุถือว่าให้มามาตรฐาน พื้นชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้ ชั้น 2-3 เป็นลามิเนตหนา 8 มม., พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม., ประตูระเบียงและหน้าต่างกรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง ,ไฟดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปาบางจุด, รั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กสีดำ บานพับ, ประตูเป็นบาน HDF, ประตูห้องน้ำบาน UPVC

สิ่งอำนวยความสะดวก – หน้าโครงการตรงประตูทางเข้า-ออกติดตั้ง CCTV และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชมค่ะ ถนนหลักของโครงการมีต้นไม้, ไม้พุ่มริมทางทำให้โครงการดูร่มรื่น พื้นที่สวนส่วนกลางพร้อมทางเดินในสวนและสนามเด็กเล่น

คะแนน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739
Website : http://www.pruksa.com

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

“แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ” Presale 27-28 พ.ค. นี้ เริ่ม 1.89 ลบ.*

ช้าหมดอดวิวสวยกับโครงการ “แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ“ คอนโดใหม่แต่งครบวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่กระแสแรงที่สุดในขณะนี้ เปิดขายอย่างไม่เป็นทางการกวาดยอดขายไปแล้วกว่า 70%

พิเศษกับห้องสวยที่ได้ทั้งวิวแม่น้ำและสวนส่วนกลางในราคาเพียง 1.79 ล้านบาท และ 1 ห้องนอน เพียง 2.29 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอสุดคุ้มผ่อนเริ่ม 3,900 บาท/เดือน

พิเศษจองในงานรับส่วนลด 100,000 บาท พร้อมรับฟรี Central Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 20,000 บาท และบัตรน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท ห้ามพลาด presale 27-28 พ.ค. นี้ ที่สำนักงานขาย

รายละเอียดเพิ่มเติมโทร.1739 หรือ line@ id : @chapteronecondo

ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ บางนา-เอแบค Pruksa Ville Bangna-Abac

Pruksa Ville บางนา-เอแบค ทาวน์โฮมสไตล์สไตล์ยุโรป จาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งอยู่ในซอยบางนาการ์เด้น 7 อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ใกล้ ม.อัสสัมชัน, รร.นวมินทร์ราชูทิศ, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, โรงพยาบาลบางนา 2, มอเตอร์เวย์ และ ทางด่วนบางนา

พฤกษาวิลล์ บางนา-เอแบค เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 18.00 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 86.00-104.00 ตร.ม. ฟังก์ชั่นบ้าน 2-3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1-2 คัน ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ สวนสาธารณะ, กล้องวงจรปิด, เข้า-ออกโครงการระบบ Auto Access Card และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่บางส่วนปี 2560

มิ.ย. นี้ เปิดล็อคแปลงสวย ยื่นกู้ก่อน รับสิทธิ์ก่อน ลงทะเบียนเพื่อรับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท คลิกเลย*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยบางนาการ์เด้นซ. 7 อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

:: HOUSE TYPE ::

• แบบบ้าน Florence
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 86.00 ตร.ม.
• ขนาด : 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Venezia
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 104 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Website : http://pruksaville.pruksa.com

EP.817 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ แพลนท์ ปากเกร็ด The Plant Pakkred

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ The Plant ปากเกร็ด จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งอยู่ติดซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ปากซอยเป็นถนนชัยพฤกษ์ และเข้าออกได้อีกทางจากซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ปากซอยเป็นถนนติวานนท์ ใกล้รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา ทางด่วนศรีรัช

เดอะ แพลนท์ ปากเกร็ด เป็นโครงการบ้านแฝด และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 20-2-76 ไร่ มีบ้านทั้งหมด 115 ยูนิต แบบบ้านมีให้เลือก 3 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 121 – 159 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อมพื้นที่สวนรอบบ้าน สร้างเสร็จพร้อมอยู่ครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก ในโครงการมีให้ครบครัน ทั้งสวนสาธารณะ, Club House, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, พื้นที่นั่งพักผ่อน, Access Card, กล้องวงจรปิดที่ประตูเข้าออก และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมงในราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขาประชาสรรค์ 2 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.940995, 100.527259

ที่ตั้งโครงการ The Plant ปากเกร็ด ตั้งอยู่ในซอยสุขาประชาสรรค์ 2 เดินทางเข้าออกได้ทั้งจากซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ปากซอยเชื่อมกับถนนชัยพฤกษ์ และอีกทางจากซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ปากซอยเชื่อมกับถนนติวานนท์

การเดินทางเข้าเมือง ใช้เส้นติวานนท์ ถ้าไปฝั่งแยกสวนสมเด็จก็ไปเลี้ยวเข้าถนนศรีสมาน มาขึ้นทางด่วนอุดรรัถยาวิ่งเข้าเมืองได้เลย หรือจะตรงไปทางถนนสรงประภาและไปออกถนนวิภาวดีรังสิตวิ่งเข้าเมืองได้เลย อีกทางถ้ามาทางห้าแยกปากเกร็ด ก็มาเข้าถนนแจ้งวัฒนะ ตัดเข้าถนนเลียบคลองปะปาวิ่งเข้าเมืองได้ หรือขึ้นทางด่วนศรีรัชวิ่งเข้าเมืองก็ได้ หรือใช้เส้นแจ้งวัฒนะตรงไปออกวิภาดีรังสิตได้เช่นกัน นอกจากนี้เส้นติวานนท์ยังตรงไปเข้างามวงศ์วาน เชื่อมไปเกษตร พหลโยธินได้อีกด้วย

การเดินทางออกนออกเมือง เส้นติวานนท์วิ่งออกไปทางฝั่ง นนทบุรี ปทุมธานีได้เลย เส้นนี้จะไปตัดกับถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทองเชื่อมออกถนนกาญจนาภิเษกได้ หรือเลยไปสิ้นสุดที่จุดตัดกับถนนรังสิต-ปทุมธานี ถ้ามาฝั่งห้าแยกปากเกร็ดมาตัดกับถนนชัยพฤกษ์วิ่งไปเชื่อมออกถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษกได้ครับ หรือมาตรงแยกแครายจะมาตัดกับถนนรัตนาธิเบศร์ หรือเลยมาเชื่อมออกนครอินทร์ พระราม 5 ถ้าจะไปโซนรามอินทราก็ใช้เส้นแจ้งวัฒนะวิ่งตรงไปวงเวียนหลักสี่ไปเข้าถนนรามอินทราได้เลย หรือจะออกสะพานใหม่ก็ได้ครับ

การเดินทางโดยสาธารณะ เนื่องจากพื้นที่โครการเข้ามาลึกพอสมควรเรียกได้ว่าเป็นท้ายซอยเลย รถรับจ้างสาธารณะจะวิ่งเข้าไปไม่ค่อยถึง โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่มีรถส่วนตัวมากกว่า วินมอเตอร์ไซค์ต้องมาขึ้นแถวปากซอยทางเข้าวัดศรีรัตนารามจะมีวินอยู่ตรงปากซอย หรือจะขอเบอร์ติดต่อไว้ก็จะสะดวกกว่าครับ ช่วงซอยสุขาประชาสรรค์จะมีรถสองแถววิ่ง Taxi ก็มีครับ รถเมล์จะมีตรงเส้นติวานนท์มีวิ่งผ่านไปมาหลายสายเลย นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดยสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีหลักสี่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 12.8 กม. คงได้ใช้กันอีกไม่กี่ปี และในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีปากเกร็ด จะอยู่ตรงห้าแยกปากเกร็ดห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. ครับ

ทางด่วนขาเข้าเมือง ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัช จากโครงการวิ่งมาออกติวานนท์ และมาเข้าถนนบอนด์สตรีทและวนไปขึ้นทางด่วนจะอยู่แถวๆเมืองทองครับ โดยระยะจากโครงการมาประมาณ 6.9 กม.

ทางด่วนขาออกเมือง วิ่งออกถนนติวานนท์และไปเข้าถนนศรีสมานและเลี้ยวขึ้นทางด่วนได้เลย โดยระยะจากโครงการมาประมาณ 8.3 กม.

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า และมีบ้านพักอาศัยกระจายอยู่รอบๆ ฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับพื้นที่กรมการขนส่งทหารบก

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนวิภาวดีรังสิตมุ่งหน้ารังสิต และไปเข้าถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าไปทางปากเกร็ด ตรงไปจนถึงห้าแยกปากเกร็ดเลี้ยวขวาเข้าถนนติวานนท์ จากนั้นไปเลี้ยวเข้าซอยสุขาประชาสรรค์ 3 และตรงไปเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขาประชาสรรค์ 2 จากนั้นวิ่งตามทางไปสุดซอย โครงการจะอยู่ทางขวามือครับ

สรุปการเดินทาง ถนนวิภาดีรังสิต > ถนนแจ้งวัฒนะ > ถนนติวานนท์ > ซอยสุขาประชาสรรค์ 3 > ซอยสุขาประชาสรรค์ 2 > The Plant ปากเกร็ด

เร่ิมจากถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้ารังสิต

จะใช้เส้นคู่ขนาน หรือวิ่งเส้นในใต้ทางด่วนโทลล์เวย์ก็ได้ครับ

วิ่งมาสักพักจะเจอป้ายทางออกคู่ขนาน ปากเกร็ด

ออกมาจะเจอป้ายไปปากเกร็ด เตรียมเลี้ยวซ้ายครับ

จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ

ข้ามทางรถไฟไปครับ

ตอนนี้เราอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ซ้ายมือจะเจอบริษัท TOT

ขับตามป้ายปากเกร็ดไปครับ

จากนั้นจะเจอ Big C ขวามือ

เลยมาอีกจะเจอ Tesco Lotus และ The Avenue ขวามือ

เลยมาจะเจอ Makro ซ้ายมือ

ขับตรงตามป้ายปากเกร็ดไปอีกครับ ซ้ายมือมีทางขึ้นทางด่วนศรีรัช

จากนั้นจะเจอสถาบันการจัดการปัญญาภิวัตน์ซ้ายมือ

เลยมาเป็น Central แจ้งวัฒนะซ้ายมือ

ถัดมาเป็น รพ.เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ซ้ายมือ

เลยมาอีกหน่อยมี HomePro และ Big C

จากนั้นขับตามถนนติวานนท์ต่อ

จากนั้นจะเจอห้าแยกปากเกร็ด ให้เลี้ยวขวาไปถนนติวานนท์ครับ

เลี้ยวขวามาจะเป็นถนนติวานนท์ขับตรงไปครับ

ถัดมาจะเจอปั๊ม PTT ซ้ายมือ

เลยมาจะเจอ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี ขวามือ

ถัดมาซ้ายมือเป็นโรงพยาบาลกรุงไทย

จากนั้นขับตรงตามป้ายปทุมธานีไปครับ

เมื่อเห็นร้าน BIZ ซ้ายมือให้เตรียมชิดเลนซ้ายไว้ครับ

ชิดเลนเลนแล้วโค้งไปตามทางครับ

ขับตรงไปตามทางอีกครับ

จากนั้นจะเจอซอยซ้ายมือเป็นซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ปากซอยมีป้ายวัดกู้

จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสุขาประชาสรรค์ 3 เข้าไปอีกประมาณ 2.9 กม. จะถึงโครงการครับ

เลี้ยวเข้ามาเป็นซอยสุขาประชาสรรค์ 3 เป็นถนนที่รถวิ่งสวนกันได้ครับ

จากนั้นก็ขับตามป้ายโครงการไปครับ

สองฝั่งทางก็จะมีร้านค้า ร้านอาคาร ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซ่อมรถเป็นระยะๆ ขับตรงไปอีก

ช่วงนี้เป็นบ้านพักอาศัย และร้านค้า

ถัดมาซ้ายมือเป็นทางเข้าโรงเรียนพิชญศึกษา

ถัดมาขวามือเป็นหมู่บ้านสีวลี ฝั่งซ้ายข้างหน้ามีร้านค้า ร้านอาหาร

จากนั้นจะเจอป้ายโครงการบอกทางตรงไป ขวามือเป็นหมู่บ้านโครงการ Golden Avenue

ช่วงนี้มีร้านค้าหลายร้านเลย

ช่วงนี้เป็นร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ขับมาจนสุดซอยสุขาประชาสรรค์ 3 จะเจอแยกตัดกับซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ให้เลี้ยวขวาครับ

จากนั้นให้เลี้ยวขวาครับ ตรงหน้ามีวินมอเตอร์ไซค์

เลี้ยวขวามาจะเป็นซอยสุขาประชาสรรค์ 2

ตรงตามป้ายโครงการเข้าไปอีกครับ

จากนั้นซ้ายมือเป็นวินมอเตอร์ไซค์

ตรงเข้าไปอีกครับ

จากนั้นก็ข้ามสะพานไปอีก

จากนั้นจะเจอป้ายโครงการบอกทางอีก 100 ม.

ข้างหน้าก็จะมองเห็นโครงการแล้วครับ

ทางเข้าโครงการอยู่ขวามือครับ

ขอบเขตด้านหน้าโครงการ (เส้นสีแดง)

ด้านหน้าประตูทางเข้าโครงการ

มองไปทางซ้ายพื้นที่ติดกับที่ดินว่างเปล่า ถัดไปข้างในจะเป็นพื้นที่ของกรมการขนส่งทหารบกครับ รถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไปออกซอยวัดสลักเหนือได้ครับ

มองไปทางขวาติดกับพื้นที่ว่างเปล่า

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการก็เป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ตอนนี้

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดินลำบอกหน่อย ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า และบ้านพักอาศัย ต้องออกมาแถวๆจุดตัดกับซอยสุขาประชาสรรค์ 3 กับ 2 ครับ มีร้านค้า ร้านโชห่วย ร้านก๋วยเตี๋ยวพอฝากท้องได้บ้าง มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 , 108 Shop ตลาดสดใกล้ๆมีตลาดดวงแก้วพลาซ่า ตลาดเทศบาลนครปากเกร็ด ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมีโรบินสันศรีสมาน และตรงห้าแยกปากเกร็ดมี Major Hollywood เส้นแจ้งวัฒนะจะเยอะหน่อยมีทั้ง Central , Big C , Tesco Lotus , Major , Makro , Homepro

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• 7-11 : 1.1 กม.
• Major Hollywood : 6 กม.
• โรบินสัน ศรีสมาน : 7.1 กม.
• Big C แจ้งวัฒนะ 2 : 7.2 กม.
• Homepro แจ้งวัฒนะ : 7.2 กม.
• Central แจ้งวัฒนะ : 8 กม.
• Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ : 9.9 กม.
• Major แจ้งวัฒนะ : 10.6 กม.
• Makro แจ้งวัฒนะ : 12 กม.

• รร.อัมพรไพศาล : 3.1 กม.
• รร.กองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ. : 4.2 กม.
• รร.วัดสลักเหนือ : 5.9 ม.
• ม.สุโขทัยธรรมาธิราช : 6.8 กม.
• รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี : 6.9 กม.
• รร.อนุบาลปาลินา-ติวานนท์ : 7.2 กม.
• รร.พระหฤทัยนนทบุรี : 7.3 กม.
• สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ : 9.6 กม.

• รพ.วิภาราม ปากเกร็ด : 6.8 กม.
• รพ.กรุงไทย : 6.8 กม.

• วัดสลักเหนือ : 5.9 ม.
• เมืองทองธานี : 6.7 กม.
• ตลาดเทศบาลนครปากเกร็ด : 5.2 กม.
• ตลาดดวงแก้ว พลาซ่า : 7.5 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ซอยสุขาประชาสรรค์ 3 : 1.1 กม.
• ถนนติวานนท์ : 2.9 กม.
• ถนนบอนด์สตรีท : 4 กม.
• ถนนชัยพฤกษ์ : 5 กม.
• ถนนศรีสมาน : 5.8 กม.
• ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง : 5.8 กม.
• ถนนแจ้งวัฒนะ : 6 กม.
• ถนนภูมิเวท : 6 กม.
• ถนนสรงประภา : 7.8 กม.
• แยกสวนสมเด็จ : 5.8 กม.
• ห้าแยกปากเกร็ด : 6 กม.
• แยกศรีสมาน : 7.8 กม.

โครงการ

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือหรือฝั่งด้านหน้าโครงการติดกับซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ทิศตะวันตกติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ว่างเปล่า และพื้นที่กรมการขนส่งทหารบก และทิศใต้ด้านหลังโครงการพื้นที่ดินกับกรมการขนส่งทหารบกทั้งหมดครับ

จากทางเข้าด้านหน้าโครงการจะมีป้อมยาม ผ่านเข้ามาจะเจอซอยย่อยซอยแรกซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย และบ้านตัวอย่าง ส่วนซอยอื่นๆตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่ ช่วงกลางพื้นที่โครงการจะมีสวนหย่อมและ Club House อยู่ติดกันเลย ตอนนี้ยังอยู่ใรช่วงก่อสร้างเช่นกันครับ

เริ่มจากประตูทางเข้าออกโครงการ แบ่งทางเข้าออกซ้ายขวา ตรงกลางเป็นป้อมยาม

มีป้ายโครงการติดไว้ชัดเจน พร้อมตกแต่งสวนหย่อม

ตรงทางเข้าจะเป็นเลนระหว่างลูกบ้าน และ Visitor

ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรก่อนทุกครั้งครับ

ผ่านป้อมยามเข้ามาจะเจอถนนหลักกว้าง 12 ม. ถ้าตรงเข้าไปด้านในถนนหลักจะกว้าง 9 ม.

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ

หันกลับมาจะเจอสวนหย่อม

อีกฝั่งก็เป็นสวนหย่อม

ตรงเข้ามาอีกจะเจอซอยแรกซึ่งเป็นสำนักงานขาย และบ้านตัวอย่าง ส่วน Club house จะอยู่ด้านในซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่ครับเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝาก

เลี้ยวเข้ามาซอยแรก ถนนซอยจะกว้าง 8 ม.

หลังแรกจะเป็นสำนักงานขาย

ถัดเข้ามาอีก 3 หลังจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 3 แบบครับ

House Type

โครงการนี้มีบ้านให้เลือก 3 แบบดังนี้

• แบบบ้าน Peony | บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 121 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
• แบบบ้าน Pieris | บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
• แบบบ้าน Pyrola | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน

• แบบบ้าน Peony | บ้านแฝด 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 121 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Pieris | บ้านแฝด 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Pyrola | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

บ้านตัวอย่าง